บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 Vampire and I

“อรุณสวัสดิ์” ชินจิทักฉันจากโต๊ะเรียนของเขาเมื่อฉันนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง

“...”

“ยูกะ”

ฉันตัดสินใจจะไม่พูดอะไรกับนายแล้วชินจิ ฉันโกรธนายนะ แต่ฉันกลัวมากกว่า

“โห ยูกะ ผ้าพันแผลเต็มคอเลย ไปโดนอะไรมาน่ะ” เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งถามฉัน

“...”

“คอเคล็ดเหรอ ?”

“อือ” ฉันส่งเสียงในคอ ซึ่งมันไม่ได้แปลว่าใช่หรือไม่ใช่หรอก ก็แค่บ่นๆ เท่านั้น แต่มันคงทำให้เพื่อนๆ เข้าใจว่าฉันคอเคล็ดจริงๆ และนั่นก็ดีกว่าที่ฉันจะต้องโกหกอะไรน่ะนะ

“งั้นหายเร็วๆ ล่ะ”

ฉันรู้ว่าชินจิได้ยินเสียงตอบของฉันล่ะ เพราะตอนนี้ดวงตาสีน้ำตาลอมแดงงดงามของเขามองมาที่ฉัน และถึงจะตั้งใจไม่มอง แต่ฉันพบว่าเขาดูหล่อเหลากว่าเมื่อวานเสียอีก เป็นเพราะเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์หรือเปล่านะ

แค่ได้ดื่มเลือดก็จะงดงามและเป็นอมตะ น่ากลัวจริงๆ

“ได้เวลาส่งการบ้านแล้ว ทุกคน” ฉันบอกเพื่อนทั้งห้องด้วยเสียงดัง ทำให้ทุกคนเดินมาวางสมุดการบ้านบนโต๊ะของฉัน ทุกคนยกเว้นชินจิเท่านั้น แล้วพอฉันลุกขึ้นพร้อมสมุดที่ซ้อนเต็มมือเพื่อออกจากประตูห้องไปที่ห้องพักอาจารย์ ชินจิถึงเพิ่งเอาสมุดการบ้านเดินมาซ้อนกับตั้งสมุดบนมือของฉัน

“พันผ้าที่คอขนาดนั้น กลัวฉันดื่มเลือดเธออีกรึไง” เขาพูดแทบจะเหมือนเสียงกระซิบ

ฉันพยักหน้า ฉันทำหน้าบึ้งใส่เขาด้วย แน่ล่ะฉันพันผ้าที่คอซะหนาจนเหมือนน้องๆ ของเฝือก เขาจะได้กัดฉันไม่ได้อีกไง !

“เขี้ยวแวมไพร์น่ะไม่ทำให้เจ็บขนาดนั้นหรอกนะ”

“...”

“เธอหายแล้วล่ะ”

“?”

ฉันมองตามชินจิที่เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองแล้ว ก่อนที่ฉันจะเดินเอาสมุดการบ้านออกไป แล้ววันนั้นทั้งวันฉันก็ไม่คุยกับชินจิเลย ฉันไม่สนใจว่าเขาจะเรียนทันไหม ไม่สนใจว่าเขาจะกินอะไรได้รึเปล่า ฉันแค่อยากให้เขาหายไป

แต่จริงๆ น่ะเหรอ ?

ชินจิกินอะไรไม่ได้นอกจากเลือดจริงๆ เหรอ ? หรือเขาแค่กินได้แต่ไม่อยากกิน ?

เที่ยงอีกแล้ว และชินจิไม่ไปที่โรงอาหาร ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหน

จะเป็นไรมั้ยนะ ? แต่คิดอีกที ทำไมฉันต้องเป็นห่วงเขาด้วยล่ะ แวมไพร์น่ะไม่มีวันตาย เพราะงั้นฉันควรจะห่วงตัวเองมากกว่า

เรานั่งเรียนในความเงียบ ชินจินั่งอยู่ที่โต๊ะของเขาข้างๆ ฉัน พลางจดเล็คเชอร์ด้วยลายมืองดงาม และบางครั้งเขาเหลียวมองฉัน

เขาถามฉันเรื่องเรื่อยเปื่อยบ้าง แต่ฉันก็ได้แต่มองไปที่คุณครูซึ่งกำลังเขียนกระดานโดยไม่สนใจเขาเท่านั้น ฉันงอนและผิดหวังจริงๆ ชินจิ นายทำให้ฉันกลัวแทบตาย

“คิดจะไม่พูดกับฉันอีกแล้วรึไง” เขาถาม

“...”

“ยูกะ”

ผ้าพันแผลสีขาวเคลื่อนหลุดจากลำคอของฉันเมื่อฉันดึงมันออก ผิวหนังสีขาวของฉันเรียบสนิทเมื่อดูจากกระจกเงาในห้องนอน น่าแปลกมาก ตอนนี้คอของฉันเหมือนไม่เคยถูกคมเขี้ยวใดๆ กัดมาก่อนเลย รอยเขี้ยวของชินจิหายไปแล้วจริงๆ และตอนนี้มันก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไรเลย

เป็นอย่างที่ชินจิบอกจริงๆ นั่นล่ะ แผลจากคมเขี้ยวแวมไพร์ไม่ค่อยเจ็บและเลือนหายได้อย่างรวดเร็วสินะ แต่ถึงอย่างนั้นนั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่นายจะมากัดฉัน

ชินจิน่ะ...วันนี้เขาไม่มาเรียน

โต๊ะเรียนของเขาว่างเปล่า ไม่มีกระเป๋า ไม่มีชินจิอยู่ที่นั่น คุณครูเริ่มสอนแล้ว ครึ่งเช้าผ่านไปโดยไม่มีวี่แววของชินจิ

แล้วก็เที่ยงวัน เขาไม่อยู่ในโรงอาหาร

แล้วก็ผ่านไปทั้งวัน ฉันเริ่มร้อนรนขึ้นมาบ้างเหมือนกัน

หรือชินจิจะไม่มาเรียนที่นี่อีกแล้ว ? เป็นเพราะฉันหรือเปล่านะ ? ว่าแต่เขาอยู่ที่ไหน ? และเป็นยังไงบ้าง ? แวมไพร์อย่างเขาใช้ชีวิตยังไง ? เขาจะมีอะไรกินไหม ? จะมีใครเผลอตัวถูกเขากัดเหมือนฉันหรือเปล่า ? หรือเขาจะหาเหยื่อไม่ได้เลย ?

“ยูกะ” คุณครูโมริเอะเรียกฉันเมื่อฉันเดินเข้าไปส่งการบ้านเพื่อนๆ ให้เธอที่ห้องพัก “ชินจิเป็นยังไงบ้าง ?”

ชินจิ...

“คะ ? เอ่อ...”

“วันนี้เขาไม่มาเรียนนะ ไม่รู้มีปัญหาอะไรรึเปล่า ?”

“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

“ยูกะ” คุณครูมองฉันอย่างจริงจัง “ชินจิน่ะเป็นเด็กที่น่าสงสาร พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตหมดแล้ว และเขาไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลยนะ”

ฉันเม้มริมฝีปาก ไม่มีพ่อแม่และญาติงั้นเหรอ ? คงเพราะพวกเขาแก่ตายไปหมดแล้วไงล่ะ ก็แวมไพร์น่ะเป็นอมตะไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นชินจิอาจจะมีชีวิตมาหลายร้อยปีแล้วก็ได้

“ยังไงครูก็ไว้ใจว่าหนูเป็นหัวหน้าห้อง คงจะดูแลให้ชินจิปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้นะ”

“ค่ะ...”

“ฝากด้วยล่ะ ยูกะ”

ถึงจะไม่เต็มใจ แต่ฉันก็ไปง้อชินจิให้กลับเข้าเรียนล่ะ ก็ฉันเป็นหัวหน้าห้องนี่ แล้วนักเรียนใหม่โดดเรียนตั้งแต่แรกๆ แบบนี้ฉันจะไม่ตามมาเรียนได้ยังไง

“ชินจิ กลับเข้าห้องเรียนเถอะนะ” ฉันบอกชินจิ เขาอยู่ที่หลังโรงเรียนใต้ต้นซากุระที่ไร้ดอก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองรู้ได้ยังไงว่าจะเจอเขาที่นั่น ร่างสูงงดงามน่ามองอิงแผ่นหลังกับต้นไม้ใหญ่...ดูเหงาและอ้างว้างอย่างประหลาด

แต่บางทีเขาอาจจะไม่ได้อยู่ที่สวนหลังโรงเรียนมาตลอดก็ได้ แต่เพราะเป็นแวมไพร์ ก็เลยอาจจะรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่และต้องการจะคุยกับเขา เขาก็เลยมาหา

“ตามฉันมาสิ นะ” ฉันบอก รู้สึกราวกับตัวเองเป็นผู้ใหญ่ และเขาเป็นใครคนหนึ่งที่ฉันไม่อยากคิดว่าเป็นแวมไพร์ “อย่าหายไปเฉยๆ แบบนี้เลย”

“...”

แต่ชินจิก็แค่มองฉันนิ่งๆ

“เธออยากให้ฉันกลับไปเรียนจริงๆ เหรอ ยูกะ”

“...”

“ทั้งที่เธอก็รู้ว่าแวมไพร์ที่อยู่มาเป็นร้อยๆ ปีอย่างฉันเรียนหนังสือมาหลายรอบแล้ว”

“เพราะงี้ถึงตอบคำถามคุณครูได้ทุกอย่างสินะ” ฉันฝืนยิ้ม “นายชอบที่นี่รึเปล่าล่ะ ?”

“ไม่รู้สิ”

“ฉันต้องทำยังไง” ฉันกำมือ รู้สึกหัวใจบีบแรง

“...”

“ต้องทำยังไงนายถึงจะยอมกลับไปเรียนกับฉัน”

ตึก...

ฉันหายใจสะดุดเมื่อชินจิเดินใกล้เข้ามา และแค่เขาหยุดต่อหน้าฉัน ฉันก็เกร็งไปทั้งร่าง ทว่าคำพูดของเขากลับแผ่วเบา อ่อนโยน และทำให้ร่างของฉันเลิกเกร็ง

“เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ยูกะ”

“...?”

“ต่อไปฉันจะไม่โดดเรียนแล้ว”

“...”

“ถ้าเธอต้องการ”

แล้วชินจิก็กลับเข้าเรียนจริงๆ ถึงฉันจะรู้สึกว่าเขาอิดออดเป็นบางวิชา อาจจะเพราะเขาเรียนเรื่องพวกนี้ซ้ำๆ มาหลายครั้งแล้วนั่นล่ะ แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นนักเรียนของที่นี่แล้วไม่ใช่เหรอ

“จะไปไหน ? อย่าโดดเรียนนะชินจิ !”

ฉันรั้งเขาไว้เมื่อเขาทำเหมือนจะไม่เดินตามพวกเราไปเรียนในวิชาต่อจากนี้

“วันนี้ต้องไปเก็บตัวอย่างแมลงในสวนนะ คะแนนเก็บเยอะด้วย โดดไม่ได้เด็ดขาด !”

“เฉพาะคาบนี้ไม่ได้จริงๆ เหรอ ยูกะ ฉันก็ตั้งใจเรียนมาหลายคาบแล้ว”

“สัญญาแล้วนะว่าจะไม่โดดเรียนอีก ลืมไปแล้วรึไง”

“ไม่ลืมหรอก แต่...”

“งั้นก็ไปได้แล้ว”

ในที่สุดชินจิก็ออกมาเก็บแมลงกับพวกเราทั้งชั้น แวมไพร์อย่างเขาคงคิดว่าการเก็บแมลงไปศึกษาเป็นเรื่องโง่สินะ แต่ที่จริงฉันก็อยากให้เขารู้ว่าชีวิตมนุษย์อย่างเราน่ะงดงามแค่ไหน แค่ลองดูแมลงแต่ละตัวเราก็เห็นถึงความงดงามนั่นแล้ว ถึงแม้สำหรับแวมไพร์ เราอาจจะแค่ถูกมองว่าเป็นเหยื่อที่อ่อนแอก็ตาม

“นี่ตัวอะไร” ชินจิถามถึงแมลงที่ฉันจับใส่กล่องไว้ ฉันกำลังนั่งสบายๆ อยู่บนพื้นหญ้าแท้ๆ พอแวมไพร์เข้ามาใกล้ๆ ฉันก็สะดุ้งสิ เลยรีบขยับหนีไปเป็นเมตรๆ แล้วก็ดึงปกเสื้อมาปิดคอตัวเองจนมิดด้วย

“อยู่ห่างๆ ฉันไว้ได้มั้ย” โอย ฉันเสียวจะถูกเขากัดอีกจริงๆ “ด้วงน่ะ”

แล้วฉันก็ปิดกล่องก่อนจะเอาตัวด้วงเดินหนีไปจากเขา ฉันทำเหมือนหวงตัวด้วงใช่ไหม ? แต่ที่จริงฉันเอาตัวเองออกห่างเขาเพื่อไม่ให้เขากัดฉันอีกต่างหาก

ดอกไม้ในโรงเรียนบริเวณนี้สวยเป็นพิเศษ แถมยังเต็มไปด้วยผีเสื้อ แล้วนิ้วเรียวสวยของชินจิก็กำลังสัมผัสตัวแมลงและจับมัน

แวมไพร์อย่างเขาจะสัมผัสความงามของดอกไม้และแมลงใต้แสงแดดได้มากเหมือนมนุษย์อย่างฉันไหมนะ ?

ดูๆ ไปฉันว่าชินจิน่ะน่ารักทีเดียวล่ะ เสียแต่ว่าเขาเป็นแวมไพร์เท่านั้น แวมไพร์ไม่กินเลือดไม่ได้รึไงนะ ? และถ้าว่าตามจริง ถ้าเขาไม่ใช่แวมไพร์ เขาก็น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีของฉันได้เลยไม่ใช่เหรอ

วันนี้ร้อนจัง

ว่าแต่แวมไพร์ถูกแดดตรงๆ ได้ไหมนะ ? ฉันลืมเรื่องนี้ซะสนิทเลย

วูบ....

เมื่อหันไปอีกครั้งก็พบว่าร่างของชินจิกำลังโซเซ และอีกวินาทีหนึ่งก็ล้มลง

ตุบ

แย่แล้วล่ะ !!

“ชินจิ !!!???”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel