หนุ่มในฝัน 8/5
“ก็แม่เขาบอกว่ากูวัยขนาดนี้สมควรจะแต่งได้แล้ว ก็แต่งให้เขาไปงั้น”
ดูเป็นลูกที่ดีมาก
“เออ หม่าม๊ากูก็เหมือนกัน นัดลูกสาวเพื่อนๆเขามาให้กูไปเจอประจำ หรือว่าวัยขนาดเรามันถึงวัยต้องแต่งแล้วจริงๆวะ”
ติณห์ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มเป็นเพื่อนจิรายุส ที่ดูวันนี้มันจะเซ็งกว่าทุกครั้งที่เจอ ถ้าต้องถูกบังคับแต่งแล้วต้องเซ็งแบบนี้ สงสัยเขาต้องหาเวลาบินไปฝรั่งเศส ไปเยี่ยมศศินาเพื่อทำคะแนนบ้างแล้ว
เกิดวันดีคืนนี้หม่าม๊าบังคับให้แต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ขึ้นมาล่ะแย่เลย
“อย่าคุยเรื่องนี้เลยมึง เบื่อ มึงเป็นไงบ้างช่วงนี้มีเลี้ยงน้องๆไว้บ้างไหม”
จิรายุสที่รู้จักเพื่อนดีเอ่ยถามออกมา ติณห์ไม่ชอบเที่ยวรายครั้ง เพราะไม่ชอบมีสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนแบบเขา
เพื่อนรักของเขาคนนี้จะนิยมผูกปิ่นโตระยะสั้นทีละสามเดือนสี่เดือนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำลังเหมาะสม ไม่นานเกินไปจนผูกพัน ไม่สั้นเกินไปจนต้องมานั่งทำความรู้จักความชอบรสนิยมกันบ่อยๆ
ติณห์ไม่มีแฟนไม่มีมานานเป็นสิบปีแล้ว ไอ้นี่ถูกใจคนยาก มีความต้องการตามธรรมชาติก็หาวิธีปลดปล่อยไปตามเรื่อง
“ไม่มีเพิ่งเลิกไป”
คนที่แล้วเพิ่งครบกำหนดไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว ยังไม่ทันได้หาคนใหม่ ก็เกิดไปถูกใจศศินาเข้าเลยยังไม่ได้มองหาใคร เพราะคิดว่าอยากจะจีบศศินา แต่ตอนนี้เธอก็ไปฝรั่งเศสแล้ว
“เหรอ ของขาดไหม เอาเปล่ามึงกูมีเด็ดๆ เดี๋ยวส่งไปให้”
จิรายุสถามเพื่อนอย่างปรารถนาดี อยู่พัทยามาหลายเดือน เอเจนท์ที่มีของดีแถวนี้เขารู้จักอยู่หลายคน แต่ละเจ้าที่ส่งมาอย่างเด็ด
“ไม่เอาล่ะ มาประชุมเดี๋ยวใครเห็นเข้าไม่ดี”
เขาค่อนข้างระมัดระวังเรื่องแบบนี้ ไม่อยากให้ตัวแทนสิ้นความนับถือ จะกินต้องกินเงียบๆ
“เฮ้ยนี่โรงแรมกูนะ กูจัดการได้รับรองเงียบกริ๊บไม่มีใครสงสัย เดี๋ยวกูให้ไปรอที่ห้องเอาไหม”
ติณห์ส่ายหัวให้กับความพยายามจะยัดเยียดผู้หญิงให้เขาของเพื่อน
“ดื่มไปมึง รีบดื่มรีบไปนอน กูชักจะง่วงแล้ว”
ติณห์ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบแล้วก็คุยโน้นนี่นั่นกับเพื่อนอีกเกือบชั่วโมง ดื่มจนหมดไวน์ไปสองขวด เขามึนจนไม่รู้จะมึนยังไงแล้ว
หยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลาตอนนี้มันจวนจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว
“กลับกันมึง”
ติณห์เอ่ยปากชวนเพื่อน
“มึงไปก่อนเลย ท่าทางคืนนี้กูน่าจะยาวกว่าจะได้นอน”
ติณห์มองตามสายตาของเพื่อนก็พบว่าสาวสวยที่โต๊ะข้างๆมองตาหวานเยิ้มให้เพื่อนของเขา
ไอ้นี่มันมีให้กินไม่เคยขาด สงสารว่าที่เมียของมันจริงๆ
“เออ ๆไว้คุยกันมึง”
ติณห์คว้าโทรศัพท์แล้วเดินกลับห้อง เขาไปยืนรอลิฟต์ มือควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกงแต่หาไม่เจอ ตายห่าอยู่ไหนวะ หรือจะหล่นหายตอนที่ล้วงโทรศัพท์ออกมาดูเวลา
เขายกสายขึ้นมาโทรหาเพื่อน
“จิมึงช่วยดูให้กูทีกูทำคีย์การ์ดห้องพักหล่นแถวนั้นบ้างไหม”
บ้าจริงดื่มจนมึนไปหมดแล้ว คีย์การ์ดห้องก็เสือกทำหาย
“ไม่มีนะมึง”
ติณห์ล้วงหาตามกระเป๋าต่างๆอีกทีทั้งกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อคลุมเจ้าชาย ไม่มี ไปไหนวะ
“กูทำคีย์การ์ดหายว่ะมึง”
เมื่อหาจนทั่วแล้วไม่มี ก็คงต้องให้เพื่อนช่วย
“มึงอยู่ห้องเบอร์อะไรเดี๋ยวกูบอกให้พนักงานไปเปิดให้”
ติณห์พยายามนึก
“1916”
น่าจะเลขนี้แหละ
“โอเคเดี๋ยวกูให้เด็กไปเปิดห้องให้ เอาคนนอนกอดด้วยไหมมึง โรงแรมกูแอร์เย็นนะ”
ติณห์หัวเราะให้กับความพยายามของเพื่อน
“กูขี้ร้อน”
เสียงจิรายุสหัวเราะมาตามสาย
“เออพ่อหนุ่มฮอตมึงรอแป๊บเดียว เดี๋ยวมีคนไปเปิดห้องให้”
***
