ตอนที่2 ทรมาน
“แม่ ฉันได้ยินมาว่าคุณโรมมาอยู่ที่กระท่อมกลางป่าเหรอ แล้วเราจะต้องให้คนไปดูแลไหม ถ้าจะต้องส่งข้าวส่งน้ำให้ฉันไปนะแม่” เดือนแรมลูกสาวคนสวยของลุงเพิ่มกับป้าละไมคนที่ถูกจ้างวานให้ดูแลความเรียบร้อยที่เกาะแห่งนี้ เมื่อรู้ว่ารณพีย์เข้ามาพักที่นี่ก็หมายอยากจะไปดูแลเขาเป็นพิเศษ
“คุณโรมไม่ได้สั่งอะไรแกไม่ต้องยุ่ง แล้วก็อย่าคิดไปยุ่งกับที่นั่นถ้าไม่มีใครสั่งเข้าใจใช่ไหม” ละไมเอ็ดลูกสาวเสียงแข็งเพราะพอจะรู้ว่าลูกของเธอคิดอะไรจึงต้องรีบปรามเอาไว้ก่อน
“จ้า...” หน้าสวยคมของเดือนแรมเริ่มบูดบึ้ง เพราะในใจของเธอแอบปลื้มรณพีย์ตั้งแต่เห็นกันครั้งแรก และตอนนี้ก็ยังปักใจกับชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นนายจ้างอยู่ ถึงแม้ว่าแม่ของเธออยากจะให้เธอเจียมตัว แต่คนอย่างเธอไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่ายๆ
เด่นชัยกลับมาจากการออกไปหากุ้งหาปลาได้ก็เดินถือลังโฟมลังใหญ่เข้ามาในครัว หวังจะให้น้องสาวอย่างเดือนแรมทำกับข้าว แต่เมื่อเข้ามาถึงครัวก็เห็นน้องตนนั่งหั่นผักหน้าหงิกหน้างออยู่ในครัวจึงพอจะรู้ว่าเดือนแรมท่าจะถูกใจขัดใจมาอีกแน่นอน
“หงุดหงิดอะไรของแก”
“ก็ฉันอยากไปดูแลคุณโรม แม่ดันสั่งไม่ให้ฉันไปยุ่ง” สาวเจ้าว่าด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“ก็เจ้านายเค้าไม่ได้สั่งแกจะไปทำไม ถ้าเสร็จงานในครัวแล้วก็ไปโน่น ไปรดน้ำผักโน่น”
คำพูดของพี่ชายทำเดือนแรมมีโทสะเพิ่มมากขึ้น เพราะดูท่าคนในครอบครัวไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเธอเลย
“ชิ...พี่ก็อีกคน ถ้าฉันได้อยู่ใกล้ๆ คุณโรมแล้วเค้าถูกใจฉันขึ้นมา เกิดได้แต่งงานกัน พี่กับพ่อแม่นั่นแหละจะสบายไปด้วยไม่อยากเป็นแบบนั้นหรือไง”
“อยู่แบบนี้ฉันก็สบายดีแล้ว ถ้าคุณโรมเค้าสนใจแกป่านนี้เค้าก็คงจะแสดงท่าทีอะไรบ้างแล้ว อย่าคิดอะไรเกินตัวเลยเดือน แกยังเด็กวันหน้าก็จะเจอคนอีกมากมายไม่ต้องริกๆ อยากจะมีผัวตอนนี้หรอก”
“พี่เด่น! ทำเอาเองเลยกับข้าวน่ะ” เดือนแรมวางมือจากการทำกับข้าวแล้วลุกขึ้นพรวดเดินดุ่มออกไปจากในครัว เด่นชัยทำได้แต่ยืนเท้าเอวมองตามหลังน้องสาว
ด้วยความที่น้องตนเป็นลูกหลงเลยถูกตามใจเป็นพิเศษโตมาจึงเอาแต่ใจแบบนี้ อันที่จริงเขาก็พอจะเข้าใจว่าน้องของเขาเพิ่งจะเรียนจบมัธยมปลายการมีความรักมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของวัยสาว แต่วัยนี้จะขาดการยับยั้งชั่งใจไปหน่อยจึงต้องคอยเตือนกันบ่อยๆ
พลอยชมพูนั่งๆ นอนๆ สีหน้าอมทุกข์มาพักใหญ่ พอเข้าช่วงเย็นเธอก็ถูกปลดปล่อยจากพันธนาการของโซ่เส้นใหญ่ที่ข้อเท้า ก่อนจะถูกรณพีย์ลากออกมาจากกระท่อมหลังน้อย
“จะพาฉันไปไหน”
“จะพาไปเรียนรู้ไงว่าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จะต้องทำอะไรบ้าง” รณพีย์ลากพลอยชมพูมาที่หลังกระท่อมน้อยแล้วพาเธอมาหยุดอยู่ตรงหน้าเพิงเล็กๆ หญิงสาวเห็นเช่นนั้นก็พอจะเดาได้ว่าที่นี่น่าจะเป็นห้องน้ำ แล้วเขาจะพาเธอมาทำอะไรที่นี่เธอก็ยังไม่เข้าใจเจตนาอยู่ดี หวังว่าเขาคงเคียดแค้นพ่อของเธอจนวิปริตกักขังเธอเอาไว้ในห้องน้ำหรอกนะ
“ที่นี่คือห้องน้ำ” รณพีย์หันมาพูกับคนที่ยังคงยืนทำหน้าฉงน
“ต่อไปนี้ถ้าคุณจะอาบน้ำ หรือจะใช้น้ำคุณก็มาหยิบถังที่นี่แล้วไปตักน้ำที่ลำธารเอาเอง รวมถึงอาหารการกินคุณก็ต้องทำเองเหมือนกัน”
“ฉันทำกับข้าวไม่เป็น” เรื่องใช้แรงตักน้ำเธอคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไหร่เพราะเธอคิดว่าลำธารคงอยู่ไม่ไกล เดาได้จากที่เธอได้ยินเสียงน้ำไหลตั้งแต่อยู่ในกระท่อม แต่เรื่องการทำกับข้าวเธอค่อนข้างหนักใจ เพราะแค่ต้มไข่เธอก็ยังไม่เคยทำเลย ตั้งแต่เกิดมาก็มีแม่บ้านคอยทำให้ เมื่อไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาเธอก็ใช้เงินซื้อของกินตลอด
“จะเป็นหรือไม่เป็นคุณก็ต้องทำให้ได้ แล้วก็ต้องทำให้ผมกินด้วย”
“งั้นคุณช่วยสอนฉันทำอาหารหน่อยได้ไหม” พลอยชมพูเอ่ยเสียงอ่อน ไม่ได้คิดอิดออดจะไม่ทำสิ่งที่เขาต้องการ แต่เพียงแค่ในหัวสมองเธอตอนนี้ไม่มีข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับการทำอาหาร
“ไม่” เสียงแข็งตอบกลับทันที หลังจากนั้นรณพีย์ก็หยิบถังน้ำแสตนเลสใส่ในมือของหญิงสาวก่อนจะจูงมือเธอให้เดินตามไปที่ริมธารน้ำตกที่อยู่ใม่ไกลจากกระท่อมหลังน้อยมากนัก
“ถ้าอยากมีน้ำอาบน้ำใช้ก่อนมืดก็กรุณาตักน้ำให้เต็มโอ่งในห้องน้ำแล้วก็ที่ครัวให้เต็มก็แล้วกัน”
“แล้วคุณจะใช้น้ำด้วยไหม ถ้าใช้ด้วยก็ช่วยฉันด้วยสิคะ” วินาทีนี้เธอจำเป็นต้องหาตัวช่วย เพราะคิดว่าถ้าต้องเดินตักน้ำด้วยถังน้ำใบเดียวตัวคนเดียวคงเสร็จไม่ทันก่อนที่ฟ้าจะมืดแน่
“ดูปากผมชัดๆ ผม ไม่ ทำ เพราะคุณจะต้องเป็นคนทำทุกอย่าง” ว่าจบก็หันหลังเดินดุ่มหนีหน้าพลอยชมพูออกไป
หญิงสาวขมวดคิ้วมองตามหลังคนร่างสูงด้วยความโมโหเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเขาจะหาเรื่องทรมานอะไรเธอนักหนา ใบหน้าหวานก้มมองท้องน้อยที่กำลังส่งเสียงร้องท้วงเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหลายชั่วโมง ไม่แน่เธออาจจะเป็นลมก่อนที่จะตักน้ำเสร็จก็ได้
“จะใจดำอะไรนักหนานะ” ผลสุดท้ายตอนนี้พลอยชมพูก็ทำได้แค่บ่นระบายอารมณ์แล้วก็ต้องตั้งหน้าตั้วงตาตักน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่คนที่ใช้ชีวิตปานเจ้าหญิงมาทั้งชีวิตเธอจึงทำงานสมบุกสมบันไม่ค่อยไหว การตักน้ำใส่ถังแล้วต้องเดินไปเดินมาหลายๆ รอบเธอจึงตักไปได้ทีละน้อยๆ
รณพีย์เดินมายืนขวางหน้าพลอยชมพูเมื่อเห็นว่าเธอตักน้ำไม่เต็มถังกลับมาหลายรอบแล้ว
“ทำไมไม่ตักน้ำมาให้เต็มถัง แล้วเมื่อไหร่มันจะเต็ม”
หญิงสาวที่เหงื่อท่วมตัววางถังกับพื้นและเงยหน้ามองคนที่ขวางทางด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เธอเหนื่อยจนเวียนหัวหายใจแทบไม่ทันแล้วเขายังไม่หยุดที่จะหาเรื่องบ่นเธอเสียที
“ก็ฉันหิ้วไหวแค่นี้นี่คะ บอกให้ช่วยกันก็ไม่มาช่วยยังจะมาบ่นอีก” ต่อว่าชายหนุ่มจบเธอก็ก้มหยิบถังน้ำเดินอ้อมตัวของเขาตรงไปยังห้องน้ำ
“มานี่...”
ยังไม่ทันที่พลอยชมพูจะได้เทน้ำลงโอ่งในห้องน้ำดี เธอก็ถูกรณพีย์ลากให้ออกมาข้างนอก
