บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ตอนที่ 4

"ณกร...ออกรถ" เขาหันไปสั่งการน้องชายบุญธรรม ก่อนจะขยับตัวนั่งข้างๆ ร่างเล็กในชุดเจ้าสาวที่ขัดตาขัดใจเขาเหลือประมาณ เหมือนมันจะเป็นเครื่องตอกย้ำในสิ่งที่โมรียากระทำ ซ้ำเติมบาดแผลที่หล่อนทรยศให้แสบร้อนไม่มีวันเลือนหาย

"เพราะอะไร...ก็เราคุยกันแล้ว..."

"หึ..." ช่างไม่มีอะไรสั่นสะเทือนความหน้าไม่อายต่อผู้หญิงคนนี้ได้จริงๆ 'คุยกันแล้ว' หล่อนเรียกว่าการโทร.ไปหาเขาและบอกว่ากำลังจะแต่งงานกับผู้ชายอีกคนที่หอบกลับมาจากต่างประเทศคือการคุยกัน

และถือเป็นการสิ้นสุด...

ทั้งที่เขารอคอย มีความหวัง วาดฝันอนาคตร่วมกันกับหล่อนตลอดสองปีที่คบกันตอนอยู่เมืองไทย สี่ปีที่หล่อนไปเรียนต่อ เฝ้าถนอมประหนึ่งหล่อนเป็นส่วนหนึ่งของก้อนเนื้อหัวใจ แต่ทุกอย่างกลับจมหายถูกทำลายย่อยยับเพียงแค่การโทร.มาบอกลาง่ายๆ ด้วยคำพูดไม่กี่คำ แม้แต่หน้า...ก็ยังไม่ได้เห็นในวันที่ฝันร้ายมาเยือน

"เพราะเธอ...ควรได้รับบทเรียนบ้างโมรียา เธอไม่มีสิทธิ์ให้ความหวังใครโดยการหลอกลวงทำร้าย แล้วทิ้งทุกอย่างที่พังทลายหมดแล้วไปเสพสุขกับชีวิตที่สวยหรู กับ...ไอ้ผู้ชายคนนั้น"

"แล้วพี่มีสิทธิ์อะไรจับตัวลี่มา!!! พี่ควรเคารพการตัดสินใจของคนอื่นบ้างไม่ใช่หรือไง ลี่คิดว่าพี่จะเข้าใจอะไรง่ายๆ กว่านี้เสียอีก" หล่อนคิดง่ายๆ ตอบโต้เขาด้วยความขุ่นใจในขณะที่รถออกตัวแล่นไปตามท้องถนนอีกครั้ง โมรียาทอดสายตามองผ่านหน้าต่างรถพร้อมสำรวจสถานที่ ว่ามันคุ้นหูคุ้นตาบ้างหรือเปล่า มีทางไหนที่หล่อนจะเอาตัวรอดไปจากตรงนี้ได้บ้าง

มือเล็กขยับ...จนรู้สึกได้ว่าผ้าที่ผูกข้อมือไว้เริ่มหลวม

"พี่ภูมิ...ปล่อยลี่ไปเถอะค่ะ ลี่สัญญาว่าเราจะต้องมีทางออกในเรื่องนี้" หญิงสาวพร่ำในขณะที่คู่สนทนานั่งกอดอกนิ่ง หน้าขรึมมองไปด้านหน้าไม่ได้สนใจหล่อน

"ลี่...ยังรักพี่ภูมิอยู่นะคะ แต่ที่ต้องแต่งงานก็เพราะ...ถูกบังคับเท่านั้น..." ดวงตากลมเหลือบสังเกตความวูบไหวในสีหน้านั้น แล้วหล่อนก็แอบยิ้มอยู่ในใจ ภูมิศิลาก็คือภูมิศิลา ต่อให้เขาร้ายยังไงหล่อนก็รู้ดีกว่าใคร ถึงจุดอ่อนจุดตายของเขา

"พี่ภูมิลักพาตัวลี่มาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ลี่จะได้ไม่ต้องฝืนใจแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักไม่ชอบ เราจะได้กลับมาทำความเข้าใจกัน..."

คำปราศรัยนั้นยังไม่อาจเรียกความน่าเชื่อถือให้เจ้าของชื่อเท่าไหร่ ในขณะที่พลขับซึ่งได้ยินเหมือนกันถึงกับยิ้มมุมปาก นึกหวั่นใจในตัวพี่ชายแต่ก็ทำได้คอยมองดูเหตุการณ์ต่อไป

โมรียา...ผู้หญิงคนนี้ร้ายใช่เล่นจริงๆ บอกรักผู้ชายที่หล่อนตัดทิ้งไม่ไยดีได้หน้าตาเฉย ในขณะที่ยังใส่ชุดวิวาห์เพื่อเข้าพิธีกับผู้ชายอีกคน

"อุ๊ย! เจ็บ" ร่างเล็กทรุดเอนลงไปตามความยาวของเบาะที่นั่ง ด้วยใบหน้านิ่วบิดเบี้ยว แสดงถึงความไม่ปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับหล่อน

"น้องลี่...เกิดอะไรขึ้น..." สัญชาตญาณและจิตสำนึกเนื้อแท้โลดแล่นออกมาด้วยความกระวนกระวายเมื่อเห็นดังนั้น ภูมิศิลารีบโน้มตัวเข้าไปประคองหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง แววตาเคียดแค้นเลือนหายหลงเหลือไว้เพียงแสงสะท้อนด้วยความห่วงหาอาลัยจับจิต

"น้องลี่เจ็บมือค่ะพี่ภูมิ เมื่อกี้บิดมือผิดจังหวะแล้วผ้าที่มัดมันแน่นจนพลิกมือกลับมากไม่ได้" น้ำเสียงหล่อนประหนึ่งปวดร้าวทรมานเอาหนักหนา ชายหนุ่มรีบจับต้นแขนเบาๆ เพื่อจะดูยังจุดที่เป็นต้นเหตุ แต่ทันใดนั้น...

"โอ๊ย!" มือเล็กที่เขาแตะต้องอย่างถนอมก็คลายออกจากกัน และฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้ากึ่งกกหูเขาเต็มแรง ตามด้วยสองเท้าที่ยังถูกมัดติดกันเตะถีบจนร่างใหญ่กระเด็นติดประตู

"เฮ๊ย!" ณกรทำท่าจะหยุดรถและหันไปช่วยเหลือพี่ชาย แต่แล้วก็ไม่ทันการณ์ โมรียาใช้ผ้าที่พวกเขามัดมือหล่อน ซึ่งบัดนี้แกะขาดแล้ว ตวัดคร่อมผ่านใบหน้า รัดแน่นอยู่ที่คอ

"หยุดรถเดี๋ยวนี้ เร็วสิ!!!" หล่อนสั่งการในขณะที่สายตายังแลภูมิศิลาซึ่งกำลังพยุงตัวลุก หล่อนมีเวลาเพียงไม่กี่วิในการหนีไปจากรถนรกคันนี้

ณกรหยุดรถกะทันหันจนทั้งเขาและโมรียาหัวคะมำไปด้านหน้า เขาทำไม่ใช่เพราะกลัวฤทธิ์เดชของโมรียาหรอก หากกลัวจะเกิดอุบัติเหตุต่างหาก ถนนสายนี้ในช่วงกลางคืนจะมีแต่รถบรรทุกขนาดใหญ่ขับผ่านด้วยความเร็วสูง เกิดไปชนกับคันอื่นเข้า เรื่องราวจะยิ่งบานปลาย

"นังตัวแสบ..." ภูมิศิลากุมท้ายทอยกระแทกกับประตูรถอย่างจัง ในตอนที่หล่อนออกแรงถีบ ร่างใหญ่ถลาเข้าหา ในขณะที่หล่อนกำลังจะเปิดประตูรถอีกด้านเพื่อ 'หนี'

"กรี๊ด! ปล่อยนะ" หญิงสาวหวีดร้องเสียงแหลมเมื่อถูกจับบ่าทั้งสองข้างและกระชากดึงเข้าไปในรถอีกครั้ง ทั้งๆ ที่หล่อนเกือบจะหนีรอดอยู่รำไร ขอเพียงออกไปนอกตัวรถได้ ก็ไม่ยากเลยที่จะขอความช่วยเหลือจากรถคันอื่นๆ ซึ่งแล่นผ่านไปมาพลุกพล่าน อย่างน้อยก็ต้องมีคนเห็น อาจจะไม่ได้เข้ามาช่วยแต่ก็ส่งข่าวนี้ถึงตำรวจก็เป็นได้ ดีกว่าอยู่เฉยรอรับชะตากรรม

แต่บัดนี้...ทุกอย่างก็จบลงแล้ว ร่างของหล่อนแหงนหลังล้มลงบนเบาะหลังอันเดิม ที่เดิม และด้วยน้ำมือคนๆ เดิม...

"มารยาสารเลว...ฉันไม่ควรคิดไปถึงว่าคนอย่างเธอจะมีจิตสำนึกหลงเหลือเหมือนมนุษย์ทั่วๆ ไปเลยโมรียา!!" ภูมิศิลากัดฟันกรอด เข่นเขี้ยวอยากขย้ำร่างเล็กนี้ให้แหลกสลายคามือ ให้สมกับสิ่งที่หล่อนกระทำต่อเขาครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่เคยนึกหวนถึงช่วงเวลาเก่าๆ ที่เคยมีร่วมกัน

หรือเพราะโมรียา ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรด้วยมาตั้งแต่แรกแล้ว หล่อนเพียงหลอกใช้เขา เห็นเขาเป็นเครื่องมือ เมื่อหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง

แต่ใจเขาสิ เจ็บแล้วไม่รู้จักจำ ยังนึกหวังเอาอะไรกับผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้อีก หล่อนไม่เหลือความภาคภูมิใจอะไรไว้ถึงมือเขาอีกแล้ว นอกจากการสั่งสอนให้รู้ถึงก้นบึ้งความเจ็บปวดเสียบ้าง ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ควรได้รับอะไรอีกเลย

"พวกพี่สิเลว!! ทำอะไรเลวๆ แบบนี้กับลี่ได้ไง อื้อ!!!" มือเล็กถูกรับมัดไว้เช่นเดิมอย่างง่ายดาย ชุดเจ้าสาวเกาะอกหลุดร่นจนเนินอูมโผล่โชว์หรา ดีที่มันยังมีบราสิลิโคลนกระชับเอาไว้ ภูมิศิลารีบตะปบและดึงเกาะอกประดับเพชรขึ้นมาปิด ก่อนจะคว้าเอาผ้าดำอีกผืนจากกระเป๋าหลังเบาะนั่งมาคาดรัดปากของหล่อนเอาไว้

คราวนี้มัดแน่น...มัดให้สาแก่ใจ

"หึ...ฤทธิ์มากนัก ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอลอยชายทำอะไรตามใจเหมือนก่อนได้อีกโมรียา เตรียมตัวเตรียมใจไว้เถอะ"

"อื้อ!!!" โมรียายังไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆ หล่อนดิ้นตาลีตาเหลือกไม่ยอมสงบท่าเดียว จนภูมิศิลาต้องผลักให้ลงไปนอนหงายและจับขาผูกรัดไว้กับเบาะ เพื่อไม่ให้หล่อนใช้เท้าเตะถีบเขาได้อีก กระนั้นหล่อนก็ยังมิวายดิ้นเร่าๆ อยู่กับที่ ส่งเสียงเล็ดลอดผ่านผ้าที่มัดปากเอาไว้เป็นระยะ มีความพยายามไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเอาเสียเลย

จนชายหนุ่มเกิดความรำคาญ ผนวกกับรอยร้าวในบาดแผลที่สดใหม่มันก่อตัว ทำให้เขาไม่คิดอยากยับยั้งชั่งใจใดๆ อีกแล้ว นอกเสียจากทำทุกอย่างให้หญิงสาวที่นอนดิ้นพรวดๆ เจ็บร้าวทรมานเท่าเทียมกัน

"อื้อ!!" ร่างเล็กชะงักงัน ดวงตาแดงก่ำเบิกโพลงอย่างไม่คิดเชื่ออย่างในสิ่งที่เห็น ภูมิศิลาใช้มือตะปบเข้าที่ลำคอและกดบีบตามแรงฤทธิ์ของเขา สีหน้าที่เคยยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเสมอ บัดนี้ถมึงทึงดุดันน่ากลัว ผนวกกับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปราวโจรห้าร้อยมันยิ่งส่งเสริมให้ชายหนุ่มดูร้ายกาจและน่าขลาดกลัวมากยิ่งขึ้น

"คิดว่าฉันไม่กล้าใช่ไหม...ถึงไม่ยอมฟัง หึ...อะไรๆ มันเปลี่ยนไปแล้วโมรียา เหมือนกับความมักง่ายของเธอนั่นแหละ!"

"อื้อ!!!" เขาออกแรงขึ้นอีกจนหล่อนดิ้นกระเสือกกระสนทั้งที่ถูกพันธนาการเอาไว้ รับรู้ถึงความเจ็บปวดและห้วงลมหายใจที่ขาดหายเหลือน้อยลงทุกทีๆ

"เฮ้ยภูมิ! พอเถอะ เดี๋ยวก็ตายกันพอดี ฉันไม่ได้มาช่วยนายฆ่าคนนะโว้ย!" ณกรเห็นท่าไม่ดีเมื่อเหลียวหลังมาแลพบว่าร่างเล็กในชุดเจ้าชาวดิ้นตาเลือกตาถลน ใกล้สิ้นใจคามือพี่ชายบุญธรรมในไม่ช้า จึงรีบออกปากห้าม ซึ่งก็ได้ผล ภูมิศิลาสะบัดมือออก ทางด้านหญิงสาวนั้นถึงกับสำลักไอแค่กๆ น้ำตานองหน้า

หล่อนปรายตามองเขาที่ถอยห่างออกไปเล็กน้อยด้วยความไม่อยากเชื่อ

"จำใส่หัวไว้โมรียา..." เขาชี้หน้า ท่าทางเอาจริงเอาจัง

"คำสั่งฉันคือประกาศิต ฉันสั่ง...เธอต้องทำ!! ถ้าไม่ทำฉันจะหักแขนหักขา จับแก้ผ้าถ่วงน้ำซะ!!!" แล้วร่างใหญ่ก็ผลุนผลันพาแทรกตัวไปกับร่องเบาะด้านหน้าเพื่อไปนั่งข้างคนขับเหมือนเดิม ด้วยกลัวใจตัวเองหากอยู่ใกล้จะอดไม่

ไหว พาลจะเสียแผน เพราะจำเลยมาตายกลางทางเสียก่อนจะได้รับบทเรียนอันสาสม เท่าที่หล่อนควรจะได้รับ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel