บท 17 ได้รับความไม่เป็นธรรม
บท 17 ได้รับความไม่เป็นธรรม
“ขอโทษด้วย ลืมวันเกิดคุณไปเลย สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้า วันนี้ยังมีธุระคงไม่ไปแล้ว”
ขณะที่จักรชัยพูดก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา จัดเอกสารในมือตลอด พึงจะรู้ว่าอลินดายังยืนอยู่ข้างๆ
“ฉันรู้ว่าช่วงที่คบกัน คุณได้รับความไม่เป็นธรรมมาก ฉันจึงอยากขอโทษคุณ อย่างน้อยเราก็จะได้จากกันด้วยดี”
ยิ่งพูดมาถึงตอนท้าย เสียงของอลินดายิ่งเบาลง ดวงตาทั้งสองน้ำตาคลอเบ้า อาการน้อยใจนี้เหมือนกับว่าเขาได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างมากมาย สุดท้ายจักรชัยยังคงใจไม่แข็งพอ
จนกระทั่งอลินดาจากไปอย่างพึงพอใจ ด้านชลธิชาถูกอีกสองคนยุยงให้พูด
“จักรชัย คุณคิดดีแล้วเหรอ วันนี้เดินเข้ามาที่บริษัทก็รู้สึกผิดปกติ เธอก่อเรื่องขนาดนี้ คุณยังเชื่อเธอจริงๆเหรอ?”
ชลธิชายืนบ่นอยู่ข้างๆ จักรชัยแตะบุหรี่จากกระเป๋ากางเกงและฟังอย่างเงียบ ๆ แม้แต่ชลธิชาและคนอื่นๆก็มองออกว่าจะต้องเกิดเรื่องแน่ เขาทำไมจะมองไม่ออกนะ ก็แค่ใจไม่แข็งพอ ไม่สามารถหาเหตุผลที่เหมาะสมที่จะปฏิเสธ ยิ่งไปกว่านั้น - ผู้หญิงคนนี้คือรักแรกของเขา
เขาเป็นเพียงชายหนุ่มในวัยยี่สิบต้น ๆ แม้ว่าวันนี้จะมีประสบการณ์มากมาย แต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อครู่สภาพของอลินดาแบบนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน อาจจะอยากจากกันด้วยดีจริงๆมั้ง!
ถอนหายใจด้วยความจนใจ: “ไม่เป็นไร งานเลี้ยงเพื่อเชือดนี้ สามารถฆ่าฉันได้เหรอ ฉันก็แค่ไปดู ก็กลับมาแล้ว”
ถือเป็นจุดจบที่ไม่น่าเกลียดสำหรับรักแรกของเขา!
ชลธิชาได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็ไม่ได้เกลี้ยกล่อมเขา ดีที่ซื้อรถแล้ว เมื่อชลธิชาบอกว่าจะไปส่งเขา เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ เมื่ออีกสองคนบอกว่าจะไป จักรชัยก็ปฏิเสธ
นี้คือเรื่องวุ่นวายของเขาเอง ไม่ถึงขนาดกับจะลากคนทั้งหอพักไปอดหลับอดนอน ถึงยังไงพรุ่งนี้ก็ยังต้องทำงาน
และเขาก็รู้ด้วยว่าพวกเขากำลังคิดอะไร ไม่มีอะไรมากไปกว่าการกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ จำรัสว่าคิดจะหาเรื่องปลวกอะไร ก็ต้องหยุดไว้ก่อน มิฉะนั้นจะไม่เป็นปัญหาของเขาคนเดียวแล้ว
ชลธิชาจอดรถของเขาที่หน้าประตูเคลับเซิ่งเต๋อ ยังคงมองไปที่จักรชัยด้วยสายตาที่เป็นห่วง เกือบจะตามหลังเข้าไปด้วยแล้ว
“เอาล่ะ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันเข้าไปนั่งสักพักก็ออกมา รอสักครู่กลับไปสนุกกับเบียร์ที่ซื้อมาด้วยกัน
หลังจากพูดจบจักรชัยก็เดินเข้าไปโดยไม่หันกลับมามอง เกรงว่าชลธิชาจะทำเรื่องอื่นขึ้นมา งานเลี้ยงหรูที่ไม่เหมือนใคร พอเข้าไปภายในประดับด้วยผ้าสีดำ แกว่งไปมาต่อหน้า ถ้าจักรชัยไม่ได้เห็นน้ำทิพย์ เกรงว่าคงหลงใหลกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
เรียกพนักงานคนหนึ่งไว้ ถามถึงห้องอาหารส่วนตัวแล้วเดินไปที่ลิฟต์ เขาอาจเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง ในขณะนี้ห้องอาหารส่วนตัวขนาดใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน ทุกคนแต่งตัวดูดีกันหมด กลิ่นน้ำหอมยี่ห้อดังต่างๆพุ่งเข้าสู่โพรงจมูกของจักรชัยทันทีที่เปิดประตู
เกิดอารมณ์จนใจแล้วถูที่จมูก ยกเท้าเดินเข้าไป
“จักรชัย คุณมาสักที!”
เสียงของอลินดาดังมาจากด้านข้าง จักรชัยมองไป มองเห็นเธอนอนทาบบ่นตัวของจำรัส ทิ่มแทงสายตาของจักรชัย
“นี้คือ?” หญิงสาวผมสั้นในชุดสีดำข้างๆอลินดาเหลือบมองไปที่จักรชัย แล้วก็มองไปที่อลินดา
“แฟนเก่าเธอไง คุณไม่รู้เหรอ?”
อลินดายังไม่ทันได้พูดอะไร เพื่อนของจำรัสคนหนึ่งทนไม่ไหวเอ่ยปากออกมา
“สร้างสรรค์จริงๆ”
“เอาล่ะ พวกเราที่นี่มีกฎ งานเลี้ยงวันเกิด เข้ามาต้องให้ของขวัญก่อน ไม่รู้ว่าแฟนเก่าของอลินดาเตรียมอะไรไว้ให้
ผู้หญิงที่พูดตอนนี้ไม่เป็นที่น่ารังเกียจเหมือนเมื่อก่อน คำพูดนี้ถือว่าจะทำให้อลินดาและจักรชัยตัดขาดกัน
จักรชัยสร้อยข้อมือคริสตัลลงบนโต๊ะอย่างไม่เป็นทางการ สักพักทั้งห้องก็เงียบ
“พือ......”ไม่รู้ใครหัวเราะก่อน ทันใดนั้นทั้งห้องก็หัวเราะขึ้นมา”
“เพียงแค่คริสตัลปลอมมูลค่าไม่กี่สิบก็จะให้อลินดาของพวกเราออกไปได้!”
“ก็ยังเป็นแฟนเก่า แบบนี้ถ้าพูดออกไปก็รู้สึกไร้ค่า”
ต่างเปล่งเสียงออกมา จักรชัยขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ สร้อยข้อมือนี้ก่อนหน้านี้ตอนที่ซื้อนาฬิกาข้อมือให้ชลธิชาแถมมา เหมือนว่าจะเป็นยี่ห้อ farcoko ตอนนั้นพนักงานในร้านยังบอกว่าสร้อยข้อมือนี้หาซื้อไม่ได้ ตอนนั้นอยากให้น้ำทิพย์ ใครจะรู้ว่าจะมีงานเลี้ยงวันเกิดอลินดาพอดี ก็เลยให้เธอ กลับไปค่อยซื้ออันใหม่ให้น้ำทิพย์
คาดไม่ถึงว่าสิ่งนี้จะไม่เข้าตาคนเหล่านี้ แต่จักรชัยมองไปที่ของขวัญบนโต๊ะ ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 1,000 ไม่เห็นว่าคนชั้นสูงไปกว่ากันเลย
ประมาณว่าทุกคนรวมกันแล้วไม่แพงเท่านาฬิกาที่เขาให้ชลธิชาคนเดียว
“จักรชัย ฉันเชิญคุณมาไม่ใช่ว่าจะให้คุณมาทำให้ฉันอับอาย”
อลินดายืดหัวขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา ดูเหมือนวันนี้ที่เรียกเขามาไม่ใช่เธอ ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเด็กผู้หญิงในชุดตูสีชมพูหยิบสร้อยข้อมือบนโต๊ะ หัวเราะเยาะเป็นเวลานาน
“อุ๊ย คุณเห็นมันเขียนว่า farcoko อยู่ ยังปลอมแม้กระทั่งซื่อแบรนด์”
“ฉันว่านะ ทำไมดูคุ้นเคยจัง แม่ของฉันเคยมีเหมือนแบบนี้ทุกอย่างเลย แต่เธอบอกว่าไม่ใช่สินค้าระดับไฮเอนด์ ก็เอามาทำปลอกคอให้ชิวาวาของฉันแล้ว”
“คุณอย่าบอกว่า ปลอกคอปลอมนี้ไม่เลวนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
กลุ่มคนดึงหัวข้อไปที่สร้อยข้อมืออีกครั้งทันที ในที่สุดอลินดาก็เดินเข้าไปหยิบสิ่งของไว้อยู่ในมือ ปล่อยมือโดยไม่ได้มองมัน คริสตัลตกลงบนพื้นแตก จากนั้นจำรัสก็หยิบผ้าเช็ดปากส่งให้เธอเช็ดมือ แล้วนั่งลง
“อาหารเกือบจะพร้อมแล้ว ทุกคนรีบนั่งเถอะ”
หลังจากให้ทุกคนนั่งลง ดื่มด้วยกันแล้ว พวกเขาก็เริ่มรับประทานอาหาร มีเพียงจักรชัยเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ เพราะไม่มีเก้าอี้เหลืออยู่
“อุ๊ย ฉันคิดว่าคุณจะไปแล้วสะอีก!”
ทันใดนั้นอลินดาก็หันมามอง ดูเหมือนว่าเห็นจักรชัยยังคงยืนอยู่ มองไปที่อลินดาอย่างคาดไม่ถึง จู่ๆจักรชัยก็เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของการเลิกรา เมื่อก่อนเขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับความเป็นจริง คิดว่าไม่ว่าจะยังไง เวลาผ่านไปนานแล้วก็ยังคงมีความรู้สึกดีอยู่ จึงเชื่อคำพูดที่เธอพูดที่บริษัท
คิดไม่ถึงนี่เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอ
“รบกวนแล้ว เดิมทีฉันแค่อยากให้ของขวัญเธอแล้วก็ไป”
คำพูดนี้ดูห่างเหิน
“เดี๋ยวก่อน”
ได้ยินเสียงของอลินดา จักรชัยหยุดฝีเท้า หันหน้ามาเล็กน้อย มองดูเธอ
“ผ่านวันนี้ไป อย่าบอกกับใครๆว่าฉันเป็นแฟนเก่าของคุณ คิดให้ดีว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร”
จักรชัยหลับตา พยายามเอาน้ำที่เกินออกมากลับเข้าไป สุดท้ายก็พยักหน้า แล้วไปจากห้องนี้
