Ep.2
แล้วอยู่ๆ ร่างกายของหญิงสาวก็ร้อนๆหนาวๆแปลกๆ เมื่อจ้องแสงจันทร์นานๆ สายลมเย็นๆที่พัดมากระทบ ให้เส้นผมสีดำสนิทของชายหนุ่มปลิวสะบัดไปข้างหลัง เชอร์ลีนเผลอมองริมฝีปากบางเฉียบสีสดมันวาวของเขาด้วยความรู้สึกบางอย่าง แล้วเขาก็ค่อยๆหันมา ถอดแว่นตาออก
หัวใจของสาวน้อยพลันเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อสบเข้ากับดวงตาคมคู่นั้น มันเหมือนมีแรงดึงดูดระหว่างกัน สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปหาโดยไม่รู้ตัว
“เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าคะ”
“เคย ครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว”
“นานมาแล้ว ตอนไหนคะ” เธอรู้สึกฉงนเมื่อจำไม่ได้
“เมื่อคุณยังเด็ก”
หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ พยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก ทว่าดวงตาคมคู่นี้ที่กำลังจ้องมองเธออยู่มันช่างคุ้นเคยจริงๆ
“ฉันจำคุณไม่ได้เลย”
“ไม่เป็นไร มันนานมากแล้ว ตอนนี้คุณโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วนะ เคยถูกผู้ชายจูบบ้างไหม” เขาถามแปลกๆ แต่ไม่แปลกสำหรับเชอร์ลีน ทว่าคำถามนี้ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นไปอีกเท่าตัว พลางส่ายหน้าเป็นคำตอบว่ายังไม่เคย
เขาขยับเข้ามาใกล้อีกนิด เสื้อผ้าแทบสัมผัสกัน เขายื่นมือไปรวบผมนุ่มๆของเธอมาถือไว้ แล้วก้มมองดู
“ผมคุณนุ่มและสวยมาก”
หลายคนชมเธอแบบนั้น แต่ไม่มีใครชมเธอได้เซ็กซี่ขนาดนี้มาก่อนเลย แค่ผมอยู่ในอุ้งมือของเขา ก็ราวถูกเขาแตะต้องไปทั้งตัว
มือเรียวยกขึ้นเชยคางมน จ้องมองดวงตาคู่สวยเหมือนจะมองให้ทะลุถึงจิตวิญญาณ แล้วก้มใบหน้าคมหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศลงมาใกล้ คล้ายจะ...
...จูบ...
เชอร์ลีนเผลอแย้มกลีบปากออกคล้ายกับจะรอคอยให้เขามาสัมผัสอย่างลืมตัวไปชั่วขณะ ใบหน้าเรียวถูกประคองด้วยสองมือเพื่อรับจุมพิตแบบสายฟ้าแลบนั้นอย่างนุ่มนวลอ่อนหวาน และลึกล้ำดูดดื่มในวินาทีต่อมา ก่อนที่ร่างนุ่มจะถูกสองแขนรวบเข้ามากอดแนบชิดกับกายแกร่งดุจหินผา ที่คุกรุ่นไปด้วยกลิ่นกายหอมๆชวนให้หลงใหลและเคลิบเคลิ้ม
...ราวกับถูกมนตร์สะกด...
โลกทั้งใบคล้ายจะหยุดหมุน แทบจะได้ยินเสียงใบไม้ร่วงหล่นบนความเงียบงัน ทว่าทั้งสองกลับได้ยินเพียงเสียงหัวใจเต้นของกันและกันเท่านั้น เวลาผ่านไปเนิ่นนานกี่วินาที กี่นาทีเท่าไหร่ไม่รู้ เพราะทุกอย่างเหมือนจะหยุดนิ่ง มีเพียงสองร่างเท่านั้นที่เคลื่อนไหวด้วยความซาบซ่าน ปั่นป่วนในหัวใจ ร่างเล็กในอ้อมกอดสั่นสะท้านไหว
...คล้ายจะเหน็บหนาว ทว่ากลับเร่าร้อนในคราวเดียวกัน...
...ต้องการมากกว่าการถูกกอดจูบ อยากแนบชิดให้มากกว่านี้...
...ทำไม...ถึงรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ได้...
...ไม่เข้าใจ...เธอไม่เข้าใจตัวเองเลย...
เขาจูบเธอราวกับจะสูบเอาวิญญาณออกจากร่าง คล้ายจะหายใจไม่ออก แต่กลับไม่รู้อึดอัด รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ ยอมให้เขาล่วงเกินด้วยความเต็มอกเต็มใจ เบลอไปด้วยรสจุมพิตแสนหวานจนเมื่อเขาผละออกก็ยังไม่รู้สึกตัว กระทั่งเขาพูดเสียงนุ่มเบาๆ
“เพื่อนของคุณคงรอแล้ว แล้วเดินทางต่อกันเถอะ”
มือบางถูกจับให้เดินตามร่างสูงไปขึ้นรถ เชอร์ลีนยังงวยงง จนเมื่อชายหนุ่มเอี้ยวตัวมารัดเข็มขัดนิรภัยให้ เธอจึงได้พูดออกมา
“ขอบคุณค่ะ”
เขาแค่ยิ้มให้ สวมแว่นตากลับเข้าที่เดิม แล้วสตาร์ทรถออกไป
เครซี่ชะเง้อมองออกไปหน้าบ้าน เพราะตอนนี้แขกเหรื่อและเพื่อนๆ เริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว ไม่รู้เพื่อนของคู่หมั้นหนุ่มไปรับเพื่อนรักของเธอถึงไหนแล้ว กำลังจะกดโทรหาเชอร์ลีนแต่ก็ถูกเธเลสมาขัดจังหวะเสียก่อน
“เคซ”
“เธเลส มีอะไหรือเปล่าคะ”
ชายหนุ่มจ้องมองต่ำลึกลงไปกว่าใบหน้าที่สะสวยไปหยุดที่เนินอกรำไรน่ามองของแฟนสาวแล้วลอบกลืนน้ำลาย คืนนี้เจ้าของงานวันเกิดสวยและเซ็กซี่มากจริงๆ
เธอสวมชุดราตรียาวสีแดงโดดเด่นช่วงบนผ่าหน้าจากร่องอกลงมาจนถึงหน้าท้องแนบราบ ด้านหลังก็ผ่ากว้างเปิดเปลือยแผ่นหลังขาวผ่องนวลเนียนน่าสัมผัสเป็นที่สุด แถมช่วงกระโปรงยังแหวกข้างจากโคนขาลงมาถึงปลายเท้า ทุกก้าวย่างของแม่เสือสาวจึงดูงามสง่าและเย้ายวนใจชวนให้หลงใหลเป็นที่สุด
อีกไม่นานเธอก็จะมาเป็นเจ้าสาวของเขาเต็มตัวแล้ว ทว่าคืนนี้แค่เห็นรอยยิ้มแสนหวาน เขาก็ปรารถนาอยากจะแนบชิดเธอเสียแล้ว เครซี่มีเสน่ห์สำหรับหนุ่มๆเสมอ แต่เขาไม่หวงหรอก เพราะหญิงสาวพิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่า เธอมองเขาแค่คนเดียวเท่านั้น
“คืนนี้คุณสวยมาก” เขาตอบพยายามจะโน้มใบหน้าลงมาจูบแต่หญิงสาวยันอกแกร่งเอาไว้
“คนเยอะนะคะ” เธอห้าม
“งั้นก็ ขอเวลาส่วนตัวให้ผมสักสิบนาทีได้ไหม ผมอยากให้ของขวัญวันเกิดกับคุณ”
“อะไรคะ”
“มาเถอะน่าที่รัก”
“เธเลส” แต่ร่างระหงก็เดินตามคู่หมั้นหนุ่มเลือดร้อนออกไป เขาพาเธอไปยังห้องๆหนึ่งที่ค่อนข้างมืดสลัว พอไปถึงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง รวบร่างงามเข้ามากอดแล้วจูบเธอทันทีตามใจที่เรียกร้อง
เครซี่ก็ไม่ต่อต้าน เธอเองก็ปรารถนาอยากจะใกล้ชิดกับเขาเช่นกัน หลายวันแล้วที่เธเลสยุ่งๆ ไม่มีเวลามาหาเธอเลย แต่ว่าคืนนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอชายหนุ่มจึงได้มาหา