ตอนที่ 7 หมวกสีเขียว
ตอนที่ 7 หมวกสีเขียว
พนัสคิดๆแล้วก็หยิบหมวกใบหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้า ถือโอกาสตอนที่จักรชัยยังไม่มีปฏิกิริยาก็ใส่ไว้บนหัวของเขาทันที
หมวกสีเขียว!
ก็ทำถึงขนาดนี้แล้ว ถ้ายังไม่รู้ว่าพวกเขาอยากจะพูดอะไร จักรชัยแค่กลัวว่าต้องกลับไปนอนที่โรงพยาบาลให้เต็มที่แล้วจริงๆ
“ผมกับอลินดาเลิกกันเรียบร้อยแล้ว!”
น้ำเสียงเรียบเฉย ฟังไม่ออกถึงความเสียใจสักนิด เหมือนกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา
ท่าทางของเขาทำให้ทั้งสามคนตกตะลึงไปหมด เงียบไปพักหนึ่ง ชลธิชามีปฏิกิริยาก่อนใคร มืออ้วนๆวางลงบนไหล่ของเขาทันที
“พี่สี่ไม่สบายใจก็บอกพวกฉันได้ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว อัดอั้นตันใจจนไม่สบายขึ้นมา พวกเราก็ต้องเป็นคนดูแลนายอยู่ดี!”
“ใช่ นายดีกับเธอ ทุกคนต่างก็เห็นกันทั้งนั้นล่ะ แค่หมาตัวหนึ่ง นายกลัวเลยโยนทิ้งไป จู่ๆก็ทำตัวเย็นชาอย่างนี้ นายอย่าทำให้พวกฉันตกใจสิ!”
ทั้งสามคนตกใจท่าทางที่สบายๆของเขาอย่างเห็นได้ชัด ชลธิชาก็เลยโยนบุหรี่ให้มวนหนึ่ง
มีบางเรื่องที่ชลธิชาไม่ได้พูดทั้งหมด จำรัสอาศัยเงินนิดหน่อยที่ครอบครัวเขาให้ มีเวลาว่างก็ยั่วยวนสาวน้อยสักกี่คนอยู่ในห้องทำงาน นี่ก็เป็นครั้งที่ยี่สิบแล้วที่เขาทำอย่างนี้ในบริษัท
แต่ในความเป็นจริงจักรชัยเป็นดูสบายๆอย่างชัดเจน ก่อนที่จะได้พบน้ำทิพย์อาจจะยังรู้สึกเสียดาย แม้ว่าอลินดาจะหยิ่งยโสเย็นชาอยู่บ้าง แต่พื้นฐานก็ไม่เลว
แต่หลังจากที่ได้พบกับน้ำทิพย์ มีแฟนที่สวยแต่ภายนอกอย่างนั้น และอยากจะขัดขวางการทำงานอยู่ตลอด
ดังนั้น จักรชัยจึงพอจะเข้าใจ ว่าผู้ชายที่โดนบอกเลิกแล้วจะเป็นบ้าพวกนั้นเป็นเพราะยังไม่เจอคนที่ดีกว่าต่างหาก
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเขาตอนนี้มีต้นทุนที่ดีกว่าจำรัส
และ ยังโอ้อวดได้อย่างแน่นอน ยิ่งถึงขั้นทำให้สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วสังคมเลย
เพียงแต่ เขาไม่สนใจที่จะคิดเล็กคิดน้อยกับตัวตลกตัวหนึ่ง
“เรื่องนี้ถือเสียว่าเป็นเรื่องตลกที่ผ่านไปแล้วกัน กี่วันนี้ผมต้องการลาพักสักหน่อย จึงตั้งใจนำของขวัญมาให้พวกพี่โดยเฉพาะ ผมไม่อยู่กี่วันนี้ ก็ให้พวกมันอยู่เป็นเพื่อนพวกพี่นะ!”
พูดแล้วก็หยิบถุงสีดำที่ถือเข้ามาเมื่อครู่วางไว้บนโต๊ะ
ดารินสะบัดๆน้ำเนื่องจากเมื่อครู่รดน้ำต้นไม้แล้วไหลลงมาถึงมือ เดินไปที่โต๊ะ กำลังมองจักรชัยแล้วยิ้มกริ่ม
“ข้าวโพดที่บ้านสุกอีกแล้วสินะ ครั้งนี้เอามาพอกินสี่คนไหม? ไม่เอาอย่างที่พวกเรากินแล้วนายก็ดูอยู่ข้างๆแล้วนะ!”
ชลธิชาตบเข้าไปที่หัวของเขา: “ไม่ว่าเขาจะเอามาพอหรือไม่พอ ครั้งนี้นายต้องเป็นคนดูพวกเรากิน ตอนกินยังขัดขวางปากของนายไม่ได้เลย ทำไมเรื่องมากขนาดนั้น! เหมือนกับคราวที่แล้วเลย คนๆหนึ่งต้องมาใส่ใจอาหารเย็นทั้งสัปดาห์ของนาย”
พนัสเก็บหมวกสีเขียวที่เป็นเหมือนของล้ำค่าของตนเองขึ้นมา แล้วก็เดินเข้ามาอย่างดีอกดีใจ
ทั้งสามคนนั่งอยู่ข้างโต๊ะ ชลธิชามือไวดึงถุงเข้ามาก่อนใคร ก็ได้ยินดารินร้องออกมาจากตรงนั้น: “นายอย่าเอาอันใหญ่ไปคนเดียวอีกนะ ทิ้งไว้ให้พวกฉันบ้าง”
กำลังมองทั้งสามคน ในใจของจักรชัยก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ช่วงกลางวันที่ไม่สบายใจนิดหน่อยจากอลินดาก็หายไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ทุกครอบครัวล้วนแต่มีปัญหากันทั้งนั้น จริงๆแล้วครอบครัวของพวกเขาทั้งสามคนต่างก็ไม่ได้มีเงินมากมาย มิเช่นนั้นก็คงไม่มาอยู่ที่บริษัทเล็กๆกับเขาอย่างนี้หรอก
โดยเฉพาะหลังจากที่เขาคบกับแฟนคนนั้น ถึงจะทำให้ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมขนาดไหน แม้ว่าพวกเขาพี่น้องที่สนิทจะไม่ยินดีที่เขาเป็นอย่างนี้ แต่กลับไม่เคยปล่อยให้เขาไม่มีข้าวกินมาก่อนเลย
ตั้งแต่ตอนนั้น จักรชัยก็สาบานเลยว่า ถ้ามีวันหนึ่งที่เขามีหน้ามีตา อย่าพูดว่าผู้หญิงที่ไหนก็ได้ ถึงเป็นดาราที่อยู่ในโทรทัศน์เขาก็จะพามาให้พวกเขาให้ได้
“เห้ย!”
ชลธิชาแผดเสียงร้องลั่นออกมา เอาของที่อยู่ในมือโยนออกไปอย่างกะทันหัน แล้วก็ตกลงบนมือของจักรชัยพอดี
