บท
ตั้งค่า

Chapter 3 โดนล่อลวง

“พี่ธามฮื้อ ฮื้อ” รษาได้แต่ส่ายศีรษะร้องไห้สะอื้นฮักๆ กับอกอุ่นของพี่ชาย เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าเรื่องราวพี่ชายฟังอย่างไรดี เธอไม่อยากให้เขาเสียใจ แต่จะปกปิดอย่างไรดี

“ใจเย็นๆ รษา ค่อยๆ เล่าให้พี่ฟัง ทำไมสภาพของเราเป็นอย่างนี้” ชายหนุ่มพยายามปลอบโยนน้องเสียงนุ่ม แม้ว่าในใจคิดไปไกล

ท้ายประโยคกลับสะกิดรอยแผลในใจของหญิงสาว ยิ่งทำให้เพิ่มความร้าวรานรุนแรงขึ้นไปอีก เธอซุกหน้ากับแผงอกกว้างร้องไห้หนักกว่าเดิม พ่อเลี้ยงหนุ่มจับไหล่บางของคนร่างเล็กดันออกจากอกเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าร่างน้องน้อยเงียบเสียงไปและเหมือนจะหยุดร้องไห้แล้ว

“รษา” พ่อเลี้ยงหนุ่มเรียกชื่อน้องสาวเหมือนละเมอ แต่พูดได้แค่นั้นเขาก็ตกใจหนักกว่าเดิม เมื่อร่างบางในอ้อมกอดของเขาหมดสติและล้มพับไป

“รษา!” พ่อเลี้ยงหนุ่มเรียกน้องสาว ก่อนช้อนอุ้มร่างไร้สติขึ้นไปบนห้องนอน แนวฟันสองฝั่งกระทบกันและขบแน่นจน กรามแกร่งปูดเด่นเป็นสันนูน เขาต้องรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้น้องสาวสุดที่รักที่เขาเฝ้าฟูมฟักมาตั้งแต่เด็กมีสภาพเป็นอย่างนี้ให้ได้

มินตราเดินเข้ามาที่ไร่ปกรักอย่างร้อนรน เธอเหมือนนกรู้ที่เข้ามาได้ทันเวลา เธอเก็บความรู้สึกข้างในไว้มิดชิด ภายใต้กรอบหน้าหวาน กิริยาอ่อนโยนที่ทุกคนในไร่เห็นจนชินตา แตกต่างจากน้องสาวเจ้าของไร่ที่โดนเลี้ยงอย่างตามใจมาตั้งแต่แม่หนีไปกับผู้ชายคนอื่น ตั้งแต่หญิงสาวจำความไม่ได้

“สวัสดีค่ะแม่นุ่ม รษากลับมาบ้านหรือยังคะ” หญิงสาวถามแม่บ้านด้วยอาการร้อนรน ใจร้อนรุ่มดั่งไฟสุม ทั้งเจ็บใจเพื่อนของเธออีกคนที่ไปด้วยกัน

“กลับมาแล้วค่ะ พักอยู่บนห้องคุณจะขึ้นไปดูหรือเปล่าคะ คุณธามพาขึ้นไปพักเมื่อสักครู่นี้เอง” แม่บ้านเก่าแก่ของไร่ตอบเสียงเรียบ มินตรายกมือทาบอก พ่นลมออกจากปากบอกอย่างใส่จริต

“เมนี่ค่อยโล่งอกและสบายใจหน่อยค่ะ ที่รู้ว่าเพื่อนรักกลับมาอย่างปลอดภัย ว่าแต่พี่ธามไปกรุงเทพฯ กลับมาแล้วหรือคะ” เธอไม่วายถามถึงชายหนุ่มเจ้าของไร่ต่อ ที่รษาออกไปเที่ยวได้ก็เพราะพี่ชายไม่อยู่ไร่เท่านั้น

“พี่เพิ่งกลับมาถึง กำลังอยากเจอเราพอดี พี่อยากคุยเรื่องรษาหน่อย” พ่อเลี้ยงธามเดินลงมาจากข้างบนพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่แม่บ้านจะตอบ มินตราปรับสีหน้าตื่นให้เศร้าลงไปอีก เพราะคนอย่างพ่อเลี้ยงธามฉลาดมาก เขาไม่มีทางที่จะเชื่ออะไรง่ายๆ

“ถ้าพี่ธามอยากรู้เรื่องเมื่อคืน เมนี่เองก็ร้อนใจไม่แพ้กันหรอกค่ะ แล้วเมนี่ก็มาหารษาเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อคืนจู่ๆ ยัยรษาก็หายไปกับใครก็ไม่รู้ พวกเราตามหากันทั้งคืน่” มินตรายังตีหน้าเศร้าบีบน้ำตาเล่าต่อ ยังไงเมื่อคืนรษาก็เมามาก คำพูดของคนผู้หญิงเรียบร้อยอย่างเธอต้องน่าเชื่อถือกว่าเป็นแน่

“เรื่องมันเป็นมายังไง ไหนเมนี่ลองเล่าให้พี่ฟังซิ” พ่อเลี้ยงหนุ่มถามกลับเพื่อนน้องสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าและดวงตาของเขาก็เรียบเฉย ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ให้คู่สนทนารับรู้ ทั้งที่ในใจของเขาตอนนี้ร้อนรุ่มเหมือนภูเขาไฟฟูจิกำลังจะปะทุ ลาวาพร้อมที่จะพ่นออกมาได้ทุกเมื่อ

มินตรายกมือป้ายคราบน้ำตาอย่างรู้สึกผิด ขยับตัวเข้าหาพ่อเลี้ยงหนุ่มหวังให้เขาปลอบโยน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเดินเลี่ยงไปนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์แทน

“พี่ธามอย่าว่ายัยรษาเลยนะคะ เมนี่ผิดเองที่ไม่ห้ามเพื่อน ทั้งที่รู้ว่าพี่ธามไม่ชอบให้ยัยรษาไปเที่ยวกลางคืน ไม่ให้ดื่มเหล้า แต่ว่า”

“เอาละ! พี่รู้จักนิสัยยัยรษาดี ถ้าจะไปคงไม่มีใครห้ามได้หรอก เมนี่อย่าโทษตัวเองเลย เข้าเรื่องเลยดีกว่า” พ่อเลี้ยงหนุ่มตัดบทอย่างรำคาญอาการพร่ำพรรณนาของเพื่อนน้องสาว พูดต่อด้วยโทนเสียงที่ราบเรียบเหมือนเดิม และใบหน้าก็เรียบสนิทไม่แพ้กัน

“เมนี่ขอโทษพี่ธามด้วยนะคะที่เมนี่ก็ดูแลยัยรษาไม่ดี แต่พวกเราห้ามไม่ให้ยัยรษาดื่มเหล้า เธอก็ไม่เชื่อ แต่พอดื่มไปแล้วเธอก็นึกสนุกออกไปเต้นกับผู้ชายกลางฟลอร์” ถึงตอนนี้ธามก็หันกลับมามองคนเล่า เริ่มคล้อยตามหญิงสาวเจ้าน้ำตาตรงหน้า เพราะเขาก็รู้นิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจของน้องสาวดี หญิงสาวลอบยิ้มพอใจกับผลงานเล่นละครตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อ

“พอพวกเราจะพายัยรษากลับบ้านเธอก็ไม่ยอมท่าเดียว จังหวะที่เมนี่กับพิณไปเข้าห้องน้ำ พอกลับออกมาอีกทีเราก็ไม่เจอยัยรษาแล้วค่ะ เราสี่คนตามหายัยรษาเกือบทั้งคืนแต่ก็ไม่มีวี่แวว เมนี่ก็เลย เข้ามาสารภาพผิดที่ไร่นี่ล่ะค่ะ แต่ก็โชคดีและก็โล่งอกโล่งใจมาก เห็นแม่นุ่มบอกว่ายัยรษากลับมาแล้ว ใช่ไหมคะ” สาวสวยตรงหน้ายังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้สีหน้าของพ่อเลี้ยงธามเครียดขึงขึ้น

“พวกเธอไม่มีใครเห็นเลยหรือว่ายัยรษาออกไปกับใคร”

“เมนี่ต้องขอโทษค่ะ เมนี่ไปเข้าห้องน้ำไม่ถึงห้านาทียัยรษาก็หายไปแล้ว เพื่อนที่มาด้วยก็มัวแต่เกี้ยวสาวโต๊ะข้างๆ ไม่ทันได้มองสักคน ก็เลยไม่มีใครเห็นค่ะ”

“พี่ขอบใจเธอมากที่ยังอุตส่าห์เป็นห่วงยัยรษา ตามมาดูถึงที่ไร่ น้องสาวพี่เหลวไหลจริงๆ”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่ธาม รษากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วไม่ใช่หรือคะ”

“เธอลองไปบนห้องก็แล้วกัน จะได้รู้ว่าเรื่องดีหรือไม่ พี่ไม่อยากพูดอะไร” เขาบอกเสียงเครียดเดินนำหญิงสาวไป

มินตรายกมือทาบอกอีกรอบ ตาลุกวาวทำทีเป็นตกใจ “เกิดอะไรขึ้นหรือคะ” เดินตามพ่อเลี้ยงธามขึ้นไปข้างบนห้องของรษา

ประตูห้องเปิดกว้างต้อนรับคนมาใหม่ แววตาที่ทอดออกมากลับเป็นยิ้มเยาะแทนที่จะห่วงใย ทันทีที่เห็นสภาพหญิงสาวตรงหน้าไม่ต่างจากถูกรุมโทรมสักนิด เมื่อคืนที่ผ่านมา รษาเป็นเมียใครก็ไม่รู้

มินตรายกมือทาบอกใส่อย่างจริต “ตายจริง! ยัยรษา มันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรักของเมนี่ค่ะ”

“พี่อยากคุยกับเพื่อนของเธอทุกคน เธอช่วยนัดให้หน่อยได้หรือเปล่า” เจ้าของไร่ตัดบทเสียงเรียบ

“ได้สิคะ แล้วพี่ธามจะจัดการอย่างไรต่อหรือคะ” หญิงสาวถามต่อหยั่งเชิง ถึงแม้ว่าพ่อของธีรภาคจะเป็นถึงผู้กำกับการภาค สามารถช่วยลูกชายให้พ้นนอนคุกได้ แต่ทว่าถ้าเจ้าทุกข์เอาเรื่องและร่วมมือกับโรงแรม นั่นก็ไม่แน่ที่พวกเธอจะต้องย้ายไปนอนในซังเต

“พี่กำลังจะไปแจ้งความ แล้วไปขอกล้องวงจรปิดที่โรงแรม โรงแรมระดับนั้นต้องมีกล้องวงจรปิดทุกจุด” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม ไม่ทันได้มองหน้าเพื่อนน้องสาวที่มีอาการตกใจหน้าซีดเผือด

“อย่านะคะ!” มินตราร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เผลอหลุดอาการลนลานออกมา พ่อเลี้ยงหนุ่มยักคิ้วสูงอย่างแปลกใจ หันกลับไปมองหน้าเพื่อนน้องสาวเป็นเชิงถาม

“หือ”

“เอ่อ คือ เมนี่หมายความว่า ถ้าแจ้งความหรือว่าเราทำเรื่องให้เอิกเกริก เมนี่กลัวว่าคนที่จะเป็นฝ่ายเสียหายคงหนีไม่พ้นรษา ลองคิดดูนะคะ ในเชียงรายจะมีใครบ้างที่ไม่รู้จักไร่ปกรัก เมนี่ว่าเรารอให้รษาเล่าเรื่องราวให้เราฟังเองจะดีกว่า ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วหลังจากนั้นเราค่อยไปแจ้งความก็ไม่สาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel