

นิยาย


บ้านไร่นี้มีรัก
“เขา” คือหนุ่มลูกครึ่งเมืองกรุงกับชาวไร่ “เธอ” คือสาวชาวกรุงผู้ต่ำต้อย เพราะธุรกิจจึงทำให้เขาได้พบเธอบ่อยครั้ง เพราะเหตุการณ์บางอย่างทำให้เธอต้องหนี หนีจากจิ้งจอกเฒ่าไปเจอสิงโตเจ้าเล่ห์อย่างเขา


มิติลี้รัก
คราวหน้าเจ้าควรตัดเล็บให้สั้นกว่านี้นะเหม่ยเหริน” เสินอี้อวดแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยเลือดซิบ ๆ ให้คนที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงได้เห็นก่อนจะสวมเสื้อคลุมปิดทับ ยิ้มขันได้ใจเมื่อได้เห็นใบหน้าแดงก่ำจนต่อคำพูด


บ้านไร่สายสวาท
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา


ลิขิตรักข้ามกาลเวลา
เขาเหลือบสายตามองแก้มบางที่อยู่ไม่ห่างจากปาก จมูกน้อย ๆ ของนางคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขาเมื่อก้าวเดิน เขาไม่คิดให้เสียเวลา ลดฝีเท้าในการเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วคิดกำไรด้วยการจูบมุมปากและหอมแก้มของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็แผ่วเบานุ่มนวล เพราะไม่อยากทำให้นางตื่นจนเสียโอกาส มือไม้ก็ลูบไล้ความนุ่มเนียนจนลื่นมือของผิวแท้ ที่มีเพียงผ้าผืนน้อยปิดกั้นไว้ “สตรีขี้เมามันไม่งาม แต่ข้าก็ชอบถ้าเป็นเจ้า” เขาพึมพำชิดริมฝีปากอวบอิ่ม ประทับจูบลงไปแนบแน่นเมื่อวางร่างของนางลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว...


สลักรักอ๋องนักรบ
อีกไม่เกินหนึ่งเดือน "รนิดา" ในวัย 31 ปีก็จะแต่งงานกับคนรักของเธอ แต่แล้วเธอก็ได้รู้ความจริงว่าเขาไม่ได้มีเธอแค่คนเดียว เขาทำผู้หญิงคนหนึ่งท้องและปฏิเสธความเป็นพ่ออย่างเห็นแก่ตัว เธอเสียใจมากจึงบอกยกเลิกการแต่งงานและจากไป เหตุการณ์นั้นนำพาเธอไปพบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างร้ายแรง มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย เรื่องราวความสนุกเริ่มต้นขึ้นแล้วค่ะ ใครอยากรู้ว่ารนิดาในร่างเฟิ่งต้าชวี่จะทำอย่างไรต่อไปเชิญติดตามอ่านได้ในเล่มค่ะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน


ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น
“เหล่ากง..” หญิงสาวยกมือปิดหน้าอก ชันเข่าขึ้นซ่อนสิ่งที่บ่งบอกความเป็นสตรี ตะแคงตัวหนีสายตาหยาดเยิ้มของเขา “สายตาของท่านทำซินเอ๋อร์ขัดเขินแทบขาดใจแล้ว” “เช่นนั้นเหล่ากงให้มองคืนบ้าง” เขาดึงนางมาสู้สายตา “ซินเอ๋อร์ไม่กล้าหรอก” นางเผลอมองไปแล้ว แม้จะเห็นความใหญ่โตของมันแค่ครึ่งลมหายใจ แต่ก็ทำให้นางตกใจจนทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว


นิยายรักข้ามกาลเวลา เจ้าสาวมังกร
“ท่านชายเหมือนคนที่ยืนอยู่บนยอดเขาเหลียงซาน ส่วนข้านั้นเหมือนน้ำค้างที่อยู่บนยอดหญ้า.. มันต่างกันเกินไป” --------------------------------- “มีอะไรที่นางมีแล้วเจ้าไม่มี” “นางเป็นคุณหนู รูปร่างหน้าตาก็งามสง่า ดูดีกว่าข้าเป็นไหนๆ” “อย่างนั้นเหรอ” คิ้วเข้มพาดเฉียงย่นเข้าหากันเล็กน้อยขณะมองหน้านาง เพ่งมองใบหน้างามที่ไม่ค่อยกล้าสู้สายตาสักเท่าไหร่ แล้วคลี่ยิ้มกว้างส่งให้เมื่อนางยอมสบตาสู้ “ทำไมข้าไม่รู้สึกแบบที่เจ้าว่าเลย” คำพูดของเขาทำให้เธอเขินจนหน้าร้อนระอุ ถ้าเอาน้ำแข็งมาวางคงละลายเป็นน้ำในพริบตา “สายตาท่านคงจะมีปัญหาอย่างหนัก” “คงจะใช่ หัวใจของข้าก็เช่นกัน” “ไปกินข้าวเถอะเจ้าค่ะ อาหารเย็นหมดแล้ว” ถ้ายังไม่เปลี่ยนเรื่องเธอคงเสียตัวให้เขาแน่


กระดังงาสีรุ้ง
"ณัฐวรา" สถาปนิกสาวสวยแม่ม่ายลูกสอง ความน่ารักของเธอถูกตาต้องใจประธานคนใหม่อย่างแรง เขารุก ๆ และรุก แล้วเธอจะหนีทำไม ในเมื่อหัวใจก็เรียกร้องต้องการ ก็เขาตรงตามสเป็กซะขนาดนั้น สูงใหญ่ บึกบึน แถมเป็นลูกครึ่งด้วยสิ คงหนีไม่พ้นเขาแน่ ๆ "เควิน" ---------------- เหตุการณ์บางอย่างทำให้ "สินี" ต้องล้มเหลวกับชีวิตคู่ เธอเริ่มมองเขาที่เคยเป็นกำลังใจและให้ความช่วยเหลือเธออยู่ตลอดเวลา จนมันพัฒนามาเป็นความรักครั้งใหม่ในระยะเวลาสั้น ๆ "นภดล" ผู้ชายที่แอบเฝ้ามอง แอบหลงรักเธอมาตลอดเวลาห้าปี ------------------------------- หญิงสาวฟุบตัวลงกับอกแกร่งอย่างเหนื่อยหอบ เพราะงัดกลยุทธ์ออกมาพิชิตใจเขาจนหมดสิ้น “เควี่คะ” เรียกเขาเสียงหอบ “ว่าไงครับฮันนี่” เขาลูบศีรษะเธอแผ่วเบา “ถูกใจกับของขวัญมั้ยคะ” เธอถามเพราะอยากรู้ว่าตัวเองทำได้ดีพอมั้ยสำหรับครั้งแรก “ถ้าบอกว่าไม่ถูกใจจะขอแก้ตัวมั้ยครับ” แล้วหัวเราะเบา ๆ เมื่อถูกค้อนใส่ “ถูกใจที่สุดเลยครับ ให้ผมบ่อย ๆ นะ ผมรับได้ทุกโอกาส ทุกเทศกาลเลยนะครับ นะครับฮันนี่” เขาอ้อนวอนขอ “ค่ะ ถ้าคุณทำตัวน่ารักกับน้ำผึ้งนะคะ” “ผมจะทำตัวน่ารัก และเป็นสามีที่ดีของคุณภรรยานะครับ” “สามีภรรยาอะไรคะ พูดแบบนี้น้ำผึ้งเขินนะ” แล้วขยับตัวจะลงไปนอนบนที่นอน แต่เขารั้งไว้ไม่ยอมปล่อย “นอนกับอกผมนี้แหละ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะหนัก เพราะตัวคุณเบาอย่างกับนุ่น” แล้วกอดเธอกระชับขึ้น “ไม่เอาค่ะ ขอน้ำผึ้งนอนบนเตียงแล้วซบอกคุณดีกว่า อุ่นดี”


น้องเมีย
ชติรสรีบควานมือไปด้านหลังเพื่อหาผ้าห่มมาคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของตนให้พ้นจากสายตาร้อนแรงสีน้ำตาลเฮเซลคู่นั้น แต่ให้ตายเถอะผ้าห่มมันหายไปไหนวะ! ชายหนุ่มกอดผ้าห่มไว้กับอก มองทรวดทรงอวบอัดที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน เธอคือผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติในสายตาของเขาจริงๆ คิดไปคิดมาความต้องการที่เพิ่งสงบลงไปก็เริ่มตื่นตัวอีกครั้ง เขารีบคลี่ผ้าห่มคลุมร่างให้เธอแล้วแต่งตัวเพราะกลัวอดใจไม่ไหว กลัวจะทำให้เธอเจ็บปวดทรมานจนเข็ดขยาด “ผมไปก่อนนะยอดรัก” เขาเกี่ยวร่างที่ตะแคงหันหลังให้ด้วยมือข้างเดียว แล้วโน้มหน้าไปกระหน่ำจูบที่เรียวปากอิ่มนั้นอย่างเสน่หา ก่อนจะออกไปจากห้องเขายังหยิบโทรศัพท์ของเธอมากดเข้าหาเบอร์ตัวเอง และอดไม่ได้ที่จะรั้งร่างบางมากอดแนบอกและดูดดื่มความหวานของเรียวปากอย่างอาลัยอาวรณ์ “อย่าลืมสัญญาของเราล่ะ” เธอเน้นย้ำเมื่อเขาจะจากไป เขามองร่างที่กอดกระชับผ้าห่มนวมเอาไว้ด้วยความรักใคร่อย่างเปิดเผย “ผมจะรักษาสัญญาอย่างเคร่งครัดถ้าคุณไม่ผิดคำสัญญา” “เราควรทำหนังสือสัญญาต่อกัน” “ไม่จำเป็น หน้าที่ของคุณคือเป็นตัวแทนของลิก้า หน้าที่ของผมคือห้ามยุ่งกับลิก้า ดังนั้นคุณและผมแค่ทำหน้าของตัวเองอย่างเคร่งครัดหนังสือสัญญาก็ไม่มีความหมาย” “ถ้าฉันรู้ว่าคุณยุ่งกับพี่สาวของฉันทั้งที่ฉันยอมคุณถึงขนาดนี้ เราได้เห็นดีกันแน่” เธอข่มขู่ “ผมไม่โง่เสียคุณไปหรอกยอดรัก คุณเด็ดกว่าเธอเป็นไหนๆ” “อย่ามาหยาบคายกับฉัน ไสหัวออกไปจากห้องฉันได้แล้ว” เธอหยิบหมอนปาใส่คนปากเปราะนัยน์ตาลามกด้วยความอับอายระคนโกรธแค้น


หญิงซ่อนร้าย ชายซ่อนรัก
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบทุกกระเบียดนิ้วอย่างเขา ทำไมต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นง่อยอย่างเธอด้วยล่ะ.. --------------- เขากอดเธอแน่น จูบหนักหน่วงขึ้น เรียกว่าแทบจะสูบเอาวิญญาณออกมา จูบจนเธอต้องเบือนหน้าหนีเพื่อสูดเอาอากาศเข้าปอด “หายใจไม่ทันเหรอ” ถามเสียงนิ่ง จ้องใบหน้านวลไม่กะพริบ “ตอบผมสิ” คะยั้นคะยอขอคำตอบเมื่อเธอเอาแต่อ้ำอึ้ง ไม่กล้าจะสบตาด้วย “..ค่ะ” ตอบอย่างขัดเขิน “มองหน้าผมให้เต็มตาแล้วค่อยตอบสิหนูเล็ก” ไม่พูดเปล่า แต่ยังเอื้อมมือไปจับปลายคาง รั้งใบหน้าเธอให้หันมามองตน.. แต่ใบหน้าเรียวแดงซ่านช่างน่ารักเหลือเกิน อดใจไม่ได้ต้องโน้มไปหาและจูบเสียอีกที หอมอีกสองฟอด “เด็กเลี้ยงแกะ!” แล้วตำหนิเสียงขรึม แววตาวาว คนถูกดุเหลือบสายตามองโต้ ทั้งเขินทั้งงง ไม่เข้าใจว่าตนกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะได้อย่างไร


เธอคือรัก
อดีตนักดนตรีรูปหล่อพ่อรวยที่ผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจเต็มตัวเพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัว สามปีที่เขามัวแต่เรียนรู้เรื่องงานที่ไม่ถนัดจนต้องปล่อยวางเรื่องความรัก ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับมัน แต่ให้ตายเถอะ! ทำไมผู้หญิงแต่ละคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกถวิลหาได้เหมือนเธอคนนั้นเลยสักคน ตอนนี้เธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่นะ เขาอยากเจอเธออีกสักครั้ง และครั้งนี้จะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือเด็ดขาด เชิญพบกับความรักของพี่โฉดผู้น่ารักกับน้องแนนผู้ใสซื่อ(จากบัญชารักจากหัวใจ)ได้ในเล่มนี้เลยค่ะ


ทาสหัวใจของนายเขื่อน
เขาคือเจ้าของฟาร์มนกกระจอกเทศที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนเธอคือหญิงสาวที่เขารับมาทำงานด้วยเพราะถูกน้องชายขอร้อง อะไรจะเกิดขึ้น? เมื่อคนที่เขาคิดว่าขี้เหร่นักหนากลายเป็นนางฟ้าเดินดินที่อยากครอบครอง


บ้านไร่สายสวาท
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา


สวาทหวาน
หยางอี้มองหญิงสาวที่เฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมมาอย่างดีตั้งแต่อายุสิบห้า ถึงตอนนี้เด็กคนนั้นกลายเป็นหญิงสาววัยยี่สิบสองที่งดงามหมดจด เป็นเจ้าของดวงตาหวานหยดที่สามารถทำให้คนถูกมองถึงกับหายใจสะท้าน แต่ทั้งหมดที่เธอเป็น เขาเท่านั้นคือเจ้าของที่แท้จริงแต่เพียงผู้เดียว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องกลายเป็นของเขาตลอดไป


บัญชารักจากหัวใจ
"ภาสกร" ไม่เคยเลือกมากเรื่องผู้หญิง ขอแค่มีใช้ระบายอารมณ์ก็พอ แต่เมื่อมาเจอกับเด็กสาวลูกครึ่งแสนสวย สดใสไร้ที่ติอย่าง "เจมีน่า" เขาจะทำอย่างไรเมื่อเธอไม่สนกับความสาวที่เสียให้เขาไป…


สลักรักอ๋องนักรบ ตอน รักสลักชัง
เมื่อชีวิตคู่ถูกทำลาย เกาหรงซานจะทำเช่นไรเพื่อให้ได้คู่ชีวิตกลับคืนมา .............................. ฉาด!! หน้าคมดุดันหันตามแรงฝ่ามือเล็กของชายา แม้จะเจ็บแต่ก็เล็กน้อยมากถ้าเทียบกับความรู้สึกทางใจ และไม่ได้โกรธนางที่กระทำอาจหาญสักนิด ฉาด!! ฝ่ามือเรียวเล็กฟาดใส่ใบหน้าคมคายของสามีอีกครั้งเต็มแรง แม้จะเจ็บปวดไปทั้งดวงใจที่ต้องกระทำต่อเขา แต่นางก็เลือกที่จะทำ ฉาด!! สามครั้งติด ๆ ที่นางฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าของเขา แล้วเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับปาดน้ำตาทิ้ง ข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีกแม้จะยากเย็นนัก “ข้าเป็นชายาที่ขาดคุณธรรม กระทำต่อสวามีผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงเกาอ๋องอย่างไร้ความยำเกรง ข้าบกพร่องพอที่จะ” “ไม่พอ เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดต่อข้า” เกาหรงซานคว้ามือที่เหวี่ยงมาอีกครั้งไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ไม่ใช่เพราะเจ็บต่อการกระทำของนาง แต่กลัวนางจะเจ็บมือมากกว่า แค่นางเจ็บใจอย่างเดียวก็มากพอแล้ว อย่าให้นางต้องเจ็บอย่างอื่นเพิ่มเพราะเขาอีกเลย


โหยตัณหา
“เป็นอะไร หน้ามืดเหรอ” เขาตีหน้าเครียดถามไถ่ เก็บซ่อนอาการขำขันด้วยความเอ็นดูเอาไว้มิดชิด เธออายจนต้องยกมือปิดหน้า ซ้ำยังบิดตัวซุกหลบกับอกแกร่งเพราะกลัวจะตก “คุๆๆๆ คุณ..คุณไคปล่อยครีมลงเถอะค่ะ” “ไม่ปล่อย” “ทำไมล่ะคะ” “ก็ไม่อยากปล่อย ตั้งแต่แต่งงานกันมาเรายังไม่เคยทำตัวเป็นสามีภรรยากันเลย ผมก็อยากอุ้มภรรยาดูบ้างไม่ได้เหรอ” “ได้ค่ะ แต่ไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้คุณไคไม่สบายอยู่นะคะ ปล่อยครีมลงก่อนดีกว่าค่ะ อุ้มของหนักมากๆ เดี๋ยวยิ่งปวดหัวนะคะ” เธอแก้ตัวบ้าบออะไรของเธอเนี่ย ทำไมยิ่งฟังยิ่งน่ารักน่าฟัด พาให้หมั่นเขี้ยวนัก


กุหลาบร้ายพ่ายรัก
เธอคือสาวสวย มาดมั่น วัย 30 ปี ที่ปากจัดสุดๆ ส่วนเขาเป็น CEO หนุ่มหล่อ มาดแมน วัย 27 ปี ที่เธอไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลย เพราะเขาคอยแต่จับผิดและชอบใช้งานเธอผิดหน้าที่อยู่บ่อยๆ ยัสซันรีบขยับกายตั้งท่าลุกขึ้นอย่างหัวเสีย วิ่งตามหญิงสาวฝีเท้าหนักที่ทำเอาเขาวูบไปชั่วขณะเพราะแรงของมัน เธอมันร้ายได้ทุกสถานที่จริงๆ ขนาดอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ยังกล้าลงมือ ถ้าทำกันขนาดนี้ก็อย่าหวังว่าจะรอดออกไปได้ง่ายๆ “กรี๊ดดดด..” สองเท้าของเธอตะกุยอยู่ในอากาศ เพราะถูกร่างที่สูงใหญ่กว่าโอบอุ้มจากข้างหลังจนตัวลอย “ปล่อยฉันนะไอ้เลว ไอ้ระยำ แกจะต้องเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้” เธอยังดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากการโอบกอด “ใครกันแน่ที่ต้องเสียใจ กล้าถีบหน้าผมก็ต้องชดใช้ให้สาสม” จมูกโด่งเป็นสันแตะที่ขมับของหญิงสาว กระซิบที่หูขณะหิ้วเธอกลับไปที่เตียงนอน เหวี่ยงเธอลงไปบนเตียงหลังใหญ่อีกครั้ง แล้วรีบโถมกายตามไปติดๆ จัดการลงโทษตามแบบที่ต้องการ


ซ่อนรัก
เขาคือซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของแดนกิมจิ ส่วนเธอเป็นแค่ไกด์สาวชาวไทยคนหนึ่ง ดวงชะตานำพาให้เขาได้พบเธอ และเกิดความประทับใจไม่รู้ลืม สามปีผ่านไปเขาได้พบเธอใหม่อีกครั้ง เขาจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเรียกร้องหาแต่เธอ


พี่เขย
เขาคือ "พี่เขย" ของเธอ เธอคือ "น้องเมีย" ของเขา เขาอยากเป็นสามีของเธอ ส่วนเธอ..จำใจต้องเป็นภรรยาของเขาเพื่อหลาน