5.เสือพบสิงห์
*** ทักทายคร้า ***
นีโอเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องทำงานด้วยใบหน้าเคร่งเครียด หากความลับเรื่องการรุกล้ำพื้นที่เข้าไปในเขตของสตาร์เลสและซีโอยอร์รู้ไปถึงสองตระกูลนั่น ไบโอเนียร์จะเจอศึกถึงสองด้านพร้อมๆ กัน แม้เขาจะมีกำลังคนมากมายขนาดไหน ก็ไม่อาจต้านทานความร้ายกาจของกองกำลังนักฆ่าแห่งทะเลทรายของสตาร์เลสได้ อย่าว่าแต่กองกำลังนักฆ่าทะเลทรายเลย แม้แต่ซีโอยอร์ที่เป็นรองสตาร์เลส อยู่หลายขุม เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะชนะด้วยซ้ำ
ร่างผอมเพรียวสะดุ้งเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากคนที่อยู่ข้างนอก เจฟเดินเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อนพร้อมกับลูกน้องอีกสี่คน
“ได้เรื่องไหมเจฟ” นีโอเดินเข้ามาหาอย่างร้อนใจ
เจฟพยักหน้าให้ลูกน้องออกไปจากห้อง แล้วหันกลับมารายงาน
“มันชื่อประลัมพ์ครับนาย ตอนนี้เป็นผีเฝ้าสุสานไปแล้ว”
“แล้วข้อมูลล่ะ” นีโอถามออกไปด้วยสีหน้ากังวล
“ตอนที่ผมไล่ตามไป มันบอกว่าข้อมูลอยู่ในหัวของมัน ถ้ามันตายไปข้อมูลต่างๆ ก็ตายไปพร้อมกับมันด้วย”
นีโอนิ่งคิดถึงความเป็นไปได้ ตอนที่มาเจอประลัมพ์ในห้อง คอมพิวเตอร์ถูกปิดกะทันหัน ถ้าโชคดีมันอาจไม่ได้คัดลอกข้อมูลไปก็ได้
“ใครพบศพมันเป็นคนแรก”
“ผมถามคนแถวนั้นแล้วไม่มีใครรู้ แต่เด็กที่ร้านกาแฟมะลิแก้วบอกว่าเห็นศพอยู่หน้าร้านครับนาย แล้วน้องสาวของมันก็ออกมาเจอ”
“ส่งคนของเราไปเฝ้ามันไว้ พบอะไรผิดปกติให้รายงานทันที” นีโอสั่งเสียงเข้มพลางยกมือลูบหน้าไปมาอย่างเคร่งเครียด
“นายโทรไปรายงานนายพลสมิธหรือยังครับ” เจฟถาม สีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างจากเจ้านาย
นีโอสอดมือเข้าในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินไปหยุดมองดวงดาวที่อยู่เต็มท้องฟ้ายามค่ำคืน ถ้าแผนการรั่วไหลออกไป คนที่อยู่เบื้องหลังอาจไม่พอใจและไบโอเนียร์ที่ยืนรับอยู่หน้าฉากจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด
“ปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน รอดูว่าเฮนรี่กับคริสมันจะรู้ข้อมูลพวกนั้นหรือเปล่า ยังไงนายให้คนของเราจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกมันให้ดี ถ้าข่าวรั่วออกไปฉันกับนายไม่ตายดีแน่”
นี่ไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นความจริงที่เจฟรู้มานานแล้วตั้งแต่ที่เขาเข้าไปมีส่วนในการแสวงหาอำนาจเหนือทุกคนของนายพลสมิธ เพราะผลประโยชน์บนถนนสตริปมากมายมหาศาล เป็นที่ล่อตาล่อใจพวกบูชาเงินคือพระเจ้านัก
“แล้วเราจะเอายังไงต่อครับ จะเดินตามแผนหรือจะรอก่อน” เจฟถามเสียงเรียบ เป็นนานกว่าจะได้ยินเสียงตอบกลับมา
“หยุดทุกอย่าง รอดูท่าทีพวกมันก่อน” นีโอสั่งสั้นๆ สายตายังคงมองฝ่าความมืดออกไปข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย ถ้าทุกอย่างสำเร็จตามแผนที่วางไว้ ไบโอเนียร์จะยิ่งใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตายาวรีก็เปล่งประกายเรืองรองอย่างมีความสุข
บนถนนสตริปเส้นเลือดใหญ่แห่งแสงสีเสียง คลาคล่ำไปด้วยโรงแรมหรูชั้นนำ เดอะวาเนเซี่ยน สตาร์เลส โรงแรมคาสิโนสุดหรูหรา เป็นหนึ่งในหลายแห่งของเครือสตาร์เลส ภายใต้การบริหารของเฮนรี่ สตาร์เลส หลานชายคนโตของ ทิม สตาร์เลส ผู้ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในลาสเวกัส และได้วางมือจากธุรกิจของตระกูลเพื่อให้หลานชายหัวแก้วหัวแหวนบริหารแทน ส่วนตัวทิมนั้นเป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น
ขบวนรถสีดำมันวาวสามคันวิ่งเข้าไปจอดบริเวณลานน้ำพุสูงเกือบสองเมตร ซึ่งกำลังเต้นระบำกับแสงไฟหน้าโรงแรมเดอะวาเนเซี่ยน สตาร์เลสอย่างอ่อนช้อยสวยงาม ร่างใหญ่ในสูทสากลสีดำก้าวลงมายืนอยู่ข้างรถ ใบหน้าคมสันรกครึ้มไปด้วยเคราเขียวเงยหน้าขึ้นมองตึกตระหง่านที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ท่าทางทระนงองอาจน่าเกรงขามยิ่งนัก
เฮนรี่ สตาร์เลส ก้าวผ่านประตูโรงแรมเข้าไป พร้อมกับวีริสและอีริท บอดี้การ์ดคนสนิท ตามด้วยชายฉกรรจ์ในสูทสีดำสวมแว่นตาดำอีกหลายคนเดินตามหลังไป ร่างสูงเดินผ่านห้องโถงใหญ่ใจกลางโรงแรมที่ถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบเวนิสอย่างสวยงามและกลมกลืน ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ อย่างพอใจเมื่อเห็นลูกค้ายังคงเนืองแน่นเช่นทุกวัน
“แขกเยอะกว่าทุกวันครับบอส” วีริสรายงาน
เฮนรี่พยักหน้ารับ แล้วเดินไปที่ลิฟต์ส่วนตัวขึ้นไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม
“เกรซเล่นดนตรีเสร็จหรือยัง”
“เสร็จแล้วครับ ตอนนี้รอบอสอยู่ในห้องทำงาน” ร่างสูงก้าวออกจากลิฟต์
อีริทรีบเดินไปเปิดประตูห้องทำงานเพื่อให้นายใหญ่แห่งสตาร์เลสก้าวผ่านเข้าไป
“พี่ใหญ่” เสียงหวานใสพร้อมกับร่างบอบบางของสาวน้อยหน้าตาสวยสดใสเรียกพี่ชายสุดที่รัก ก่อนจะเดินเข้ามากอดเอวหนา
“เล่นดนตรีเสร็จทำไมไม่กลับบ้านยัยตัวแสบ” เฮนรี่ถามพลางก้มลงไปหอมผมนุ่มสลวยของน้องสาวแล้วโยกศีรษะเล็กเบาๆ
“จะกลับอยู่แล้วค่ะ พอดีว่าหลานสาวสุดที่รักฝากหอมแก้มคุณพ่อน่ะสิคะ”
เฮนรี่ยิ้มกว้าง ใบหน้ากลมป้อมของบุตรสาวลอยเข้ามาในหัว เกือบสัปดาห์ที่เขาไม่ได้กลับบ้านเพราะงานด่วนหลายอย่างรัดตัว ปกติเขาจะกลับเฉพาะเสาร์อาทิตย์ เพื่อจะไปอยู่กับลูกสาวช่วงวันหยุด แต่สัปดาห์นี้เขาติดรับแขกสำคัญของรัฐบาลที่มาตรวจความเรียบร้อยในลาสเวกัส จึงปลีกตัวกลับไปไม่ได้เหมือนเคย
“พรุ่งนี้ตั้งใจจะกลับอยู่แล้วล่ะ”
“กลับคืนนี้เลยสิคะ เกรซจะได้มีเพื่อนกลับบ้าน” หล่อนยิ้มอย่างประจบ
วีริสและอีริทมองความผูกพันของสองพี่น้องยิ้มๆ เกือบสี่ปีที่อยู่รับใช้มา ทั้งวีริสและอีริทต่างได้รับความเมตตาจากนายทิมและเฮนรี่มาตลอด ทำให้เขาสองคนทำงานรับใช้อย่างเต็มความสามารถ
“ไม่ได้จ้ะน้องรัก วันนี้พี่ติดงาน”
“ติดงานหรือติดหญิงคะ” แก้มเนียนใสป่องขึ้นอย่างขัดใจ
เฮนรี่ยิ้ม เคาะนิ้วไปบนหน้าผากมนของน้องสาวอย่างเอ็นดู
“แก่แดดใหญ่แล้วนะเกรซ”
“ก็เกรซพูดความจริง” หญิงสาวยื่นปากใส่ แล้วผละจากเอวพี่ชายไปหยิบกระเป๋าถือมาคล้องบ่า “กลับบ้านดีกว่า เบื่อคนเจ้าชู้แถวนี้” เกรซค้อนให้แล้วเดินออกจากห้อง
“ให้ริสไปส่ง”
วีริสขยับจะก้าวตามคำสั่งเจ้านาย แต่เสียงของหญิงสาวดังขึ้นอย่างงอนๆ
“ไม่ต้องค่ะ เกรซกลับเองได้” เธอก้าวพ้นประตูไปแล้ว แต่ก็ถอยหลังกลับมาอีกครั้ง ใบหน้ายังคงบึ้งตึงใส่พี่ชายสุดที่รัก
“ออกัสต์คิดถึงพ่อมากนะคะ”
เฮนรี่ชะงักไปชั่วครู่ ละสายตาจากเอกสารในมือมาสบตากลมใสของน้องสาว เกรซมองลึกเข้าไปในดวงตาคมกริบอย่างสงสารพี่ชาย
สองปีที่เฮนรี่ต้องจมอยู่กับความเสียใจ หลังจากที่อลีน่าภรรยาสาวจากไปหลังคลอดไม่ถึงชั่วโมงท่ามกลางความเจ็บปวดของเขาและทุกคนในครอบครัว เธอทิ้งไว้เพียงลูกสาวที่น่ารักช่างพูดไว้ให้ดูต่างหน้า จากนั้นทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นปู่หรือเกรซเองก็ทุ่มเทความรักให้หลานสาวอย่างเต็มที่
เกรซกลับไปนานแล้ว แต่ร่างสูงสง่ายังคงยืนทอดสายตามองทิวทัศน์ยามค่ำคืน
ดวงตาคมเข้มหลับลงอย่างเหนื่อยล้า สูดลมหายใจเข้าเบาๆ เพื่อเรียกกำลังใจกลับคืนมา แล้วเดินไปนั่งทำงานที่ค้างอยู่บนโต๊ะ
เวลาล่วงเลยมานานเกือบตีสอง เฮนรี่ยังง่วนอยู่กับงานด่วนที่ต้องเร่งตัดสินใจ ธุรกิจหลายอย่างที่เขาได้ก่อตั้งขึ้นกำลังทำรายได้มหาศาล ทั้งเรือสำราญ ธุรกิจสถานบันเทิงต่างๆ ร่วมไปถึงธุรกิจน้ำมัน
วีริสขยับตัวพลางมองสบตาอีริทเมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยมามากพอที่คนเป็นนายต้องพักผ่อน ร่างสูงเพรียวเดินไปหยุดหน้าโต๊ะ
“บอสครับ ดึกแล้วนะครับ”
“อืม...รอเดี๋ยว” เฮนรี่ตอบกลับมาขณะที่สายตายังไม่ยอมละจากเอกสารใบสุดท้าย พอปลายปากกาตวัดลายเซ็นลงไปเสร็จ ร่างสูงก็เป่าลมหายใจออกจากปากแรงๆ พร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย
“กลับบ้านใหญ่หรือคอนโดครับ” อีริทซึ่งทำหน้าที่สารถีเอ่ยถามเสียงเรียบ
“เจ้าหญิงน้อยสั่งให้กลับบ้านก็ต้องตามนั้นสิเพื่อนยาก”
“พรุ่งนี้บอสจะเข้ามาที่นี่ไหมครับ” วีริสถาม พร้อมกับถือกระเป๋าเอกสารเดินตามเข้ามาในลิฟต์
“ขอพักอยู่กับลูกสักวัน พรุ่งนี้นายสองคนก็พักได้เลยนะ ฉันไม่ออกไปไหน” เฮนรี่สั่งลูกน้องคนสนิทหลังจากรถเคลื่อนตัวออกจากคาสิโน
“ผมเตรียมของขวัญวันเกิดให้นายกเทศมนตรีเรียบร้อยแล้วนะครับ” วีริสหันกลับมารายงานเจ้านายหนุ่ม
“วันมะรืนใช่ไหม” เฮนรี่หลับตาลงอย่างเหนื่อยๆ กับงานสังคมที่ต้องไปทำความรู้จักหรืออวยพรผู้ใหญ่ที่คอยให้การสนับสนุนและช่วยเหลือสตาร์เลสมาโดยตลอด
“ครับบอส งานนี้นายใหญ่สั่งผ่านคุณไซมอนมาว่าท่านจะไปด้วยครับ”
สิ้นเสียงของวีริส ร่างสูงก็ขยับตัว แววตาคมนิ่งลึกอย่างครุ่นคิด อดเป็นห่วงคนเป็นปู่ไม่ได้ แม้สตาร์เลสจะทำธุรกิจอย่างขาวสะอาด แต่ถ้าใครกล้าต่อกรหรือคิดไม่ซื่อ สตาร์เลสจะเอาคืนเป็นเท่าทวี ทำให้ศัตรูทางธุรกิจมีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับซีโอยอร์
“เตรียมคนอารักขาท่านเต็มที่ อย่าให้เป็นอันตรายได้” คำสั่งประกาศิตของประธานใหญ่ ทำให้ทั้งวีริสและอีริทต้องทำหน้าที่อารักขาอย่างเต็มที่
*** ขอบคุณคร้า ***
