3
“อายทำไมกัน ก็แค่อ้าขาให้ข้าเอาก็แค่นั้นเอง” เขาจับขาของหล่อนอ้าออกอีกจนกว้าง ดันร่างของหล่อนไปจนชนกับเสาทางด้านหลังแล้วกดกายลงไปหา
“อ๊า... พี่พฤกษ์” กลีบบัวดันอกกว้างของพฤกษ์เอาไว้ ในขณะที่เขาช้อนสะโพกของหล่อนขึ้นแล้วกดเข้าร่องสวาทไปจนสุดลำ
กลีบบัวร้องเสียงหลง ใบหน้าของหล่อนเหยเก ตัวสั่นระริก ดิ้นส่ายด้วยความเจ็บเสียวและตึงคับไปทั้งร่องรัก
ไม่ว่าจะร่วมเสน่หากันไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง หล่อนก็ยังคับแน่นสำหรับเขา และค่อนข้างเจ็บเวลาเขากระทำอย่างไร้ความปรานีเช่นนี้
กลีบบัวกัดปากอย่างอดสู เมียบำเรอเช่นหล่อนเป็นได้แค่เครื่องบำเรอกามของเขาเท่านั้น
“ซี้ด... อ๊า...” พฤกษ์ครางออกมาเพราะความคับแน่นที่รัดท่อนกายเขาแน่นถนัด มือหนาข้างหนึ่งแยกเรียวขาของหล่อนออก อีกข้างช้อนสะโพกสวยเอาไว้ให้รับแรงกระแทก แล้วเริ่มซอยจังหวะถี่ยิบเข้าในร่องเสียว
หยาดน้ำรักไหลซึมไปทั่วร่องสวาทของหล่อนจนไหลหยดไปตามพื้นตรงท่าน้ำ
กลีบบัวเกาะกอดบ่ากว้างของเขาเอาไว้เพื่อหาที่ยึด ให้เขาขย่มเข้ามาตามแต่ใจจะปรารถนา หล่อนไม่ใช่หญิงสาวที่เขารัก ไม่ใช่คนสำคัญที่เขาต้องถนอม เขาจึงกระแทกกระทั้น สับสะโพกลงมาหาอย่างหนักหน่วงไร้ความปรานี
หล่อนอยากให้เขาเสร็จสมเร็วๆ แต่มันเป็นเพียงแค่ความคิดของหล่อนเท่านั้น เพราะพฤกษ์อึดและทนมาก เขาเอานานและเอาทน ทำหล่อนน้ำแตกซ้ำๆ จนบางครั้งถึงกับร่องบวมปวดแสบ กว่าที่เขาจะน้ำแตกและเสร็จสม
หล่อนเคยประท้วงจนลำคอแหบแห้งแต่เขาก็ไม่เคยนำพา
พฤกษ์กระแทกจนหล่อนอ้าปากค้าง ความเจ็บเริ่มหายไปเหลือแต่ความเสียว ไม่นานร่างของหล่อนก็กระตุกเสร็จสมคาดุ้นใหญ่ยาวและแข็งราวราวท่อนไม้ของคู่หมั้นหนุ่ม
“อ๊าย...” กลีบบัวหวีดร้องออกมาเสียงหลง ในขณะที่พฤกษ์จับหล่อนคลานเข่า แล้วเริ่มเอาหล่อนท่าหมาต่อ
“พี่พฤกษ์” กลีบบัวร้องเสียงสั่นเมื่อเขากระแทกเข้ามาจนสุดลำ ดึงออกจนสุดและกระแทกจนสุด ทำเอาหล่อนรู้สึกจุก มือน้อยผวาไปกอดกับเสาของศาลาท่าน้ำเอาไว้ ใบหน้าซบกับหลังมือ ในขณะที่สะโพกถูกดึงขึ้นสูงลอยเด่นอยู่กลางอากาศให้เขาสอดเสยเข้าออกอย่างไม่ปรานี
พฤกษ์หลุดเสียงครางออกมาไม่ขาดปากยามที่เขาได้ฝากฝังร่างเข้าไปในร่องเสียวของหล่อน ทุกสิ่งทุกอย่างดูพลิกคว่ำพลิกหงายไปหมดสำหรับกลีบบัว ก่อนที่สมองของหล่อนจะขาวโพลนอีกครั้ง กระตุกร่างเสร็จสมคาดุ้นของเขาพร้อมร้องครางไม่เป็นส่ำ
“เสร็จอีกแล้วเหรอ ทำเป็นเล่นตัว เจ้าก็ชอบให้ข้ากระแทกเหมือนกันนั่นแหละ” ประโยคของเขาทำให้หล่อนหน้าแดงด้วยความอาย
“พี่พฤกษ์คะ ข้าไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ” กลีบบัวเอ่ยบอก เป็นการขอความปรานีจากเขา แต่ดูเหมือนว่ายิ่งหล่อนพูดเช่นนั้น เขาจะยิ่งกระแทกหนักหน่วงขึ้นจนร่องหล่อนร้อนฉ่าไปหมด
หยาดน้ำรักไหลซึมไปทั่วพื้นไม้ตรงท่าน้ำ ซึ่งมีบางส่วนหยดย้อยไปตามขา ไม่นานหล่อนก็หวีดร้องเสร็จสมอีก กลีบบัวรู้ดีว่าต้องมีบ่าวไพร่ในเรือนได้ยิน หล่อนพยายามอั้นเอาไว้แล้ว แต่มันทำไม่ได้จริงๆ สิ่งเดียวที่หล่อนทำได้ในเวลานี้คือขอให้เขาเสร็จสมให้เร็วที่สุด
กลีบบัวบีบรัดขมิบตอดเขาเป็นจังหวะถี่ยิบ หล่อนเรียนรู้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้เสร็จเร็วขึ้น และหล่อนก็จะหายทรมาน
“อ๊า... เจ้านี่มันสุดยอดจริงๆ เลยแม่บัว ตอดข้าเสียจนแทบหักใน ไหนบอกว่าไม่อยากไง ทำไมตอดแรงแบบนี้ล่ะ” หล่อนไม่ได้สนใจประโยคชวนสยิวของเขา แต่เร่งตอดรัดเขามากยิ่งขึ้นเป็นจังหวะถี่ยิบ ไม่นานหล่อนก็ได้ยินเสียงครางยาวอันแสนแหบพร่าหลุดออกมาจากเขาในที่สุด
“โอ้ว... เจ้านี่มันสุดยอดจริงๆ กลีบบัว ตอดข้าจนเสียวลำไปหมด ข้ากำลังจะเสร็จแล้ว น้ำจะแตกแล้ว” พฤกษ์ร้องบอก ขยุ้มสะโพกผายของหล่อนแรงๆ ก่อนจะน้ำแตกเต็มร่องของหล่อน
เสียงครางยาวของเขาบ่งบอกว่าเขาไปถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว
พฤกษ์ถอดดุ้นอวบใหญ่ที่กำลังอ่อนตัวออกจากร่องเสียว ก่อนจะเดินจากไปแบบไม่เหลียวหลัง ทิ้งให้กลีบบัวคุกเข่าซุกหน้ากับเสาอยู่ตรงนั้นด้วยเนื้อตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
กลีบบัวหายจากอาการหอบหายใจด้วยความเสียวและเหนื่อยล้า ก็นั่งร้องไห้เบาๆ ไม่เคยมีคำปลอบโยน ไม่เคยมีอ้อมกอด และไม่เคยมีความรักจากเขา ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นคู่หมาย
กลีบบัวรู้สึกอ้างว้างในหัวใจยิ่งนัก คนไร้ค่าเช่นหล่อนคงเหมือนเศษธุลีดินที่เขาจะเหยียบย่ำเมื่อไหร่ก็ย่อมได้
“คุณบัว โถ... คุณบัวของบ่าว” พุดซ้อนรีบเข้ามาหาเจ้านายสาว กลีบบัวนึกอายกับสภาพของตัวเองรีบดึงผ้าถุงมาปิดกาย ไม่กล้ามองหน้าของบ่าวรับใช้คนสนิท ก่อนจะร้องไห้ออกมา
“คุณบัว อย่าร้องไห้เลยนะเจ้าคะ”
“บัวเหมือนนางบำเรอ หาใช่คู่หมั้นคู่หมายของพี่พฤกษ์ เขาทำกับบัวเหมือนไม่ใช่คน”
“ไอ้เข้มมันเข้ามาขวางเอาไว้ กันไม่ให้บ่าวมาหาคุณบัว คุณพฤกษ์จึงเข้ามาย่ำยีคุณบัวได้ โดยที่บ่าวช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย”
