บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 Taste of Blood

เย็นวันต่อมา

“ใส่เสื้อคอเต่าไปไหนจ๊ะ อากาศไม่หนาวขนาดนั้นจะลูก” คุณแม่ทักฉันก่อนออกบ้าน

ฉันใส่เสื้อเสว็ตเตอร์คอเต่าที่ปิดบังลำคอเอาไว้จนมิด มันเป็นเสื้อปิดคอตัวเดียวที่ฉันมี และที่ด้านในฉันก็พันผ้าพันแผลป้องกันไว้อีกชั้น เพราะบางทีถ้า

ชินจิไม่เห็นคอฉัน เขาอาจจะไม่หิวก็ได้

หลังเลิกเรียนวันนี้ฉันนัดกับชินจิไว้ว่าฉันจะลองหาอาหารอื่นให้เขากินแทนเลือดดู และฉันคิดว่าฉันน่าจะหาได้

ชินจิในชุดที่ไม่ใช่ยูนิฟอร์มนักเรียนดูดีจนผู้หญิงหลายๆ คนบนท้องถนนแอบมองเขา และที่เราอยู่ข้างถนนก็เพราะฉันนัดเขามาที่ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ขึ้นชื่อที่สุดในย่านนี้

บนโต๊ะของเรา ฉันวางทั้งเนื้อดิบและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ลงต่อหน้าเขา

“นี่นะเหรอที่เธอบอกว่าจะช่วยฉัน ?” เขามองอาหารมากมายตรงหน้าอย่างแปลกใจ

“อื้ม” ฉันพยักหน้า “ต่อให้เป็นแวมไพร์ เจออาหารอร่อยสุดยอดแบบนี้ต้องเบื่อเลือดกันบ้างล่ะน่ะ กินแต่เลือดอย่างเดียวตลอดชีวิตอมตะน่ะน่าเบื่อจะตาย”

“...”

“เหม็นด้วย คาวด้วย แหวะ นายไม่คิดอย่างนั้นมั่งเหรอ ?”

“ไม่”

เฮ้อ

“ลองดูนะ บางทีนายอาจจะชอบของพวกนี้ก็ได้ นี่ซูชิทูน่าอย่างแพงเลยนะ เห็นมั้ย เนื้อแดงน่ากิ๊นน่ากิน” ฉันขึ้นเสียงข้างท้าย และนั่นน่าจะทำให้เขาอยากกินทูน่าดิบนั่นมากล่ะน่า

“ฉันลองกินทุกอย่างในโลกนี้มาแล้ว” เขาบอก “เธอคงไม่รู้ว่าแวมไพร์อย่างฉันมีชีวิตอยู่มานานแค่ไหน”

“ก็ลองใหม่สิ คนเรารสนิยมเปลี่ยนได้เรื่อยๆ แหละ แวมไพร์ก็คงไม่ต่างกันหรอกน่า” ฉันยืนกรานกระต่ายขาเดียว แถมยังคีบอาหารใส่จานเขาไม่หยุด

น่าแปลก เขากินได้เรื่อยๆ เลยล่ะ

“เป็นไง ?” ฉันถาม

“ก็ดี” เขาตอบ “แต่ไม่ทำให้หายหิวหรอกนะ”

“เอ๋ ?”

“ว่าที่จริง แวมไพร์อย่างเราน่ะกินได้ทุกอย่าง แต่เราถูกสาปให้ต้องกินเลือดเพื่อจะรักษาชีวิตอมตะไว้เท่านั้น อาหารอื่นไม่มีวันทำให้เราอิ่มได้”

“ฟังดูเศร้าจัง” ฉันคอตก แต่ก็ยังไม่สิ้นหวัง

“แล้วนายกินเลือดสัตว์แทนได้มั้ย ? อย่างเลือดวัว เลือดไก่ หรือเลือด อืม...เลือดหมา อะไรทำนองนั้นน่ะ ?”

ขอโทษนะเจ้าหมา

“นั่นน่ะน่าขยะแขยงจะตาย”

“เค้าเรียกว่าความเสียสละต่างหาก นายไม่เคยดูหนังเรื่องทไวไลท์เหรอ ? เอ็ดเวิร์ด คัลเลนและครอบครัวคัลเลนทั้งหมดน่ะยอมเสียสละที่จะกินแต่เลือดสัตว์ทั้งๆ ที่รสชาติของมันแย่กว่าเลือดมนุษย์ แต่พวกเขาก็ทำแบบนั้นเพื่อที่มนุษย์กับแวมไพร์จะได้ไม่ต้องฆ่ากัน”

“นั่นมันแค่เรื่องแต่งเท่านั้น แวมไพร์ไม่อิ่มได้ด้วยเลือดสัตว์หรอก”

“นายเคยลองกินหรือยัง ?”

“ยัง”

ดีเลย

“ยิ้มทำไม ?” ชินจิถาม “เธอคิดจะให้ฉันลองกินเลือดสัตว์งั้นเหรอ ?”

สมเป็นชินจิ เขาฉลาดดีจัง

“ใช่”

เพราะงั้นค่ำคืนอันแสนแปลกสำหรับแวมไพร์อย่างเขาก็เลยดำเนินต่อไป

ฉันพาชินจิมาที่บ้านเช่าว่างหลังหนึ่งที่ครอบครัวของฉันมีอยู่ ซึ่งที่นี่เหมาะมากที่จะทำอะไรประหลาดพิสดารที่คุณพ่อคุณแม่และคนอื่นๆ ไม่เห็น เพราะไม่งั้นทุกคนต้องแตกตื่นและหาว่าฉันเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

ในห้องรับแขกของบ้านเช่าที่ว่างเปล่าตอนนี้มีเลือดสัตว์หลายชนิดใส่แก้วไวน์สวยๆ เอาไว้ในห้องนั่งเล่น และฉันก็จัดโต๊ะให้มันดูเหมือนดินเนอร์มื้อพิเศษที่น่ารับประทานที่สุดด้วย

“เชิญเลือกชิมทีละแก้วได้เลย” ฉันบอกราวกับเชฟที่ภูมิใจในอาหารที่ตัวเองทำ ทั้งที่ในใจฉันทั้งกลัวทั้งขยะแขยง

“เป็นอะไรไปล่ะ ?” ฉันถามชินจิที่เอาแต่นิ่งมองแก้วสูงต่ำสีเลือดมากมาย เป็นประกายและดูราวกับงานศิลปะที่งดงามเมื่ออยู่ใกล้ใบหน้าที่คมคายราวกับสลักขึ้นมาของเขา

“แค่อยากจะขอบใจน่ะ”

อา...

แล้วนิ้วเรียวยาวของชินจิก็หยิบก้านแก้วไวน์ขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเคลื่อนขอบแก้วมาที่ริมฝีปากงดงาม และจิบมัน

จากแก้วหนึ่ง แล้วก็อีกแก้วหนึ่ง เขายกแก้วคอสูงขึ้นจิบ วางมันลง แล้วยกอีกแก้วขึ้นจิบจนในที่สุดชินจิก็ลิ้มรสเลือดมาถึงแก้วสุดท้าย

“แก้วนี้ใช้ได้เลย” ชินจิพึมพำเมื่อละริมฝีปากสวยจากขอบแก้วใสใบสุดท้าย ดวงตาสีน้ำตาลประกายแดงที่ดูดำสนิทเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงเทียนบนโต๊ะของฉันดูเป็นประกายชั่วครู่

“นั่นน่ะเป็นไวน์แดงล้วนๆ” ฉันบอกด้วยรอยยิ้ม “เห็นมั้ยล่ะชินจิ ในบรรดาสิ่งสารพัดที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างขึ้นมา ต้องมีบางอย่างที่อร่อยกว่าเลือดมนุษย์แน่ๆ”

เขามองฉันและปล่อยให้ฉันพูดฝ่ายเดียว

“นายคิดว่าไง ชินจิ ?”

“แต่เลือดของเธอก็ยังหอมหวานกว่า”

โอย...สายตาแบบนั้น

“ฮ่าๆๆ ไม่เอาน่า” ฉันหัวเราะ เผื่อว่าจะคลายสายตาที่ราวกับจะตรึงฉันไว้อย่างจริงจังนั่นได้

“จริงๆ นะ”

ดวงตาที่งดงาม... .แสงเทียนที่วูบไหวร้อนแรงอยู่ในดวงตา... ให้ตายสิ อย่าจ้องมองฉันแบบนั้นได้มั้ย

“ชินจิ”

ดวงตาในแสงสลัวยังจ้องมองฉันอยู่

ไม่นะ

“นายคงไม่ได้คิดจะกินเลือดฉันใช่มั้ย นายกินบุฟเฟ่ต์ไปแล้วนะ แล้วก็ยังเลือดสัตว์พวกนั้นอีก”

“ก็อย่างที่ฉันบอก ไม่มีอะไรทำให้แวมไพร์เลิกหิวได้”

กึก...

ชินจิวางแก้วไวน์ลงอย่างแผ่วเบา ดวงตางดงามที่กำลังล้อแสงเทียนจ้องมองมาที่ฉันไม่วางตา

“นอกจากเลือดของมนุษย์” ริมฝีปากของเขากล่าวเช่นนั้น

ฉันถอยหลัง ชินจิก้าวเข้ามา ในที่สุดก็ถึงจุดที่ฉันก้าวถอยหลังต่อไปไม่ได้ เพราะเข่าด้านหลังของฉันชนเข้ากับโซฟา

“ฉันหิวมากเลย ยูกะ”

“ไม่เอาน่า การที่แวมไพร์เสพย์ติดดื่มเลือดคนมันเป็นแค่ความรู้สึกเหมือนคนติดบุหรี่นั่นล่ะ แต่ที่จริงนายอิ่มแล้ว นายไม่ต้องการเลือดของฉันหรอก”

แต่มือของชินจิเคลื่อนมาวางบนไหล่ฉันแล้ว เพื่อที่เขาจะกดให้ฉันนั่งลงกับโซฟา

“ต้องการสิ ฉันต้องการเลือดของเธอ” เขาบอกฉัน ดวงตาที่คมราวกับภาพวาดกำลังตรึงฉัน...และมันราวกับมีพลังที่กักขังฉันไม่ให้ขยับไปไหนได้

“เธอแปลกนะยูกะ ทั้งๆ ที่ผู้หญิงทั้งโลกปรารถนาที่จะให้แวมไพร์ดื่มเลือดของพวกเธอกันทั้งนั้น”

“งั้นเหรอ !? ไม่ใช่ฉันแน่ ! ไม่มีวัน...!!” ฉันส่ายหน้า

“และบางคนก็อ้อนวอนให้พวกเรามอบชีวิตอมตะให้ เพื่อจะกลายเป็นแวมไพร์เหมือนเราไปชั่วนิรันดร์”

“ไม่เอา...!”

“แต่เธอกลับไม่ต้องการแบบนั้นเลย”

ฉันส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่ ! ฉันไม่ต้องอะไรแบบนั้นซักนิด อ๊ะ”

ชินจิกดฉันลงกับโซฟาให้ร่างฉันนอนลงเต็มความยาวของลำตัว และร่างของเขาเคลื่อนมาอยู่เหนือฉันในขณะเดียวกัน เป็นอีกครั้งที่มือของชินจิล็อคมือของฉันไว้ทั้งสองข้าง

“เธอไม่รู้สึกหลงใหลในคมเขี้ยวของแวมไพร์บ้างรึไง เวลาที่มันแทรกเข้าไปในร่างเธอ ?”

“หลงใหลงั้นเหรอ ? พูดบ้าๆ ฉันว่ามันเจ็บแล้วก็น่ากลัวจะตาย !”

“มันเป็นความสวยงามต่างหากล่ะ ฉันจะทำให้เธอเข้าใจให้ได้ ไม่ว่าจะกี่ครั้ง”

“อย่านะ...ชิน...”

ชินจิฝังคมเขี้ยวลงบนต้นคอของฉันอีกครั้ง เสื้อคอสูงและผ้าพันแผลที่ลำคอของฉันถูกฉีกออกไป พร้อมกับความเจ็บแปลบที่แล่นเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งเมื่อเขาเริ่มดื่มเลือดของฉัน

แต่เพราะครั้งนี้ฉันไม่ได้ขัดขืนเขามากเท่าครั้งแรกหรือไงนะ เขาถึงไม่ได้ฝืนใจฉัน มือของชินจิไม่ได้พันธนาการฉันไว้แล้ว หากแต่แค่ขยุ้มเส้นผมของฉันไว้อย่างอ่อนโยน...ราวกับกำลังปลอบโยนฉันยังไงยังงั้น

“ชินจิ...”

“ขอโทษ...”

“...?”

“และขอบคุณนะ”

ชินจิดื่มเลือดของฉันพอแล้ว เขาผละริมฝีปากออกไป ก่อนจะเคลื่อนมือหนึ่งมาประคองใบหน้าของฉันและจ้องมองเนิ่นนาน

จากนั้นรอยยิ้มของเขาก็ทำให้ฉันหายเจ็บไปเยอะทีเดียว ดูเขาจะมีความสุขที่ได้ดื่มเลือดของฉันจริงๆ นั่นล่ะ

“ครั้งนี้ฉันไม่ได้ดื่มเลือดของเธอมากจนเธอหมดสติเหมือนสองครั้งแรกนะ ฉันสัญญาว่าจะควบคุมตัวเอง”

“ฮือ ชินจิน่ะ”

“ถึงเลือดของเธอมันจะหอมหวานเกินห้ามใจก็ตาม”

“ฉันไม่ชอบคำชมแบบนั้นซักนิด ให้ตายสิ แวมไพร์บ้า”

ชินจิยิ้มให้ฉันอีกครั้ง ก่อนจะมองหน้าฉันเนิ่นนานราวกับเขาไม่ค่อยได้มองหน้าฉันอย่างพิจารณามาก่อน “แต่ฉันอยากให้เธอรู้ไว้อย่างหนึ่งนะ”

“?”

“ฉันจะไม่ดื่มเลือดของใครอื่นทั้งนั้นนอกจากเธอ”

“ชินจิ ?”

“เธอเท่านั้น ยูกะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel