ตอนที่ 7 มีคนอื่นหรือ?
มีคนอื่นหรือ?
สายตาคมจ้องมองคนในอ้อมกอดอย่างพิจารณา มือหนาเลื่อนขึ้นมาปัดปอยผมที่ปิดหน้าออกให้เธออย่างอ่อนโยน เพราะเกรงว่าจะรบกวนการนอนของเธอ พลอยจะทำให้เธอตื่นไปด้วย
นานสองนานที่ชนาวิชญ์จ้องมองเธออยู่แบบนั้น ไม่ยอมปลุก ถึงแม้ว่าจะปวดแขนมากแค่ไหนก็ตามแต่ และเวลานี้ก็เริ่มจะสายแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมปลุกเธอ เพราะอยากจะมองใบหน้านี้ไปนาน ๆ
“เอ่อ ผมต้องรีบไปแล้ว วันนี้มีเรียนเช้า แล้วต้องไปเอารถอยู่ที่ผับด้วย” เมื่อเห็นว่าเธอลืมตาขึ้น ชนาวิชญ์รีบเอ่ยบอกอย่างร้อนรนทันที
“ตื่นนานแล้วเหรอ เดี๋ยวฉันไปส่ง นายรีบอาบน้ำเถอะ ฉันจะไปอาบอีกห้องอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันนะ ฉันจะรีบทำเวลาให้” ปาณิศารีบลุกขึ้น แล้วจัดแจงบอกเขาเอาไว้ ก่อนที่เธอจะรีบลุกออกไปจากห้องนี้ไปโดยทันที โดยที่ไม่รอฟังคำแก้ตัวอะไรจากเขาเลย
“เดี๋ยวสิ พี่ปลา” เขาจะเรียกเธอไว้ก็ไม่ทันเสียแล้ว แต่ดีที่กระเป๋าสะพายของเขาที่พกติดตัวตลอด จะเอาชุดนักศึกษาสำรองเอาไว้ตลอด จึงต้องยอมทำตามที่เธอบอกอย่างไม่อาจที่จะปฏิเสธได้
“หอมแท้น้อ กลิ่นผู้สาวกรุงเทพนี้” (หอมจังเลย กลิ่นสาวกรุงเทพฯนี้) เขาเพ้อขึ้นมาอีกครั้งเป็นภาษาบ้านเกิด เมื่อก้มลงดมที่เสื้อของตนเอง ที่มีหญิงสาวนอนกอดมาตลอดทั้งคืน ใบหน้าผุดยิ้มขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ
ถึงแม้ว่ากลิ่นตัวของเขาจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ติดอยู่บ้าง แต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่คละคลุ้งไปทั้งห้องก็ทำให้เขารู้สึกดีมากแล้ว แถมยังได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่มด้วยตลอดทั้งคืนอีก
ปาณิศาขับรถมาเข้าส่งชนาวิชญ์ที่มหาวิทยาลัยก่อน แถมยังขับมาจอดบริเวณหน้าตึกคณะอีก แต่ยังไม่ได้พาเขาไปเอารถที่สถานบันเทิง เพราะตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอต้องไปทำงานแล้ว จึงเตลิดมาทางนี้ก่อน เรื่องรถของเขาค่อยว่ากันตอนเย็นอีกที
“เอาโทรศัพท์นายมาหน่อย” เธอยื่นมือไปตรงหน้าของเขาทันที เมื่อรถจอดที่หน้าตึกคณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ชนาวิชญ์ยื่นโทรศัพท์มือถือของตน ให้แก่เธอโดยไม่ได้ลังเลอะไร และก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปด้วย ว่าเธอจะเอาไปทำอะไร เพราะมือถือเครื่องเก่า ๆ ของเขาไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย
เธอรับมาแล้ว ก็ทำการกดเบอร์ติดต่อ และแลกคอนแทคตามช่องโซเชียลต่าง ๆ ของเธอลงไปในโทรศัพท์มือถือของเขา ก่อนที่จะส่งให้เขาคืน
“เลิกเรียนแล้วก็โทรมา ฉันจะมารับไปดูงานที่กอง” เธอเอ่ยสั่งเขาขึ้นมาทันที ที่เขารับโทรศัพท์คืนเก็บลงกระเป๋า
“..” ชนาวิชญ์ไม่มีคำพูดใดโต้ต้อบเธอ เพราะไม่คิดว่าเธอจะจริงจังถึงขนาดนี้ เขาก็แค่รับปากส่ง ๆ เธอไปเท่านั้นเอง
“ห้ามปฏิเสธ เมื่อคืนนายตกลงแล้ว คิดที่จะเปลี่ยนคำพูดเหรอไง” เธอดุเขาออกมาทันที เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีที่ท่าว่าจะทำตามที่รับปากเอาไว้
“เปล่า”
“ถ้านายเปลี่ยนคำพูด ฉันจะลงไปป่าวประกาศเลย ว่าเมื่อคืนนายทำอะไรฉันบ้าง” เธอขู่เขาออกมา พร้อมกับกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ
“นี่พี่จะบ้าหรือเปล่า พี่เป็นผู้หญิงนะตัวเองก็เป็นฝ่ายเสียหายด้วย” แต่เขากลับห้ามเอาไว้ เพราะกลัวว่าเธอจะทำจริง ๆ
เขาไม่กลัวข่าวฉาวอะไรทั้งสิ้น เพราะเขาเป็นผู้ชายไม่มีอะไรที่เสียหายอยู่แล้ว แต่เธอนี่สิ แถมยังเป็นลูกสาวของคุณที่เคยมีพระคุณกับเขาอีกด้วย
“ฉันไม่สนหรอก” เธอพูดขึ้นมาหน้าตาเฉย เพราะเธอไม่คิดที่จะทำจริง ๆ อยู่แล้ว เพียงแค่ต้องการที่จะขู่เขาไปเท่านั้น
“มัดมือชกกันชัด ๆ” ชนาวิชญ์บ่นออกมา ก่อนที่จะรีบเปิดประตูออกลงจากรถไปทันที เพราะทุกสายตาเริ่มมองมาเยอะแล้ว
“เฮ้ย ไอ้วิชญ์ ใครมาส่งวะรถหรูเชียว” เสียงทุ้มของเพื่อนแซวออกมาทันที เมื่อเห็นว่าชนาวิชญ์ลงมาจากรถหรู แถมไม่คุ้นตาเอาเสียเลย
วรากร เพื่อนที่สนิทด้วยที่สุดที่คบกันมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปีแรก ซึ่งเป็นหนุ่มต่างจังหวัดเหมือนกัน ที่เข้ามาศึกษาต่อที่นี่ แต่ชายหนุ่มคนนี้มีฐานะกว่าเขามาก จึงไม่ต้องลำบากทำงานพิเศษระหว่างเรียน เพราะครอบครัวมีฐานะ
“มึงจะมาสอบปากคำอะไรกู ก็ว่ามาเถอะไอ้กร” เขาพูดขึ้นมาทันที เพราะรู้ทันกันอยู่แล้วว่าเพื่อนต้องการสื่ออะไร
“จริงหรือวะ ที่มึงกับดาวคณะคบกัน คนเขาลือกันทั่วเลย” วรากรถามเข้าประเด็นขึ้นมาทันที เพราะตั้งแต่ที่ย่างก้าวเข้ามาในเขตตึกคณะ ก็ได้ยินเสียงซุบซิบกันถึงเพื่อนเขาแล้ว
“จริง แล้วก็จบกันแล้วด้วย” เขาตอบออกไปตามตรง โดยไม่คิดที่จะปิดบังอยู่แล้ว เพราะตอนแรกที่ตัดสินใจคบกันกับรุ่นพี่ดาวคณะ เขาก็ไม่คิดที่จะปิดบังใคร เพียงแค่ไม่ได้เปิดเผยเท่านั้น
“ทำไมวะ เธอสวยมากเลยนะ” เพื่อนอีกคนถามด้วยความสงสัย เพราะหญิงสาวดาวคณะ ต่างเป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ทั้งมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว
ศุภวัฒน์ หนุ่มเจ้าถิ่น รูปหล่อพ่อรวยมีธุรกิจหมื่นล้าน แต่กลับเลือกมาศึกษาคณะนิเทศฯแทน เพราะอยากจะใช้หน้าตาให้เกิดประโยชน์ก็เท่านั้นเอง
“กู...มีคนอื่น” ชนาวิชญ์ไม่รู้ว่าจะตอบเพื่อนไปเช่นไรดี ว่าตัวเองถูกคนรักสวมเขามาตลอด จึงสมอ้างกับเพื่อนว่าเขาเป็นฝ่ายหักหลังเธอเสียเอง
“ไอ้เหี้ย! วิชญ์ ได้ของดีเสือกไม่รู้จักรักษา นี่มึงกลายเป็นคนไม่รู้จักพอตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” วรากรต่อว่าออกมาทันที เมื่อยอมรับออกมาแบบนี้
“กูแค่เบื่อ” เขาพูดออกไป เพื่อให้เพื่อนเข้าใจในตัวของเขาไปแบบนั้น เพื่ออยากตัดปัญหา ขืนเขาบอกว่าถูกเธอสวมเขา มีหวังพวกเพื่อนได้สอบหาเรื่องราวอีกยาวแน่ ๆ
“แล้วคนที่ขับรถมาส่งเมื่อกี้ อย่าบอกนะว่า คน ๆ นั้นที่มาส่งมึง คือคน...” ศุภวัฒน์ถามขึ้นมา เพื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ที่มีรถหรูมาส่งถึงหน้าตึก
“อื้มมม รู้แล้วก็ช่วยหุบปากด้วยผู้หญิงเขาเสียหาย ไปเรียนกันได้แล้ว” เขาจำใจยอมรับเพื่อที่จะตัดปัญหาให้จบ ๆ ไป ก่อนที่จะชวนกันเดินขึ้นตึกไป
“แล้วเมื่อคืนไปค้างที่ไหนมา กูไปหามึงที่ห้องก็ไม่เจอรถ แถมไม่มีคนอยู่ด้วย อย่าบอกนะว่าค้างห้องสาว” วรากรถามขึ้นมาบ้าง เพราะตั้งใจจะไปหาเขาจริง ๆ แต่ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะเจ้าของห้องไม่กลับมา
“มึงจะเสียงดังทำไมวะ ผู้หญิงเขาเสียหายนะเว้ย” เขาได้แต่ปรามเพื่อเอาไว้ เมื่อเพื่อนทั้งสองเริ่มที่จะซักไซ้ถามความยาว
“บอกได้หรือเปล่าว่าเธอเป็นใคร” ศุภวัฒน์กระซิบถาม
“ไม่บอก”
