บทที่ 6 เสนอหน้า (4)
บทที่ 6
เสนอหน้า (4)
“ฮื่อ ฉบาย” เสียงเล็กตอบก่อนจะทิ้งตัวนอนขดกับที่นอนปิ๊กนิกดังเดิม
พระแพงพลอยโล่งใจที่ลูกไม่ได้ตื่นถาวร เวลาดึกดื่นแบบนี้ควรเป็นเวลานอนมากกว่าทำอย่างอื่นสำหรับเด็กอายุสี่ขวบ
ภาพและเสียงเหล่านั้นอยู่ในความสนใจของศตวรรษทั้งหมด เขาทอดสายตามองด้วยความเรียบนิ่ง ภายในหัวก็ขบคิดไปต่าง ๆ นานาซึ่งแฝงซ่อนความระอาเห็นใจต่อคนทั้งสอง
คุณแม่วัยใสรู้ตัวว่ากำลังถูกมอง เธอให้ทุกความสนใจกับลูก กระทั่งแรงสั่นครืดจากโทรศัพท์ที่เกิดขึ้นพลันทำให้เธอหยิบมันมารับสาย พูดคุยสนทนาได้ไม่กี่วินาทีความลนลานร้อนใจก็ปรากฏ
“ป้าจ๊ะ หนูฝากป้าดูลูกหนูให้ทีนะ เดี๋ยวหนูมา” ร่างเล็กหันไปฝากฝังกับป้าแผงผักข้าง ๆ หมุนซ้ายหันขวาทำตัวไม่ถูกก่อนจะสับเท้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนตัวสูง ฉายชัดความอ้อนวอนอยู่ในที “อันนี้เงินค่าผักนะคะ ถ้าเสร็จแล้วรบกวนคุณเอาบิลไว้กับป้าคนนี้ทีนะ ฉันมีธุระ”
เธอเดินมาบอกกับศตวรรษด้วยน้ำเสียงเร่งระดับ แถมยังควักเงินสดค่าผักยัดใส่มือของเขาโดยไม่ทันได้นับก่อนด้วยซ้ำ
คนถูกฝากฝังคนที่สองถึงกับงงงวย ยืนแน่นิ่งขาแข็งอยู่ครึ่งนาทีก็เพิ่งได้สติก้มมองธนบัตรในมือสลับกับการเชยใบหน้าขึ้นมองแผ่นหลังบางที่จ้ำอ้าวเดินออกไปนอกตลาด
ความใส่ใจเรื่องคนอื่นกลับตีตื้นขึ้นมาแทนที่ บุรุษหน้านิ่งเปลี่ยนฉับไปเป็นชาวบ้านหนึ่งทันที ขาสองข้างก้าวตรงปรี่ไปยังจุดที่เธอเดินออกไป แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่วายบอกกับคนงานว่าถ้าขนผักลงครบแล้วให้รออยู่ตรงนั้นก่อน
ร่างสูงใหญ่ก้าวตามหญิงสาวไปแต่ยังคงเว้นระยะมากพอสมควร จากท่าทางของเธอแล้วคงน่าจะเป็นเรื่องสำคัญ และสัญชาตญาณที่บวกกับความสงสัยในตัวเธอที่มีอยู่ทุนเดิมย่อมทำให้เขาเกิดอคติบางอย่างขึ้น
หญิงสาวหันมองซ้ายขวาเหมือนกับดูว่ามีใครตามมาหรือไม่ จากนั้นก็เดินเข้าไปในตรอกซอยแคบ ๆ ที่มองเห็นไกล ๆ ว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนรออยู่ ศตวรรษรีบหาที่ซ่อนกำบัง แฝงตัวเป็นจิ้งจกตุ๊กแกเกาะข้างฝา อาศัยความมืดและเสาไฟอำพรางเอาตัวเข้าไปสอดแทรกหวังได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน
“ไม่มีใครตามมาใช่ไหมแพง”
ทว่าจังหวะที่กำลังหาที่ซ่อนดวงตาที่เพ่งมองใบหน้าของผู้ชายในเงามืดกลับเป็นต้องชะงัก
ดวงตาคมวาววับสะท้อนเป็นเปลวเพลิงอันลุกโชน รูปร่างแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ เขาจำได้ทันทีว่ามันเป็นคนคนเดียวกับคนที่ตั้งใจจะฆ่าเขาในค่ำคืนนั้น!
“ไม่มีใครตามหรอกน่า แล้วพี่มีอะไรเนี่ย ทำไมต้องเรียกมาด้วย แพงทำงานอยู่นะ” เธอตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยังหันหลังมองรอบด้านอีกครั้งให้มั่นใจว่าที่ตรงนี้มีแค่เธอและผู้ชายตรงหน้าสองคน
ศตวรรษแค่นยิ้มสมเพช แค่ภาพที่เห็นตอนนี้เขาก็มั่นใจได้แล้วว่ายายแม่ค้ายำหรือน้องแพงที่ใครเขาเรียกกันเป็นคนในคืนนั้นจริง ๆ
เธอกำลังสนทนาอยู่กับไอ้บาร์เทนเดอร์ที่ลวงเขาไปฆ่า ท่าทางสนิทสนมไม่เหมือนคนเพิ่งรู้จัก และเนื้อหาใจความที่พูดกันนั้นก็ยิ่งกระจ่างชัดว่าเขาคิดไม่ผิด
“พี่จะไม่อยู่หลายวัน ต้องไปทำงานให้นาย แกเอาเงินนี่ไปนะ” เงินปึกใหญ่ถูกยัดใส่มือของพระแพงพร้อมกับกระชับให้เธอกำมันไว้
เธอก้มมองของในมือด้วยความตกใจ เงินมากมายขนาดนี้เธอต้องทำงานหลายเดือนกว่าจะได้มัน แล้วพี่ชายเธอหามันมาจากไหนกัน
“เงินอะไร พี่ไปเอาเงินมาจากไหน!”
“มันคือเงินที่พี่ทำงานมาได้ แกรับไปเถอะ แล้วแกก็ไปลาออกจากงานให้หมดเลยนะแพง ลาออกทั้งหมดเลย”
“อะไรของพี่!” นอกจากจำนวนเงินหลายหมื่นที่ยัดใส่มือแล้วก็คือคำพูดของอีกฝ่ายที่ทำให้เธอตกใจ
เห็นทีว่าการถูกเรียกมาคุยคงไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาแล้ว สีหน้าท่าทางเหมือนกับคนกำลังหลบหนีอะไรสักอย่าง และลางสังหรณ์ร้องเตือนว่าหายนะกำลังมาเยือนในอีกไม่ช้า
“ไปลาออกให้หมดเลย อาทิตย์หน้าพี่จะพาย้ายไปอยู่ที่อื่น เราต้องหนี!”
เป็นจริงดั่งความคิด พระแพงนิ่งงันกับสิ่งที่รับรู้เหมือนถูกไม้ฟาดกลางศีรษะ
“หนีงั้นเหรอ...”
“พี่จะทำงานให้นายพี่เป็นครั้งสุดท้าย แล้วพี่ก็จะหนี พี่อยากเริ่มต้นใหม่ พี่ไม่อยากให้แพงกับลูกต้องเป็นอันตรายไปด้วย”
“พี่รุตพูดอะไร แพงไม่เข้าใจ” เธอไม่เข้าใจว่าเธอและหลานชายจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไร
“งานที่พี่ทำมันเลิกทำไม่ได้หรอกนะแพง แต่พี่ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะพอ พี่ถึงต้องหนีไง เราต้องหนีแล้วแพง ไม่งั้นนายพี่สั่งเก็บแน่!”
“!!!”
“พี่ต้องไปแล้ว” ความตกใจไม่ทันจางหายตัวการของต้นเหตุก็รีบผลุนผลันวิ่งออกไปเสียแล้ว
พระแพงคว้าจับอากาศ ตั้งใจจะพูดคุยให้รู้เรื่องแต่สมองก็สั่งการช้าไป เธอกำลังสับสนมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น จินตนาการนึกคิดไม่ออกเลยว่าความเลวร้ายจะเกิดขึ้นในรูปแบบใดกับชีวิต
แล้วถ้าหากเธอไม่หนีล่ะ...
ความวิตกกังวลก่อเกิดอยู่กับตัวหญิงสาวอยู่นานหลายนาที ผิดกันกับคนอีกฟากที่แสยะยิ้มเมื่อได้รับข่าวสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อแผนการที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า
ศตวรรษแค่นหัวเราะและสาวเท้าเดินออกมาพลางพูดพร่ำกับตัวเองเบา ๆ
“ผัวทิ้งห่าไร ข่าวมั่วสัส แล้วก็ยังจะได้ไปอยู่ในซังเตซะด้วย!” เขานึกถึงคำพูดของคนงานที่กล่าวขานนินทาหาว่าเธอถูกสามีทิ้งให้เลี้ยงดูคนเดียว
นี่ไงผัวตัวเป็น ๆ แถมยังเป็นคนที่เคยจะฆ่าเขาให้ตายอีกต่างหาก
หนีงั้นเหรอ...ยังไงก็หนีไม่พ้น!
