นักเขียน
หานยวี่
658.0K
จำนวนคำ
5
นิยาย

นิยาย

สามีปีจอ + (น้อง) ขิงก็รา (พี่) ข่าก็แรง

162·หานยวี่

สามีปีจอ “คุณเกิดปีหมาใช่ไหมคะ?” “เธอรู้ได้ไง?” อชิระถามถึงจะงงกับการเปลี่ยนประเด็นสนทนาอย่างกะทันหัน “ปากแบบนี้ ไม่ต้องสืบก็รู้ค่ะ” อัยย์ญาดาตอบแล้วยิ้มอย่างชอบใจ การหมั้นหมายระหว่างทายาทมาเฟียและคุณหนูตระกูลเจ้าของกิจการ ------ (น้อง) ขิงก็รา (พี่) ข่าก็แรง เพราะการยื่นคำขาดของคุณปู่ ‘นันทิณี’ คุณหนูตัวร้ายจอมเอาแต่ใจ จึงยอมกลั้นใจหอบกระเป๋าให้คนไปส่งที่ไร่ไอดินกลิ่นน้ำค้างเพื่อปกป้องคอลเลกชันแบรนด์เนมของตนทั้งที่ตัวเธอเกลียดไร่เกลียดนาและชนบทเป็นนักเป็นหนา ไม่เข้าใจที่คุณปู่บอกว่าตัวเธอต้องเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนนิสัยเลย เธอนิสัยดี แถมสวยและมีเงิน ไม่เห็นมีอะไรต้องปรับสักนิด!

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

ทางใครทางมัน! เราหย่ากันแล้ว! [สามบุพเพสกุลซือ]

146.0K·หานยวี่

สีหน้าแบบนั้นหลังจากเห็นหนังสือหย่าที่ข้ายื่นให้คืออะไร? ในเมื่อตลอดสามปีท่านเป็นคนเรียกร้องอยากได้มันมากไม่ใช่หรือ ข้าก็ลงนามให้แล้ว ท่านและคนอื่นๆ ในจวน ควรจะจุดพลุดีใจสิ ที่นางมารน่าชังมากแผนการร้ายกาจผู้นี้ จะไปจากชีวิตจวนสกุลซือเสียทีสีหน้าแบบนั้นคือไม่เชื่อใจ? คิดว่าข้าจะวางแผน? คิดว่ามีอะไรเข้าสิงข้า? คิดว่าข้าสมองกลับจนฟั่นเฟือน?ไม่มีใครคิดว่าข้าสำนึกผิดคิดได้บ้างเลยหรือเหอะๆ ในสายตาทุกคนข้าดูเลวร้ายมากสินะ ข้าจะพูดชัดๆ อีกรอบเลยนะ ข้าก็คือข้า ข้าที่เป็นเจ้าของร่าง ไม่มีใครทะลุมิติมาสิงร่างข้าทั้งนั้น!ข้ารู้ว่าส่วนนึงเป็นเพราะความผิดพลาดในอดีตที่ข้าเคยทำ.. ข้าจึงพยายามแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความดีในตัวและความจริงใจของข้า แต่ก็หาได้มีใครเปิดใจมองข้าในมุมใหม่ไม่ ซ้ำยังยัดเยียดเรื่องร้ายๆ ที่ข้าไม่เคยทำให้ด้วย เช่นนั้น..พอกันที!!'เซียวหลินหลิง' คนนี้ขอยอมแพ้ เหนื่อยก็พัก ถ้าเขาไม่รักก็พอ! หนังสือหย่านี่ข้ามอบให้ท่าน แม้ใจของข้าจะรักและเทิดทูนท่านมาก แต่ข้าขอไปจากชีวิตท่านดีกว่าข้าจะต้องทนเจ็บไปมากกว่านี้ดีกว่า เมื่อเวลาสามปีได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าใจของท่านแข็งยิ่งกว่าหิน (คนอื่นด้วย) //พูดถึงก็เกลียดหัวใจของตนเองนัก เอาเถอะ! อย่างน้อยข้าก็ภูมิใจที่ยังไม่เคยร่วมเข้าหอกับท่านลาก่อน..ขอให้มีความสุขกับอิสรภาพที่ข้ามอบให้นะเจ้าคะ :)--------ทำไมกัน?! ซือหยวนซา..เพียงแค่ชีวิตของสตรีตัวเล็กๆ คนเดียว ท่านถึงกับต้องจ้างนักฆ่ามากมายมาล้อมรถม้าข้ากลางทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้ามีชีวิตรอดกลับไปถึงจวนเก่าเลยหรือข้ารู้ท่านเกลียดข้ายิ่งกว่าอะไรดี..เกลียดจนเป็นเรื่องลือกันไปทั่วว่าข้าเป็นสุดยอดนางมารร้าย ที่ทำให้คุณชายสามผู้ที่มีจิตใจอ่อนโยนประดุจพ่อพระ และไม่ถือตัว เกิดความรู้สึกเกลียดคนได้แต่ข้ามิคิดว่าท่าน..จะเกลียดจนอยากให้ข้าหายไปจากโลก เซียวหลินหลิงที่เลือกกระทำสิ่งใดไปแล้วไม่เคยเสียใจภายหลัง แม้แต่ตอนลงนามในหนังสือหย่าพร้อมส่งมอบให้คุณชายสามก็เตรียมใจไว้แล้ว จึงไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด บัดนี้ เซียวหลินหลิงขอกลืนน้ำลายตัวเอง..หากย้อนเวลากลับไปได้ นางจะขอไม่รู้จักท่าน นางจะยอมตัดใจเสียเนิ่นๆ เพื่อให้ชีวิตของนางคงไม่ประสบเรื่องเช่นนี้.. แต่สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ เช่นนั้นขอเพียงแค่..'ลืมทุกอย่างที่เกี่ยวกับท่าน แม้แต่เรื่องที่ท่านทำไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหน เซียวหลิงหลินผู้นี้ก็จะไม่เก็บมาคิดแค้นหากนางคิดแค้น ใจของนางก็จะต้องเจ็บปวด ไม่มีเหตุผลที่นางจะต้องมานั่งเจ็บ ทั้งที่คุณชายสามยังคงใช้ชีวิตสุขสบาย.. สู้ปล่อยวางแล้วลืมๆ ไปจะดีกว่า ขอให้ท่านหายไปจากความทรงจำของนาง แลท่านกับนางจะเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่ไม่เคยมีปฎิสัมพันธ์อะไรกันทั้งแง่บวกหรือแง่ลบ..'นับจากนี้...และ..ตลอดไป............แต่คำว่าตลอดไป ไม่เคยมีอยู่จริง!

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

หอบรักมาห่มใจ แม่นางโจร [สามพี่น้องตระกูลหาน]

1.0K·หานยวี่

หากจะว่า 'เซี่ยเฟยหง' (ในอดีต) เป็นพยัคฆ์แห่งไท่ซานที่มีความสัมพันธ์กับสตรีไปทั่วแล้ว 'หานหมิงซาน' ก็คือพ่อของพยัคฆ์แห่งไท่ซานเลยล่ะ! เพียงแต่เขามิได้มีชื่อเสียงเรียงนามใดๆ เช่นน้องเขย สาวๆ เลยไม่ค่อยรู้จัก เพิ่งจะมาโด่งดังก็ตอนที่หานหลี่หลุนเข้าร่วมการช่วยต้าเทียนฮ่องเต้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ และตอนหานหมิงเทียน พี่ชายคนโตกลายเป็นพนักงานที่ได้เงินเดือนเยอะที่สุดในวังหลวง นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่เขาเข้าขากับเซี่ยเฟยหงได้เป็นอย่างดี หลังจากเห็นว่าตอนนี้น้องเขยของตนกลายเป็นคนที่อยู่ในโอวาทเมีย ส่วนพี่ใหญ่ก็มีคนเอาเมียมาให้แบบงงๆ หานหมิงซานที่ยังครองตัวเป็นโสดจึงตั้งปณิธานขึ้นมาว่า ตัวข้า หานหมิงซานจะไม่ขอมีฮูหยินเป็นตัวเป็นตนเด็ดขาด!! เพราะข้าจะไม่มีทางลงให้สตรีหน้าไหนทั้งนั้น!! ต่อไปนี้...กิน! ดื่ม! เที่ยว! (และทำงานหาเงิน) เท่านั้น!! แต่บางทีอะไรๆ มันก็ไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้... ปึก!! เสียงร่างสูงโปร่งของหานหมิงซานกระแทกพื้นหลังจากการถูกอาชาคู่ใจที่ตกใจเสียงฟ้าผ่าสะบัดตกลงมาจากหลัง สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความเจ็บปวดที่แล่นพราดไปทั่วกายและก่อนที่สติของเขาจะดับวูบลง คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเห็นอาชาคู่ใจยืนมองตนเองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสะบัดก้นวิ่งจากไป… อา... มารดามันเถอะ! ผู้ใดก็ได้บอกข้าทีว่านี่มันเป็นลูกของเฮยหยางกับไป๋หลิวจริงหรือเปล่า!? หานหมิงซานที่ได้แต่นอนนิ่งมองอาชาของตนจากไปคิดในใจ เฮยหยางนั้นเป็นอาชาคู่ใจของแม่ทัพคนเก่งเซี่ยเฟยหง ผู้เป็นน้องเขย ส่วนไป๋หลิวก็เป็นม้าป่าจิตแข็งที่ยอมลงให้หานอิงมี่ น้องสาวตัวแสบของเขาคนเดียว เฮยหยาง...ไป๋หลิว... เหตุใดลูกของพวกเจ้าถึงขี้ขลาดเช่นนี้!? --------------------------- ...ทันทีที่รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังทิ่มอยู่บนหน้าของตน หานหมิงซานก็รีบลืมตาขึ้น ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นสตรีผู้หนึ่งในเสื้อคลุมเรียบง่ายสีเขียวที่แม้จะยาวลากพื้นแต่เมื่อใส่คู่กับกางเกงขายาวทำให้ดูคล่องตัวอย่างน่าประหลาด ซึ่งรอบตัวมีบุรุษรูปร่างกำยำหน้าตาโหดเหี้ยมยืนรายล้อม กำลังใช้ไม้เขี่ยหน้าผากของเขา ส่วนตัวเองในตอนนี้ก็นอนหงายอยู่บนเตียงแข็งๆแต่ถูกมัดตรึงไว้ และที่ข้อมือทั้งสองข้างก็ยังมีเชือกมัดไว้ด้วย “เห็นไหมเล่า ข้าบอกแล้วว่าเจ้านี่ยังไม่ตาย” สตรีนางนั้นหันไปเอ่ยกับคนอื่นๆ จ…เจ้านี่ หมับ! พลันมือเรียวก็ล้วงเข้ามาที่อกเสื้อของหานหมิงซานอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะคว้าถุงเงินออกไปเปิดออกดูพร้อมกับหยิบบัตรประชาชนออกมาอ่าน “ที่แท้ก็เป็นหานหมิงซาน บุตรคนรองของตระกูลหานนี่เอง” สตรีนางนั้นกล่าวหลังจากที่ดูบัตรประชาชนของหานหมิงเทียน “แม่นาง ปล่อยข้ากลับไปเถิด!” หานหมิงซานได้ทีรีบอ้อนวอนทันที เพราะดูจากสง่าราศีแล้ว นางน่าจะเป็นหัวหน้าของคนพวกนี้และดูน่ากลัวน้อยที่สุด “หืมม…ได้อย่างไรกันล่ะ!? นานๆ ทีจะมีพวกคุณชายเหยาะแหยะหลงเข้ามา” จากนั้นนางก็พูดต่อ “เอาเป็นว่าต่อไปนี้เจ้าก็คือสัตว์เลี้ยงของข้าละกัน” “สัตว์เลี้ยงของเจ้า!? บ้าหรือเปล่า!? อยู่ๆ ข้าจะไปเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าได้อย่างไร?” หานหมิงซานโวยวายอย่างลืมตัง ไม่ทันที่ร่างบางตรงหน้าจะได้โต้ตอบอะไร ชายร่างยักษ์อีกคนก็เอ่ยขึ้นมาก่อน “นายหญิงขอรับ ดูแล้วทำประโยชน์อันใดให้พวกเรามิได้เลย มิสู้ฆ่าทิ้งไปดีหรือไม่ขอรับ!?” “อย่าฆ่าข้าเลย…” หานหมิงซานร้องขอชีวิต โธ่! เขาเพิ่งอายุยี่สิบแปดเองนะ ชีวิตนี้ยังใช้บริการสาวๆ ในหอเทียนลู่ฮัวไม่ครบทุกคนเลย!! จะให้มาตายตอนนี้ได้อย่างไรกัน? “ข้ามีประโยชน์…จริงๆ นะ ข้าทำอาหารอร่อย!” เขาโพล่งออกไป พลางคิดในใจอย่างน้อยก็อร่อยกว่าที่พี่ใหญ่ทำล่ะนะ… รายนั้นเล่นโยนทุกอย่างลงในหม้อพร้อมกัน ไร้ศิลปะในการกินสิ้นดี! “แค่นี้?” เมื่อเห็นสายตาที่อีกฝ่ายมองมา เขาก็หลับหูหลับตาโพล่งออกไปทั้งที่รู้สึกอับอายไม่น้อย “และเป็นสัตว์เลี้ยงได้! ใช่! ข้ายอมเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่นางก็ได้ เอ่อ...เป็นสัตว์เลี้ยงที่ทำอาหารได้ด้วยน่ะ!! มีประโยชน์สุดๆ ไปเลยใช่ไหม?” หมดกัน...คำปฏิญาณของข้า... “อืม...” คู่สนทนานิ่งไปสักพักแล้วออกคำสั่งกับสมุนของตน “เช่นนั้นก็แก้เชือกที่มัดมือเขาออก! แล้วให้ไปทำอาหารเสีย” “ขอรับนายหญิง!” ทำไมวันนี้ชีวิตข้าถึงได้บัดซบเช่นนี้!? หานหมิงซานคิดในใจพลางนึกคาดโทษทุกคนโดยเฉพาะสตรีนางนั้น ขณะที่เชือกในมือถูกคลายออกก่อนจะถูกพวกร่างยักษ์ลากแขนให้เดินตามไป โดยมี ‘ซือซิง’ ยืนมองตามด้วยรอยยิ้ม ชีวิตต่อจากนี้คงมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นไม่น้อย เดี๋ยวต้องหาเวลาว่างส่งข่าวไปรายงานให้พี่ชายฟังเสียแล้ว!!

นิยายจีนจบแล้ว

สมรสพระราชทานบันดาลรัก [สามพี่น้องตระกูลหาน]

10.0K·หานยวี่

วิญญาณของ ‘ขนมผิง’ สาว(เหลือ)น้อยวัยใสสามสิบสี่ ได้หลุดเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องหนึ่งที่เจ้าของแต่งทิ้งไว้เมื่อห้าปีที่แล้ว ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับจีลู่ฟาง สตรีงามผู้หนึ่งที่ต้องแต่งงานกับสามีจอมเจ้าชู้ รับอนุเข้ามาเป็นสิบ ทำให้นางเจ็บช้ำจนทนไม่ไหว ขอหย่าและใช้เล่ห์อุบายยั่วยวนบุรุษคนนั้นคนนี้ เพื่อจะได้ยืมมือกลับมาแก้แค้นสามีเก่า เป็นเรื่องที่เธออ่านแล้วรู้สึกชอบมากและอยากให้คนเขียนแต่งต่อจนจบ.. เพราะยิ่งอ่านก็ยิ่งสะใจ! ทว่าเมื่อได้มาเป็นหนูน้อยจีลู่ฟางแล้ว...จากที่เคยนึกสนุกกลับมองว่านี่เป็นพล็อตที่งี่เง่าที่สุด!! นี่นางจะต้องเล่นเป็นสตรีงี่เง่าที่ปลงใจแต่งงานตั้งแต่อายุสิบห้า จนอายุสิบเจ็ดก็ขอหย่าแล้วยั่วยวนชาวบ้านไปทั่วเพื่การแก้แค้นจนอายุยี่สิบจริงหรือ?! แถมตอนจบก็ไม่รู้จะเป็นยังไง... ไม่อะ! ไหนๆ นางนักเขียนก็เทเรื่องนี้แล้ว เรื่องราวต่อจากนี้ขอดำเนินเองละกัน!! เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ขนมผิงที่พอจะปรับตัวได้จึงวางแผนแกล้งเป็นคนขี้โรค ที่ดูซีดเซียวไร้เรี่ยวเเรงตลอดเวลา แม้ท่านพ่อท่านแม่จะให้หมอมาตรวจ นางก็ให้เงินปิดปากไปมากโขทั้งขู่จะฆ่าตัวตายอีกต่างหาก! กะว่าจะทำตัวนอนเปื่อยอยู่บนเตียง จนอายุรอดพ้นวิกฤตยี่สิบปีไปก่อน ทำให้ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นคุณชายหรืออ๋องต่างก็พากันขีดชื่อนางออกจากสมุดเล่มน้อยในดวงใจเป็นที่เรียบร้อย เกิดเป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่านางเป็นผลงานที่ผิดพลาดของสรวงสวรรค์ ด้วยเกิดมามีหน้าตาสวยงามแต่กลับต้องนอนป่วยติดเตียง มิอาจทำหน้าที่เป็นมารดาและภริยาที่ดีได้ แน่นอนว่าจีลู่ฟางปลื้มอกปลื้มใจกับข่าวลือนี้มาก อีกไม่นานชีวิตหลังจากนี้ นางจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องชีวิตที่สุดแสนจะรันทดอีกต่อไป ปีนี้นางก็สิบเก้าแล้ว!! อีกแค่ปีเดียวเท่านั้น... ทว่า...ขนมผิงหารู้ไม่ว่าพล็อตเรื่องได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยยัยนักเขียนที่มีไฟกลับมาเขียนนิยายอีกครั้ง หล่อนได้ทุบเนื้อหาของจีลู่ฟางทิ้งแล้วแทนที่ด้วยเรื่องใหม่ของตัวละครในภพเดียวกัน นั่นหมายความว่า... ตอนนี้จีลู่ฟางเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ... ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นหรอก...แต่... โชคชะตากลับเล่นตลกเมื่อเสียงลือเสียงเล่าอ้างของตัวประกอบได้ไปเข้าหูของพระเจ้าต้าเทียน ซึ่งพระองค์ก็ประสงค์จะเห็นหน้านาง จึงได้สละเวลาเสด็จออกจากวังหลวงเพื่อมาเยี่ยมด้วยความกลัวว่าจะโดนเอาไปเป็นพระสนมในวัง ขนมผิงเลยเล่นใหญ่จัดเต็ม (อ้อ...นี่ก็คือความจริงอีกอย่างที่หล่อนไม่รู้...ต้าเทียนฮ่องเต้คนนี้ก็ได้เปลี่ยนไปเช่นกัน...ด้วยฝีมือของยัยนักเขียนตัวร้าย...นอกจากจะเป็นคนสมัยใหม่ข้ามภพมาแล้ว ยังกะล่อนปลิ้นปล้อนและฉลาดเป็นกรดอีกด้วย!) ...วัชรวีร์ในร่างของต้าเทียนฮ่องเต้ทอดสายตามองร่างบางที่ตอนนี้อายุสิบเก้าหนาวที่กำลังโค้งตัวทำความเคารพอย่างเชื่องช้า เพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่านางนั้นแกล้งทำ จึงเกิดความหมั่นไส้จนนึกไปถึงใบหน้าหานหมิงเทียน ผู้ที่กวนบาทาพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่าจนถูกคาดโทษไว้ชนิดที่ว่ามีสิบหัวคงไม่พอ.. เหมาะสมกันยิ่ง!! 'หากเป็นสมัยก่อนการหลอกลวงเบื้องสูงมีโทษถึงตาย แต่ข้าขอมอบทัณฑ์อื่นให้แทนละกัน' ดังนั้น...การใช้อำนาจด้วยความรู้สึกส่วนตัวจึงเกิดขึ้น...เพราะพระองค์ก็ไม่รู้ว่ายัยจีลู่ฟางนี่ย้อนเวลามาเหมือนกัน เลยคิดว่าทั้งหมดทั้งมวลที่นางจงใจวางแผนเพราะกลัวเขาเอาไปเป็นสนม (วัชรวีร์ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้เลยคิดไปอีกทาง) "ข้าขอพระราชทานการสมรสให้แก่หานหมิงเทียนและจีลู่ฟาง ณ บัดนี้!! " ...ในวันแต่งงานจีลู่ฟางแกล้งทำตัวเจ็บออดๆ แอดๆ จะเป็นลมหลายครั้งหลายครา แต่สุดท้ายนางก็ถูกจับเข้าหออย่างทุลักทุเล และวินาทีที่ผ้าคลุมหน้าสีแดงถูกถอดออกนั้น... มารดามันเถิด! นี่มันบุรุษหน้าเงินที่ขโมยเงินห้าอีแปะของนางไปอย่างหน้าด้านๆ เมื่อวันก่อนนี่ โอ้พระเจ้า! เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนจริงๆ ครั้นจะกรีดร้องชี้หน้าด่าก็ไม่ได้เพราะเขาไม่ได้พบเจอนางในคราบนี้จีลู่ฟางจึงได้แต่ยิ้มหวานให้หานหมิงเทียน เจ้าของใบหน้าเรียบเฉย แต่กลับช่วยประคองนางไปทำนั่นทำนี่ ทั้งที่นั่งภาวนากับตัวเองและเตรียมใจว่าคงไม่พ้นต้องเข้าหอแล้ว ทว่า...หลังจากประคองจีลู่ฟางไปส่งที่เตียงแล้ว หานหมิงเทียนกลับเดินไปที่โต๊ะมงคลแล้ว... หยิบตำรากฎหมายที่ซ่อนไว้ในอกเสื้อขึ้นมาอ่าน!!! "....." จีลู่ฟางมองเขาอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไร เมื่ออีกฝ่ายหันมาเห็นก็เอ่ยเสียงเรียบว่า " มิต้องกลัว ข้าไม่เอาเวลาอ่านหนังสืออันมีค่าของข้ามารังแกคนป่วยเช่นเจ้าหรอก" ว...เวลาอ่านหนังสืออันมีค่า บุรุษผู้นี้แม้แต่เวลาก็ยังงก! ช้าก่อน แล้วที่พูดเมื่อครู่หมายความว่าตัวนางไม่มีค่าหรืออย่างไร?! …....... "ไม่หึงหวงข้าสักหน่อยหรือเจ้าคะ!?” ลู่ฟางถามหมิงเทียนอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง “เจ้าจะไปไหนกับใครก็เรื่องของเจ้าสิ” “แต่ข้าเป็นฮูหยินท่านนะเจ้าคะ!” “เรื่องของเจ้าสิ! หากหมดเรื่องก็ออกไปได้แล้ว ข้าจะร่างกฎหมายต่อ!” คนผู้นี้...จะบ้างานเกินไปแล้วกระมัง! ในหัวเมมโมรี่ไว้แต่คำว่างานกับเงินเหรออออ นี่เจ้าฮ่องเต้นั่นพระราชทานนางให้กับคนแบบไหนกัน!!! เอาเถอะ ไหนๆ ชีวิตเป็นโสดที่วาดฝันไว้ก็พังทลายลงไปแล้ว สามีที่ได้แต่งงานด้วยก็หน้าตาดีชนิดที่เป็นในโลกเดิมคงมีแต่สาวๆ ตามมาเกาะแกะ แม้จะงกไปหน่อยก็ตาม ทว่าเขาคนนี้นั้นเย็นชาและตายด้านกับเหล่าสตรีมาก ไม่สิกับบุรุษก็เช่นกัน... ขนมผิงจึงตั้งปณิธานไว้ว่า... หากบุรุษผู้นี้เป็นหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึก ข้านี่แหละจะทำให้เขากลับมามีหัวใจเอง!!!!!!! สามีที่น่าตาย หัวใจท่านต้องเป็นของข้า!

นิยายจีนโบราณจบแล้ว

หัวเราะทีหลังดังกว่า!!

5.0K·หานยวี่

คิดว่าแผนของพระองค์ล้ำเลิศนักใช่หรือไม่!? ทรงลำพองใจให้เต็มที่เลยเพคะ เพราะอีกไม่นานพระองค์ก็จะได้รู้ว่า... เสียงหัวเราะของพระองค์ในตอนนี้กับพวกหม่อมฉันในอนาคต อย่างไหนมันจะดังกว่ากัน "แน่ใจแล้วงั้นหรือ ถึงกล้าเอ่ยเช่นนี้ออกมา!?" คำถามนี้หม่อมฉันควรจะเป็นฝ่ายถามพระองค์มากกว่านะเพคะ “แล้วพระองค์ล่ะเพคะ แน่ใจแล้วหรือ!?” "หม่อมฉันจะทำให้เห็นเองว่าแท้จริงแล้วหมากกระดานนี้เป็นของผู้ใด!"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว