บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

‘อะไรก็ตามที่เป็นของเขา เธอไม่นึกอยากครอบครองอีกแล้วในวันนี้ ทางเดินระหว่างเธอกับเขาให้มันกลายเป็นเส้นขนานไปเลยน่าจะดีกว่า’ หญิงสาวคิดก่อนตัดสินใจหมุนตัวเดินหนีเขาเป็นครั้งที่สอง หากแต่ครั้งนี้เขากลับกระชากต้นแขนของเธอเอาไว้อย่างแรง

“แต่พี่ให้ ข้าวต้องรับ แล้วอย่าให้เห็นว่าทำตัวแบบนี้อีก พ่อเรารู้เข้าคงเสียใจแย่ ที่ลูกสาวคนโปรดของท่านทำตัวเหลวแหลกแบบนี้” แม้จะรู้ว่าถ้อยคำที่พูดออกมานั้นรุนแรงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายโกรธ แต่รณพีร์ก็เลือกที่จะพูดมันออกมา

หากตั้งใจฟังให้ดีโดยไม่อคติ เธอจะรู้โดยที่เขาไม่ต้องอธิบายว่าความหมายของทุกคำที่พูดนั้นล้วนเต็มไปด้วยความห่วงใยทั้งสิ้น

“พี่พี!”

“พี่พูดอะไรผิด เป็นสาวเป็นนางแท้ ๆ เที่ยวกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน ไม่มีผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนเขาทำกันหรอก” คำต่อว่านั้นรุนแรงมากพอที่จะทำให้ขวัญข้าวรู้สึกโกรธไม่น้อยเมื่อได้ยิน เขามีสิทธิ์อะไรมาว่า ในเมื่อนี่มันชีวิตเธอ

คนที่ครั้งหนึ่งเคยทิ้งกันไปอย่างเลือดเย็น คนใจร้ายอย่างเขาจะไปรู้อะไร เขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะพาตัวเองกับทุกคนมาถึงวันนี้ได้ เขาไม่รู้ และคงไม่มาสนใจ เพราะสำหรับเขาเธอก็แค่คนน่ารำคาญคนหนึ่งเท่านั้น

“ก็เพราะว่าข้าวไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีไงคะ แต่ถึงยังไงก็ขอบคุณนะคะที่เตือนสติ ไว้ข้าวจะลองคิดดู” หญิงสาวทิ้งท้ายไว้แต่เพียงเท่านั้นก่อนจะพาตัวเองเดินหนีเข้าบ้านไป ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองกัน เหลือทิ้งไว้แต่รณพีร์ที่ได้แต่มองอีกฝ่ายจนหายลับสายตาไป

เมื่อคนปากร้ายไม่ได้ตามมาหาเรื่องกันอย่างที่นึกกลัวขวัญข้าวจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอเกือบจะเดินเข้าห้องของตัวเองไปแล้วหากไม่ติดว่านึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ บางอย่างที่คิดว่าน้องสาวคงไม่ได้ใส่ใจที่จะทำสักเท่าไร ทั้ง ๆ ที่ก็เป็นแค่เรื่องง่าย ๆ เท่านั้น

“ยาค่ะแม่” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามายังห้องนอนของมารดาที่เปิดไฟเอาไว้พร้อมกับยาแก้โรคหัวใจ โรคร้ายที่ท่านเป็นอยู่

“เอาวางไว้ก่อนเถอะ มานั่งนี่ก่อนมา แม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยหน่อย” เพราะไม่บ่อยนักที่มารดาจะมีเรื่องคุยด้วย หญิงสาวจึงรีบวางมือจากทุกสิ่งก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ท่าน รู้สึกหวั่นใจไม่น้อยถึงเรื่องที่ท่านจะพูด

“ข้าวรู้ใช่ไหมว่าสถานะทางการเงินที่บ้านเราตอนนี้ติดลบ ยัยขวัญเองก็เรียนไม่จบสักที” เมื่อแม่เลือกที่จะพูดตรง ๆ ด้วยเธอจึงพยักหน้ารับ เธอรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในบ้าน และก็รู้ด้วยว่าท่านแอบไปยืมเงินคนบ้านฝั่งตรงข้ามมาให้น้องสาวหลายแสนเพื่อซื้อรถขับไปเรียน แต่ถึงจะรู้เธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะคัดค้าน เพราะสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่าเสียงของเธอคงดังไปไม่ถึง

“มีอะไรที่ข้าวพอจะช่วยได้บ้างไหมคะ แม่บอกข้าวได้เลยนะคะ” สัญชาตญาณบอกให้รู้ว่าแม่มีบางอย่างในใจ รู้ได้จากสีหน้าของท่านที่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความกังวล ซึ่งเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เพราะรายรับกับรายจ่ายภายในบ้านนั้นนับวันก็ยิ่งสวนทางกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนบางเดือนเธอต้องแบกหน้าไปยืมเงินเพื่อน ๆ เพื่อมาหมุนจ่ายค่าต่าง ๆ ภายในบ้าน นานเข้าก็ไม่ค่อยมีใครกล้าให้หยิบยืม

“จำพ่อเลี้ยงสามารถได้ไหม” เมื่อเธอพยักหน้าแม่จึงพูดต่อ

“เขามาสู่ขอข้าวกับแม่” แต่มันเป็นประโยคที่ทำให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง

“สะ…สู่ขอเหรอคะ”

“แม่ยังไม่ได้ตอบอะไรเขาไปหรอกนะ ยังไงก็ต้องมาถามเราก่อน” ใช่ว่านางจะไม่รู้ว่าหัวใจของลูกนั้นอยู่ที่ใคร แต่ตอนนี้บ้านกำลังจะถูกยึด เพราะนางเที่ยวไปหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้านมาปรนเปรอให้กับลูกสาวคนเล็กตลอดหลายปีที่ผ่านมา กว่าจะรู้ว่าทำอะไรลงไปก็สายเกินจะแก้ไข เห็นจะมีแค่ทางออกเดียวเท่านั้นในตอนนี้นั่นคือขายลูกกิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel