สานสัมพันธ์ 6/4
“หืม พร้อมขนาดนั้นเลยเหรอบลู”
เจ๊พราวยิ้มอย่างเอ็นดู อาจจะดูเหมือนคนบ้าผู้ชาย แต่ถ้าบ้าแล้วขยันทำงานถือว่าเป็นแรงบวก ต้องสนับสนุน
“เจ๊ไม่รู้สะแล้ว บลูเนี่ยมันมือพรีเซนต์ ถึงจะเรียนไม่เก่งแต่เรื่องพูดเก่งนี่ไว้ใจบลูได้ บลูพูดหน้าชั้นมาตั้งแต่อนุบาลสองสบายมาก”
บุรฉัตรยืดอกบอกอย่างภาคภูมิใจ สมัยอยู่โรงเรียนเธอเป็นพิธีกรงานโรงเรียนมาแทบทุกงาน
“ดีเลยถ้าบลูมีความสามารถเจ๊จะผลักดันเอง บริษัทกำลังส่งเสริมให้ปั้นเทรนเนอร์รุ่นใหม่เป็นStar Talent ส่งเสริมหน้าใหม่ไฟแรงให้ก้าวมาเป็นเทรนเนอร์คอยสอนตัวแทนใหม่ คนที่ได้รับคัดเลือกมีเงินเดือนให้ด้วยนะ”
“ว้าวมีเงินเดือนให้ด้วยเหรอเจ๊”
ถ้ามีเงินเดือนก็เหมือนเธอมีรายได้ประจำ เยี่ยมเลย
“ใช่มีเงินเดือนให้ และยังมีโค้ดตัวแทนสามารถขายประกันได้ตามปกติด้วย เรียกได้ว่าได้รายได้สองทางเลยนะ และบลูยังจะได้เข้าสำนักงานใหญ่ทุกอาทิตย์ด้วย”
เข้าสำนักงานใหญ่ทุกอาทิตย์งั้นเหรอเธอก็จะได้เจอ ติณห์บ่อยๆน่ะสิ
“เจ๊บลูอยากทำ บลูต้องทำยังไงบ้าง”
นี่น่าจะเป็นทางให้เธอมีโอกาสที่จะได้เจอคุณติณห์บ่อยๆ
ดูสิทางที่เธอกับเขาจะได้บรรจบกันใกล้เข้ามาแล้ว บุรฉัตรยิ้มอย่างยินดี
แบบนี้เรียกว่าความรักทำให้คนดีขึ้นใช่ไหม โอ๊ยอีบลูดีใจ งานก็ดี รักก็ทำท่าจะรุ่งดวงมึงกำลังขึ้นแล้วโว้ยยยย
“หาลูกค้ามาเยอะๆจนผลงานโดดเด่น ทำความเข้าใจกับแผนประกันทุกแผนให้ได้มากที่สุด แล้วที่เหลือก็เตรียมตัว เจ๊จะผลักดันเอง”
บุรฉัตรยิ้มดีใจ ได้สิอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ ถ้ามันจะทำให้เส้นทางรักของเธอกับติณห์เป็นจริงขึ้นมาได้บ้าง
นอกจากงานขายประกันแล้วอีกงานหนึ่งที่ทางแนทตี้ช่วยหาให้คือ งานพริตตี้
เพื่อนที่อยู่ในวงการของแนทตี้แนะนำให้ทำคอมการ์ดหรือโปรไฟล์อันประกอบไปด้วยรูปถ่าย น้ำหนัก ส่วนสูง สัดส่วนของบุรฉัตรไปเสนอ เวลาที่มีงานที่น่าสนใจจะส่งให้
วันนี้ทั้งคู่เลยต้องแต่งหน้าทำผมสวมชุดสวยกว่าปกติเพื่อทำโปรไฟล์ โดยที่แนทตี้เป็นคนแต่งหน้าทำผมให้บุรฉัตรอย่างประณีต
“บลูมึงสวยว่ะ”
แนทตี้จับคางของบุรฉัตรเอียงไปมา ปกติบุรฉัตรก็สวยอยู่แล้วพอวันนี้แต่งหน้าเข้าไปยิ่งสวยกว่าเดิมอีก ตากลมโตหน้าเรียวเล็กปากกระจับได้รูปสวย จมูกงอนสวยทรงแบบสาวเกาหลี
พอแต่งออกมาโดดเด่นมาก นี่เพื่อนเธอสวยกว่าดาราเสียอีก เสียอย่างเดียวมันไม่เรียบร้อยกระโดกกระเดกไปหน่อย ถ้ามันยืนนิ่งๆฉีกยิ้มสวยๆนี่เป็นนางเอกได้เลย แต่พอพูดออกมาแต่ละทีนางร้ายชัดๆ
หรือไม่ก็ตลกหญิง
“สวยพอที่จะเป็นสะใภ้หมื่นล้านได้ไหมมึง”
บุรฉัตรรับกระจกจากเพื่อนมาดู แล้วเอียงซ้ายเอียงขวามองตัวเองอย่างพึงพอใจ นารีมีรูปเป็นทรัพย์คำนี้เคยได้ยินมานาน ความสวยประมาณนี้พอจะหาทรัพย์ได้สักหมื่นล้านไหม
“ก็พอได้อยู่นะมึง ได้ดีแล้วอย่าลืมเพื่อนล่ะ”
แนทตี้ปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต แม้เรื่องจริงจะไกลเกินฝัน แต่การได้พูดเล่นกันก็พอทำให้จิตใจกระชุ่มกระชวยแลดูชีวิตมีความหวังขึ้นมาทันที
“โอ๊ย ไม่ลืมหรอกค่ะเพื่อน รับรองถ้าอีบลูได้เป็นคุณนายพิริยะกุลคุณนายบลูคนนี้จะเอามึงไปเป็นเลขา โอเคไหมคะคุณเลขาแนทตี้”
ทั้งสองคนยกมือขึ้นมาแปะกันแล้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“มาค่ะคุณนายบลู แต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วไปเปลี่ยนชุดค่ะ เดี๋ยวเลขาแนทตี้จะถ่ายรูปให้”
แนทตี้ยื่นชุดสูทเข้ารูปให้กับบุรฉัตร เมื่อเธอสวมชุดออกมาแนทตี้ถึงกับเอ่ยปากชม
“มึงแต่งตัวแบบนี้ดูไฮโซมากเลยบลู”
ชุดนี้แนทตี้ลงทุนไปขอยืมมาจากเพื่อนที่เป็นพริตตี้เลยนะ โชคดีที่รายนั้นทำหน้าอกมาทรงโตประมาณบุรฉัตรได้ เพื่อนรักของเธอเลยใส่ชุดนี้ได้พอดี
“สวยเนอะแนทตี้ เดี๋ยวถ้ากูได้เงินค่าคอมมาจะซื้อชุดแบบนี้มาติดตู้ไว้สักสองชุดดีไหม จะได้เอาไว้ใส่ไปประชุมเผื่อได้เป็นStar Talent แบบที่เจ๊พราวบอก”
บุรฉัตรเอียงซ้ายเอียงขวามองตัวเองอย่างพึงพอใจ นี่มึงก็พอจะเป็นไฮโซกับเขาได้เหมือนกันนะบลู ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งจริงๆ แต่คงต้องหาเงินมาซื้อขนสวยๆให้กับตัวเองก่อนนะ
***
