กลใจ

158.0K · จบแล้ว
สีดำ
46
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

พิศเพลินไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เจ็ดปีที่มีอีกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตจนกลายเป็นทั้งหมดของชีวิต แต่ในวันนี้เธอเหลือเพียงแปรงสีฟันอันเก่าวางโดดเดี่ยวอยู่ในแก้วเซรามิคสีเปลือกไข่กับเตียงหกฟุตที่อาบด้วยรังสีความเหงา

นิยายสืบสวนสอบสวนนิยายรักตลกดราม่า

Intro

ฉันได้ยินมันชัดยิ่งกว่าอะไร.

ชัดเจนยิ่งกว่าเสียงเครื่องดนตรีมากชิ้นที่ประกบอยู่ข้างหูส่งเสียงระงมงุ๋งงิ๋งรอการโปรเซสมันให้กลายเป็นแบคอัพซาวด์ในคอนเสิร์ตใหญ่ปลายเดือนหน้า เสียงปิดประตูนั่น เสียงก้าวเท้าถี่ๆ เสียงเครื่องยนต์โฟล์คสวาเกนสีเทอร์คอยท์ แม้แต่เสียงยางคู่หน้าที่หักเลี้ยวจนล้อแทบเบียดกับขอบทางเท้าที่หน้ารั้วบ้าน ฉันได้ยินมันชัดยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ความชัดเจนเหล่านั้นตอกย้ำอยู่ในหัวสมองเป็นนาทีก่อนที่ความเงียบจะถาโถมเข้ามา รู้สึกเหมือนบ้านมืดลงไปถนัดใจคล้ายโดนมนต์ดำ หูดับ มือชา ขาสั่น ฉันถอดเฮดโฟนคู่ใจออกแล้ววางมันไว้ที่หน้าเครื่องมิกซ์ซิ่งคอนโทรลตัวเล็กบนโต๊ะกาแฟที่แปรสภาพเป็นโต๊ะทำงานแบบไม่ตั้งใจ ที่หน้าจอแม็คบุ๊คโปรแกรมอีควอไลเซอร์ยังคงแสดงกราฟการผสมเสียงที่ตัดต่อไม่เสร็จซึ่งมันจะต้องเรียบร้อยทันกำหนดการซ้อมใหญ่ของคอนเสิร์ตวงร็อคสตาร์ชาวไอริชที่จะเกิดขึ้นปลายเดือนหน้า ฉันถอนหายใจ ซุกหน้าลงบนฝ่ามือชุ่มเหงื่อของตัวเองอาศัยความอุ่นร้อนนั้นเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นแต่มันก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย เหลียวหันกลับไปมองผ่านกระจกตัดแสงของประตูบานเลื่อน นอกจากสนามหญ้าเล็กๆที่เริ่มรกรุงรังแล้วก็เห็นว่าเธอไม่ได้ปิดรั้วให้กัน ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ชนกระถางต้นไม้หรือเกี่ยวเสารั้วเป็นของที่ระลึกติดรถไปด้วย แสงแดดข้างนอกนั้นจัดจ้าจนมองเห็นไอร้อนระยิบระยับสะท้อนเงากับกระจกตัดแสง ฉันอาจจะคิดดูใหม่เรื่องติดฟิล์มทึบให้กับกระจกทุกบานที่ชั้นล่างเหมือนอย่างที่เธอเคยบอก รั้วไม้เทียมสีมะฮอกกานียังคงตรึงสายตาฉันเอาไว้ ไม่รู้สิ เผื่อว่าเจ้าเต่าสีเทอร์คอยท์จะย้อนกลับมาล่ะมั้ง ผ่านไปครบนาทีเหมือนเป็นการตอกย้ำว่าฉันคิดผิดไปจึงได้แต่หัวเราะให้กับความแกล้งเดียงสาของตัวเองก่อนที่จะได้ยินเสียง JP Cooperคร่ำครวญท่อนสร้อยของ September Song ออกมาพร้อมกับแรงสั่นเบาๆของโทรศัพท์มือถือรุ่นกล้องหลังเลนส์คู่ที่ซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของฉัน

“ว่าไงก้อน”

“ผมอัพโหลดไฟล์ไว้ในไดร์ฟแล้วนะ ที่พี่จะเอาไปคัด EQ ต่ออ่ะ”

“เหรอ” ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพูดอะไร อันที่จริงไม่รู้ด้วยว่าก้อนทองซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานซาวด์เอ็นจิเนียมันพูดอะไรออกมา

“อะไร พี่โอเคป่ะเนี่ย”

“เออ” ฉันเปิดเข้าไปดูในไดร์ฟที่ต้องใส่รหัสการเข้าเยี่ยมชม เปิดออดิโอไฟล์ที่ก้อนทองเพิ่งอัพโหลดเข้ามาด้วยโปรแกรมอีควอไลเซอร์ กราฟยึกยือแสดงอยู่บนกรอบเล็กๆนั่นเหมือนพยาธิเส้นด้ายไม่มีผิด แต่เป็นเส้นด้ายหลายสี

“เดี๋ยวพี่เข้าไปที่ห้องอัดดีกว่า”

“เปิดฟังแล้วเหรอนั่นน่ะ”

“ไม่ต้องฟังล่ะ เสียเวลา” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายแล้วก็ตัดสายก้อนทอง เหลือบมองนาฬิกาที่หน้าจอแม็คบุ๊คบอกว่ากำลังจะเที่ยง ระลึกได้ว่าตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องและอากาศก็ร้อนจนเหงื่อซึมตามข้อพับไปหมด ก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัวเลยโทรไปสั่งแมคเดลิเวอรี่ให้ไปส่งที่ออฟฟิศพอไปถึงจะได้ไม่ต้องเสียงเวลารอ ขณะที่แต่งตัวอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำชั้นบนฉันเหลือบมองแปรงสีฟันของตัวเองวางโดดเดี่ยวอยู่ในแก้วเซรามิคสีเปลือกไข่ ส่วนเครื่องสำอางค์ คลีนซิ่ง สเปรย์ฉีดผม น้ำตบ เซรั่ม ไดร์เป่าผม แม้แต่หมวกคลุมอาบน้ำได้หายไปแล้ว