บท
ตั้งค่า

Chapter3

“ที่ออฟฟิศห้ามคนภายนอกเข้าค่ะ เลยไม่ได้เห็นว่าเขาเอาดอกไม้ให้ใคร”

ปารวีตอบแล้วเลี่ยงไปทางโกดังเก็บอุปกรณ์จัดดอกไม้หลังร้าน เธอคิดเรื่องคณิตมาตลอดทาง …บนรถแท็กซี่ …ตอนเดินเข้ามาในร้าน จนกระทั่งถึงบัดนี้

ภาพเขาทั้งในอดีตและปัจจุบันเคลื่อนมาซ้อนทับกัน เปิดลิ้นชักความทรงจำที่น่าจะลืมไปตั้งนานแล้วให้เผยออกมาอีกครั้ง

สมัยมัธยมปลายคณิตเตี้ยกว่านี้ ผอม ผิวขาวซีด สวมแว่นตารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เขาเป็นหนอนหนังสือ ผิดกับเธอที่ค่อนข้างทโมน ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง การเรียนก็ปานกลาง

ปารวีกับเขารู้จักกันแค่ผิวเผิน ในฐานะเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ได้สนิทอะไร ตอนม.ห้าเธอป่วยเป็นหวัดหนึ่งวัน เมื่อกลับมาเรียนก็ปรากฏว่าต้องทำรายงานกลุ่มวิชาสังคมศึกษาเกี่ยวกับสถานที่สำคัญในจังหวัด

กลุ่มเธอมีสี่คน ปารวีคือผู้หญิงคนเดียว คณิตเป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่พอแบ่งงานกันทำกลับกลายเป็นว่า มีแค่คณิตคนเดียวทำรายงานส่วนของตัวเองมา

‘นี่ตั้งใจมาเรียนกันจริงหรือเปล่านะฮึ พ่อแม่ส่งมาเรียนนะไม่ใช่มาเล่น’

คณิตต่อว่าพวกเธออย่างโกรธจัด หนุ่มเพื่อนร่วมกลุ่มเลือดร้อนคนหนึ่งจึงต่อยปากเขาเสียหนึ่งหมัด

ปารวีเข้าไปห้ามโดยการต่อยเพื่อนคนนั้นคืนไปอีกหนึ่งหมัดเหมือนกัน พวกเธอโดนคาดโทษ แต่กระนั้นสมาชิกกลุ่มคนอื่นก็ยังไม่ยอมมาช่วยทำรายงานอยู่ดี

‘ฉันทำคนเดียวก็ได้’ คณิตบอกหน้าบึ้ง

‘เธอกับเพื่อนรอรับคะแนนเถอะ ครั้งนี้ถือว่าให้ทาน’

ทำเอาปารวีอยากจะต่อยเขาอีกสักรอบ แต่เธอก็แมนพอไม่กินแรงเพื่อน ปารวีลงทุนไปดักรอเขาที่บ้านพักข้าราชการซึ่งพ่อแม่เขาพักอยู่

เพื่อจะได้ออกไปทำรายงานด้วยกันในวันเสาร์อาทิตย์ ปารวีและคณิตนั่งรถประจำทางไปถ่ายรูปสถานที่สำคัญ พร้อมสัมภาษณ์คนท้องถิ่น

การทำรายงานทำให้รู้จักกันมากขึ้น เธอรู้ว่าเขาเป็นลูกคนเดียว ขณะที่ปารวีมีพี่ชายสองน้องสาวหนึ่ง คณิตย้ายโรงเรียนมาหลายครั้งด้วยงานราชการของพ่อแม่ และอาจจะอยู่ที่โรงเรียนเธอไม่ถึงจบมอหก

คณิตเป็นคนตลกหน้าตาย บางเวลาเธอไม่เคยรู้เลยว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น เขาไม่ค่อยได้คุยกับเด็กผู้หญิงนัก ยกเว้นแต่กับสาวทโมนอย่างเธอ

จนกระทั่งวันวาเลนไทน์ หลังจากเธอแซวคู่รักที่ให้ดอกกุหลาบแก่กันจนสนุกปากแล้ว ตกกลางคืนคณิตก็โทรศัพท์มาหา

‘มี’ไร’

ปารวีกรอกเสียงกวนๆ ลงไปในโทรศัพท์

‘เปล่า ...เธอล่ะป่านนอนหรือยัง’

เสียงคณิตสั่นนิดๆ แต่เธอในตอนนั้นทีแรกยังจับความผิดปรกตินี้ไม่ทัน

‘ยัง ถ้านอนแล้วจะมาคุยกับนายได้เหรอ ฮ่าๆ’

ปารวีกรอกเสียงหัวเราะรื่นเริง

‘ว่าไงโทร.มีอะไร หรือพรุ่งนี้มีสอบ จะมาบอกแนวข้อสอบฉันเหรอ’

‘เปล่า...’ แล้วก็เงียบกันไปทั้งเขาทั้งเธอ

‘งั้นมีอะไรก็พูดมาสิ ฉันจะได้ฟังแล้วรีบๆ ไปนอน’

‘ฉันโทร.มากวนเหรอ’

‘เปล่า...’

แล้วก็เงียบกันไปอีก คราวนี้ปารวีในวัยมอห้าเริ่มรู้สึกแล้วว่ามีอะไรแปลกๆ

‘เฮ้ย! มีอะไรบอกมาสิ รีบๆ เล่ามา หรือจะแค่โทร.มาอำเล่น’

‘เรามีของจะให้เธอน่ะ อยู่หน้าบ้านนะ’

แล้วสายก็ตัดไป ปารวีนิ่วหน้ากับโทรศัพท์ จากนั้นไปบังคับให้น้องสาวเดินเป็นเพื่อนออกไปดูที่หน้าบ้าน

เธอยังจำได้ดีถึงกุหลาบสีแดงกำมะหยี่ดอกโตที่เสียบอยู่บนเหล็กดัดประตูบ้าน ข้างๆ กันเป็นหนังสือเล่มบางๆ หน้าปกพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีทองว่า...

‘ความหมายของดอกไม้’

ความหมายของกุหลาบแดงคือ “ฉันรักเธอ” เธอไม่ได้เปิดหาความหมาย แต่น้องสาวอ่านให้ฟังเลย ปารวีหน้าแดงเพราะผู้ชายเป็นครั้งแรกก็วันนั้นนั่นเอง

อารามตกใจและอายเธอจึงโทร.ไปเล่าให้เพื่อนหญิงที่สนิทกันฟัง แต่ปารวีไม่ใช่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเพื่อนคนนั้น

รุ่งเช้าข่าวลือแพร่กระจาย เธอและเขากลายเป็นตัวตลกของเพื่อนๆ ขณะเดียวกันเรื่องที่คณิตและเธอคุยกันบ่อยๆ ก็กลายเป็นที่ตั้งข้อสังเกต

เรื่องเลวร้ายขนาดลือว่าเธอท้อง! ปารวีรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอที่สุดในชีวิตก็ตอนนั้น เธอไม่ยอมไปโรงเรียนสองวัน และคณิตโทร.มาหาทุกวันแต่ปารวีไม่ยอมรับสาย

สองวันที่อยู่ในห้องนอน เธอมองดูดอกกุหลาบของคณิตด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสงสัย สับสน โกรธที่เขาทำให้ต้องเผชิญกับสภาพเช่นนี้

‘แก่แดด แร่ด!’

ภาพและเสียงล้อของเพื่อนๆ วัยมัธยมวันนั้นยังก้องอยู่

‘ป่านแร่ด!’

ปารวีไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดทุกคนจึงเอาความผิดนี้มาลงที่เธอ ทั้งๆ ที่คนที่ก่อเรื่อง คนที่เอากุหลาบนี้มาให้คือคณิตต่างหาก

‘เอาคืนไป’

ปารวีโดนแม่ลากมาโรงเรียนจนได้ในวันที่สาม เธอเอากุหลาบที่เริ่มเหี่ยวแล้วปาใส่หน้าเขา

‘เฮ้ยๆ ผัวเมียทะเลาะกันว่ะ’

เสียงเพื่อนร่วมชั้นดังอื้ออึง คณิตขยับแว่นที่เลื่อนลงไปนิดเพราะแรงปาของเธอขึ้น

‘ตบจูบเลยดิวะ’

เสียงคนปากเปราะยุด้วยความคะนองตามประสาวัยรุ่น

‘นั่นดิ ตบเลย จูบเลย’

เสียงเชียร์ยิ่งดังหนักขึ้น ปารวีหน้าแดงจัดอายจนเปลี่ยนเป็นโกรธ คณิตมองเธอด้วยสีหน้าลำบากใจ

‘พอซักที หนวกหู’

ปารวีตวาด พลันทุกเสียงก็เงียบลง

‘ฉันเกลียดไอ้เตี้ย ไอ้แว่นนี่ที่สุด ทั้งงี่เง่า ชอบเลียอาจารย์ ดอกไม้ของนายฉันไม่อยากได้ ฉันเอาไปใส่ไว้ในห้องน้ำด้วยซ้ำ’

‘เธอเอาดอกไม้ฉันไปไว้ในห้องน้ำเหรอ สกปรก!’

เขามีปฏิกิริยาขึ้นมาบ้าง

‘ใช่จะทำไม ก็มันน่าเกลียดจะตาย อี๊! แหวะ น้ำเน่า ตุ๊ด!’

เธอพูดไปด้วยอารมณ์โกรธและอาย โดยไม่คิดถึงจิตใจของอีกฝ่ายเลย

‘อย่ามาว่าฉันตุ๊ดนะ เธอนั่นแหละยัยทอม ฉันจะคอยดูสิว่าชาตินี้เธอจะได้แต่งงานไหม จะมีไอ้โง่คนไหนมาให้ดอกไม้ มาชอบเธอหรือเปล่า ฉันว่าไม่มีหรอก แล้วเธอจะต้องเสียใจที่ทำอย่างนี้กับฉัน’

ปารวียังจำใบหน้าเขาได้ดี มันถมึงทึง ดวงตาวาวโรจน์จนน่ากลัว และจากวันนั้นคณิตก็ย้ายโรงเรียนไป ขณะที่ปารวีต้องทนกับการโดนล้อไปอีกเทอม

พอขึ้นมอหกทุกคนคร่ำเคร่งกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจนลืมเรื่องนี้กันไป ดูเหมือนจะเป็นเรื่องล้อกันเล่นในสมัยเด็กๆ

แต่ปารวีก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นคำสาปหรือเปล่า เพราะหลังจากนั้นเธอไม่มีผู้ชายมาสนใจเลย

ทั้งๆ ปารวีก็ไม่ใช่คนไม่สวย เธอผมยาว ผิวนวลเนียนสีน้ำผึ้ง รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาพอไปวัดไปวา

หรือเธอจะดูเหมือนทอม อย่างที่อาเสี่ยคนหนึ่งเคยมาจีบเพียงเพ็ญปรามาศไว้ แต่เจ้านายกลับชอบใจเสียอีกที่เธอเหมือนทอม ช่วยเป็นไม้กันหมาให้

ความจริงเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ของเด็ก บางทีคณิตอาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ดูสิ ...วันนี้เขายังไม่ทักสักคำ คงมีแค่เธอกระมังที่จำเรื่องนี้ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel