3
พงศ์พิทัยประชด เห็นท่าทีเด็กสาวแล้วนึกหมั่นไส้เล็กๆ
“คะ?”
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา สบตาแล้วคิดตาม อ้อ... หาว่าเธอเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสีเร็วแบบนั้นเหรอ
“โอ๊ย! เจ็บนะ” พงศ์พิทัยร้องเสียงหลง
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ แต่เพื่อให้ยาซึมเข้าไปเร็วๆ เราก็ต้องกดแรงๆ แบบนี้ล่ะค่ะ”
“ตำราบ้านไหนสอน”
“บ้านหนูไงคะ”
เธอตีเนียน ประคบสมุนไพรอย่างสบายอารมณ์ ก้มลงกลั้นขำ อยากจะหัวเราะให้สาแก่ใจที่ได้แกล้งแต่ก็ต้องกลั้นมันเอาไว้
“จะหัวเราะก็หัวเราะเถอะ เดี๋ยวอกจะแตกตาย”
“หนูไม่กล้าหัวเราะคุณหรอกค่ะ”
เธอเงยหน้าขึ้นแกล้งพูดอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว พงศ์พิทัยมองขาขาวผ่องของเด็กสาวแล้วต้องเบือนหน้าหนี ถ้าเธอไม่แสบเขาก็ว่าเธอน่ารักดี ไม่สิต้องบอกว่าสวยหวานน่ารักไปทั้งเนื้อทั้งตัว
“นี่ขนาดไม่กล้านะ”
คนพูดยกน้ำเย็นๆ ขึ้นดื่ม ซึ่งเธอยกมาเสิร์ฟตั้งแต่เดินขึ้นมาบนบ้าน
“คุณไปโดนอะไรมาค่ะ สภาพเหมือนลูกหมาตกน้ำ”
“แค่ก ๆ ๆ ๆ ๆ”
พงศ์พิทัยสำลักน้ำที่กำลังดื่ม วางแก้วน้ำแทบไม่ทัน เธอกลั้นขำ ก่อนจะเบือนหน้าไปหัวเราะคิกคัก
“อ้อ... ดีนะ นี่ขนาดไม่กล้า เปรียบเทียบซะเป็นหมา”
“สุภาพษิตค่ะ คุณก็คิดมากไปได้ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไหมคะ จะได้รู้สึกดีขึ้น”
เธอเปลี่ยนเรื่อง เขาทำตาเขียวใส่ แต่เฌอปรางทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขืนทำให้คนเป็นเจ้านายโกรธ เธอได้โดนลุงกับป้าดุน่ะสิ เพราะพวกท่านดูเคารพรักพงศ์พิทัยเอามากๆ
“เข้ามาทำไม”
พงศ์พิทัยเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเด็กสาวเดินตามเขาเข้ามาด้วย
“มาช่วยถูหลังให้คุณไงคะ”
“เฮ้ย!”
เขาอุทานสะดุ้งโหยง มองเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“หนูล้อเล่น ตกใจเหมือนเห็นผีเลยนะคะ”
เธอขำกลิ้ง แต่เขาไม่ขำด้วย
“อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นสิคะ หน้าจะแก่เร็ว ทั้งแก่ทั้งเหี่ยว ตีนกาขึ้น”
“ยัยเด็กบ้า!”
“เดี๋ยวหนูจะไปทำกับข้าวให้กินนะคะ”
เธอทำท่าทีสงบเสงี่ยมอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป พงศ์พิทัยรีบปิดประตู เขาถอนใจหนักๆ ก่อนจะรีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำแล้วรู้สึกสดชื่น แต่เพราะมันรู้สึกสบายนี่แหละ เลยทำให้เขาเผลอหลับไปบนเตียงนอนกว้าง
เฌอปรางทำกับข้าวเสร็จเธอก็เดินไปยังห้องของเจ้านายหนุ่ม ทำท่าจะเคาะประตู แต่เห็นประตูไม่ได้ล็อกเลยก้าวเข้าไปในห้องเห็นเขานอนหลับสบายอยู่ตรงนั้น
“โหย... อาบน้ำแล้วหล่อมาก หน้าใสกิ๊ก คนกรุงนี่ผิวเขาขาวเนียนกันแบบนี้เลยเนอะ”
เธอพูดเบาๆ เดินเข้าไปชะโงกหน้ามองคนที่หลับสบายอยู่บนเตียง
เด็กสาวสำรวจเนื้อตัวของอีกฝ่าย ก่อนจะมองปากแดงๆ ของเขาไม่วางตา
“ปากแดงยิ่งกว่าผู้หญิง เป็นตุ๊ดหรือเปล่านะ แต่ท่าจะไม่ใช่”
คนวิจารณ์มองอกกว้าง แล้วตาโต นี่แหละเขาเรียกอกสามศอก พงศ์พิทัยเป็นคนหน้าเรียว หล่อเหลา ดูสะอาดสะอ้าน ปากแดงแบบคนสุขภาพดี เธอเดาว่าเขาคงไม่สูบบุหรี่ คนสูบบุหรี่ปากดำคล้ำน่าเกลียด
เธอมองช่วงขาเพรียวแข็งแรงของเขา ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นไปมองแขนแกร่ง ซึ่งกล้ามเป็นมัดๆ แลเป็นผู้ชายชอบอออกำลังกายและสุขภาพดี
“ตัวขาวจัง”
เธอพูดเบาๆ มองขนตาดกหนาของเขาแล้วอิจฉา
“ผู้ชายอะไรขนตาเยอะกว่าผู้หญิงเสียอีก”
โหนกแก้มรับกับจมูกโด่งเป็นสัน และคิ้วเข้มเสริมให้ใบหน้าของเขาดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ
“แก้มเนียนมาก” เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“ว้าย!”
เฌอปรางร้องเสียงหลงเมื่อร่างน้อยโดนดึงลงไปกอดรัดแนบแน่น ก่อนที่คนนอนหลับสนิทอยู่จะขึ้นคร่อมทับ
เธอตาโตเมื่อได้สบดวงตาคมเข้มคู่นั้น!
ซวยแล้วเรา!
“ทำอะไร”
เขาถามเสียงดุ ดูผ่อนคลายลงมาก ตอนแรกดูตื่นตัวระแวดระวัง
“เปล่าค่ะ”
เธอส่ายหน้าดิก เขายังคร่อมทับร่างของเธออยู่แบบนั้น พงศ์พิทัยเลื่อนสายตาลงด้านล่าง ก่อนจะเบือนหน้าหนี ทำไมเขาต้องไปมองนมยัยเด็กนี่ด้วยนะ
“เปล่าอะไร ก็เห็นว่าเธอแอบเข้ามาในห้องตอนฉันนอนหลับอยู่ คิดจะทำมิดีมิร้ายฉันหรือไง”
“ห๊ะ! หนูนี่นะคิดจะทำไม่ดีร้ายคุณ หนูแค่จะมาตามคุณไปรับประทานอาหารค่ะ”
“ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ”
“ค่ะ”
“อร่อยไหม”
“ต้องลองชิมดูค่ะ”
คนตอบมองมือหนาที่กดทับลงมาหา พงศ์พิทัยมองตามแต่เขายังไม่ยอมปล่อยคนใต้ร่าง
