CHAPTER 8
ร่างผู้ทรงอำนาจออกมาจากที่ซ่อนตัวหลังจากที่พายหลับไปแล้วเพียงเพราะฤทธิ์ของยานอนหลับที่อยู่ในแก้วน้ำนั่น คนที่สั่งก็คือเขานั่นเอง เทลหนึ่งในกลุ่ม MISCREANT ผู้ชายที่รูปร่างสูงขาว ใบหน้าเรียวยาวเหมาะกับผมสีดำ เขามีรอยสักอยู่ที่หน้าอกข้างขวาเลยยาวไปจรดที่ต้นแขนขวาเพราะวันนี้สวมเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงยีนขาดๆ สีขาวจึงเผยให้เห็นได้ชัดเจนประกอบกับการสวมแว่นตาสีดำจึงสามารถดึงดูดคนรอบๆ กายให้หันมามองได้แบบไม่ต้องทำอะไรเลย
“ทำได้ดีมากลุง อ้าวนี่ค่าเหนื่อย”
“ขอบคุณครับคุณเทล”
ธนบัตรปึกใหญ่ถูกส่งให้ลุงคนหนึ่งทันทีเมื่อแผนการที่วางไว้ถูกดำเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ใช่เหตุการณ์ทั้งหมดมันเป็นแผนของผมเอง มันไม่น่าสงสารสักนิดเมื่อเธอเลือกที่จะเดินมาทางนี้แล้วเลือกมาเสือกเองเธอคิดได้ง่ายมากคิดได้ยังไงว่าผมจะรับคนงานเข้าทำงานที่นี่แบบสุ่มๆ หรอ คนที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ได้ต้องผ่านการตรวจตราจากไอ้เวฟส่วนคนที่รับเป็นลูกน้องจะต้องผ่านการฝึกการต่อสู้จากไอ้พีญถึงจะผ่านเข้าทำงานได้
คนงานผู้หญิงทุกๆ คนต้องพูดได้หลายภาษาทุกๆ คนจะมีประวัติส่งมาให้ผมเป็นคนดูและอ่านผ่านก่อนถึงจะเป็นพนักงานของที่นี่ได้ผู้ชายคนนั้นที่ผมจ้างมาแน่นอนว่าไม่ใช่พนักงานของที่นี่ก็แค่คนเดินเรือแถวๆ นี่ที่อยากได้เงินก้อนแบบด่วนๆ เท่านั้นเอง
คาสิโนของผมไม่ใช่จะเป็นที่สวนสาธารณะให้ใครๆ ได้เข้าออกตามใจวะมีลูกน้องดูแลตรวจตราอยู่ทุกจุดและก็มีกล้องวงจรปิดทุกๆ ตำแหน่งสามารถดูเหตุการณ์ภายในได้ถ้าอยากดูและอยากเห็น ส่วนมากไอ้เวฟจะเป็นคนจัดการทั้งหมดสำหรับคนที่ก่อเรื่องในคาสิโน คนที่จะมาเจอผมได้ก็คือคนที่ไอ้พวกนั้นเอาไม่อยู่เท่านั้นซึ่งมันไม่ค่อยมีนอกจากสองผัวเมียคู่นั้น!
อีกอย่างจะไม่มีการปล่อยกู้ใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับคนที่แพ้หมดก็คือหมดเตรียมเงินมาน้อยเองและก็ไม่มีบริการส่งถึงที่ด้วยต้องเหลือเงินกลับบ้านเองด้วยนะครับ
“ไปได้แล้วลุง” เสียงของมือซ้ายของเทลดังขึ้นเพราะสั่งลุงคนนั้นให้ออกไปทันทีหลังจากได้รับเงินค่าจ้างแล้ว “จัดการยังไงต่อดีครับเฮียเทล?”
เสียงของไอ้เวฟลูกน้องคู่ใจมือซ้ายของผมถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้นอนหลับอยู่บนเก้าอี้อย่างไม่รู้สึกตัวทำไมมันง่ายแบบนี้วะเหมือนปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ
“แกไปรอเฮียที่ห้องใต้ดินเดี๋ยวที่นี่เฮียจัดการเอง”
“ครับเฮีย”
หลังจากที่ไอ้เวฟออกจากที่นี่แล้วพร้อมกับกระเป๋าของผู้หญิงคนนี้ ผมก็ก้มดูร่างที่นอนไร้สติตรงเก้าอี้ ยอมรับเธอเป็นคนสวยคนหนึ่งใบหน้าขาวเรียวเล็กๆ ปากนิดจมูกหน่อยมันช่างรับกับแก้มสีชมพูระเรื่อและริมฝีปากสีเชอรี่สุกเสียจริงๆ ร่างบางนอนหลับแบบไม่รู้สึกตัวเมื่อผมอุ้มเธอขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดตัวช่างเบาหวิวเหมือนกับเด็กๆ ทั้งที่มีอายุถึงยี่สิบสองแล้วผมอุ้มเธอแล้วพามุ่งหน้าไปยังห้องใต้ดินทันทีเพราะมันเป็นที่ลงโทษสำหรับคนเสือกอย่างเธอพาย
แค่ก ๆ แค่กๆ
ฉันสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาแบบมึนๆ งงๆ ก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นและก็โฟกัสสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงใหญ่ที่แสนโทรมผุพังเพราะคงใช้จนมันหมดสภาพแล้วเมื่อมองไปรอบๆ ก็เจอกับสภาพห้องเก่าๆ ที่แสนรกมีทั้งฝุ่นหนาทึบและใยแมงมุมอยู่ทั่วเพดานห้องรวมสภาพแล้วเหมือนห้องร้างในบ้านผีสิงไม่มีผิด
นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี้ยเพราะก่อนหน้าที่จะมาอยู่ที่นี่ฉันยังนั่งรอลุงคนหนึ่งเพื่อที่จะสมัครงานอยู่นี่นาแล้วจากนั้นก็ดื่มน้ำนั้นไปจนเกือบหมดแก้ว
“หรือว่าในน้ำนั่นมี...”
“ในน้ำมียานอนหลับไง”
มีเสียงของผู้ชายดังขึ้นมาแทรกก่อนที่ฉันจะพูดให้จบประโยคเขาเป็นชายวันรุ่นที่มีรูปร่างสูงใหญ่ใส่เสื้อกล้ามสีดำและใส่กางเกงยีนขาดๆ สีขาวพร้อมกับสวมแว่นตาดำค่อยๆ เดินเข้ามาทีละนิดๆ จนมาหยุดที่ปลายเตียงแล้วจากนั้นก็ถอดแว่นออกเผยให้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจนพูดได้คำเดียวว่าหล่อ หล่อมาก ใบหน้าที่เรียวยาวจมูกที่แสนโด่งสื่อถึงความดื้อรั้นบวกกับความขาวออร่าแบบทั้งตัวและทรงผมสีดำที่ตัดรับเข้ากับใบหน้า
“นะ นายเป็นใคร จับฉันมาที่นี่ทำไม?”
คำถามอยู่ในหัวของฉันเมื่อตะกี้แต่ตอนนี้ปากมันโผล่พูดขึ้นออกไปแล้ว เขาเป็นใครจับฉันมาทำไมจับมาเพื่ออะไรทั้งๆ ที่ฉันมั่นใจได้เลยว่าไม่เคยรู้จักกับเขาเลยทั้งหน้าตาก็ไม่เคยเจอกันมาก่อนด้วย
“ยังมีหน้ามาถามอีกเธอมาที่นี่ทำไมใครสั่ง?”
ประโยดที่เขาพูดกลับมานั่นมันแทบทำให้ฉันเบี่ยงหลบจากสายตาที่เขามองมาทันที นี่อย่าบอกนะว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้วเป็นไปไม่ได้ เป็นไม่ได้อย่างยิ่งเลยแหละที่ตัวเขาจะรู้เรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้
เหอะ! เมื่อผู้หญิงคนนั้นฟื้นก็เห็นผมแล้วตั้งคำถามยิงมาเพื่อให้ผมตอบสะยกใหญ่จะลองดูหน่อยสิว่าถ้าผมเล่นสงครามประสาทกับเธอสักตั้งโดยการถามกลับไปบ้าง เธอจะยังมีหน้าแถไปไหนอีก
“ฉันก็มาสมัครงานที่นี่ไง อะไรใครส่งนายพูดเรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ?”
ฉันเริ่มเถียงคนข้างหน้าขึ้นมาอย่างข้างๆ คูๆ ถูๆ ไถๆ ไปบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความน่าสงสัยให้แกเขา เพราะถ้าเกิดไม่เถียงขึ้นเลยอาจเป็นสิ่งที่น่าสงสัยได้
“ถุย! ปัญญาอ่อนวะสมัครงานนั้นหรออย่ามาโกหก!”
“ก็ฉันไม่ได้โกหกก็บอกแล้วไงว่าฉันมาสมัครงานหูมีปัญญาหรือไง!”
