บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“นั่งยิ้มอะไรคุณ?” แมทธิวที่เดินเข้ามาในบ้าน หลังจากออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจเอ่ยถามขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ ถึงจะมาอยู่ที่บรูไนเป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่หนุ่มใหญ่ก็เลือกที่จะพูดภาษาอังกฤษเสียเป็นส่วนใหญ่ จะพูดภาษาท้องถิ่นของที่นี่ก็ตอนที่ติดต่อธุรกิจแต่ก็น้อยครั้ง

“ก็เรื่องแต่งงานของนาตาเซียค่ะ” ดารียะห์หันมาตอบสามีเป็นภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน ในแววตาของเธอยังคงมีความรักให้สามีเสมอ เพราะตลอดเวลาที่แต่งงานมา แมทธิวซื่อสัตย์กับเธอมาโดยตลอด ใจจริงก็อยากให้นาตาเซียแต่งงานกับชาวยุโรปเหมือนเธอ แต่ก็กลัวว่าลูกสาวจะไปอยู่บ้านสามีจึงไม่สนับสนุน

“แต่งงาน ตกลงนี่จะคลุมถุงชนลูกจริงๆ นะเหรอ?” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แมทธิวออกอาการเครียดเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยชอบใจ อยากให้นาตาเซียตัดสินใจด้วยตัวเองมากกว่า

“ค่ะ แต่ก่อนจะคลุมถุงชน ฉันยังให้โอกาสลูกได้พบกับว่าที่เจ้าบ่าวนะ ถือว่าดีแล้ว เพราะบ้านอื่นเขาจัดงานแต่งงานแล้วให้เจอหน้ากันตอนเข้าหอเสียด้วยซ้ำ”

“ไม่ลองคิดดูใหม่เหรอคุณดารียะห์”

“ฉันคิดดีแล้วค่ะ ถ้านาตาเซียมีแฟนจริงอย่างที่คุณกังวล ป่านนี้เราก็ต้องรู้เรื่อง ให้ลูกแต่งงานกับผู้ชายดีๆ ที่เราเลือกให้น่ะดีที่สุด” ดารียะห์ยิ้มกับความคิดของตัวเอง เพราะเธอมองคนไม่ผิดแน่นอน ถึงจะยังไม่เคยเห็นภีรดล แต่ดูจากพ่อแม่แล้วก็พอจะเดาออกว่าคงอบรมลูกชายเป็นอย่างดีแน่นอน

แมทธิวที่ค้านเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แม้จะพยายามเปลี่ยนใจภรรยาแค่ไหนก็คงไม่สำเร็จ เพราะดารียะห์เป็นคนแน่วแน่ คิดอะไรแล้วต้องทำให้ได้ ถ้าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชายที่ดีจริงก็ว่าไป แต่ถ้าไม่ดี เขานี่แหละจะเป็นคนขัดขวางให้ถึงที่สุด

ทางด้านครอบครัวว่าที่เจ้าบ่าว เมื่อเห็นภรรยาวางสายไปแล้ว ศุภกรก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยถามภรรยาทันที เพราะจากคำพูดที่ได้ฟังตอนอัสมาห์คุยโทรศัพท์ เขายังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่

“เป็นยังไงบ้างคุณ?” น้ำเสียงทุ้มของหนุ่มใหญ่ชาวไทยอายุห้าสิบกว่าปีเอ่ยถามขึ้น อายุก็ปูนนี้ แต่กลับยังปวดหัวด้วยเรื่องที่ลูกชายหมั่นก่อขึ้นเสียเหลือเกิน

“หนูนาตาเซียบินไปยุโรป อีกประมาณหนึ่งเดือนถึงจะกลับ” อัสมาห์หันมาบอกสามี หลังจากคุยกับแม่ของว่าที่สะใภ้เรียบร้อย แต่เธอก็พูดเกริ่นไปแล้วว่าจะรอ

“หนูนาตาเซียน่าจะกลับทันวันที่เราเดินทาง ผมจะพยายามยื้อเวลาเพื่อรอแล้วกัน” ศุภกรพยักหน้าให้ ตอนนี้คงมีทางเดียวเท่านั้น

“ค่ะๆ แล้วถ้ามันไม่ทันการณ์ล่ะคุณ” อัสมาห์ยังคงเป็นกังวลอยู่ เพราะกลัวทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ จะยุ่งกันไปใหญ่

“งั้นเราก็ไปพูดคุยเรื่องสู่ขอจิตรานุชก่อน เพราะการแต่งงานของคนไทยต้องรอฤกษ์ เราใช้ช่วงเวลานั้นถ่วงเวลาจนกว่าหนูนาตาเซียจะกลับมา”

“ค่ะ” อัสมาห์เห็นด้วยกับความคิดของสามี มีทางเดียวคือรอ และเธอค่อนข้างมั่นใจว่าภีรดลต้องชอบนาตาเซียมากอย่างแน่นอน ถ้าสองคนนั้นตกลงใจแต่งงานกัน เธอจะจัดงานแต่งให้ดังเป็นข่าวทั้งประเทศจนข้ามไปถึงประเทศไทยเลยยิ่งดี

“ไมค์ก็เหลือเกิน เจ้าชู้จนได้เรื่อง” ศุภกรส่ายหน้าให้เมื่อพูดถึงลูกชาย ถ้าไม่เป็นเพราะความที่รักคนง่าย เข้าใกล้ใครที่ถูกใจมากหน่อยก็เพ้ออยากแต่งงานแบบนี้ ที่บ้านคงไม่เดือดร้อนวิ่งหาผู้หญิงให้มาแต่งงานด้วย เพราะภีรดลไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชักอยากจะรู้แล้วว่าจิตรานุชเป็นคนยังไง ถึงหว่านล้อมให้พ่อปลาไหลที่รักใครไม่เป็นอย่างภีรดล อยากแต่งงานมากถึงขนาดนี้

“ใช่ ลูกชายของใครก็ไม่รู้”

“ลูกชายผม แต่ไม่ได้เชื้อผมสักนิด” หนุ่มใหญ่เอ่ยรับ เพราะความเจ้าชู้ประตูดินนั้นเขาไม่เคยทำมาก่อน แม้ธรรมเนียมของที่นี่ ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้ถึงสี่คน แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ แต่พ่อลูกชายตัวดีของเขาสี่คนคงไม่พอเป็นแน่ ถ้าแต่งงานไปแล้วไม่รู้จะไปหลงรักใครแบบนี้เข้าให้อีกหรือเปล่า

“ค่ะ ฉันถึงต้องให้ไมค์แต่งงานกับผู้หญิงดีๆ จะได้เกรงใจ ไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้อีก” อัสมาห์ไม่รู้หรอกว่าลูกชายเธอจะลดความเจ้าชู้ได้หรือเปล่าหลังแต่งงาน แต่อย่างน้อยก็หวังให้ลดลงไปบ้าง ภีรดลต้องแต่งงานและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับนาตาเซียอย่างแน่นอน ได้สะใภ้เป็นถึงเชื้อพระวงศ์แม้จะห่างๆ ก็เถอะ อย่างไรก็ดีกว่าจิตรานุชร้อยเท่าพันเท่าแน่นอน แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็คงต้องเฝ้าภาวนาให้นาตาเซียกลับมาไวๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel