บทที่ 9 ความลับแห่งแหวนสหศาสตรา
บทที่ 9 ความลับแห่งแหวนสหศาสตรา
ทางด้านของนพและวินที่เริ่มเบื่อกับการรอคอยกำลังเดินทางไปหาภารกิจ ที่อาคารภารกิจแต่ก็มีเสียงของระบบดังขึ้นมาจากทางสมาพันธ์ของทั้งสองต้องเรียกตัวกลับเมืองอาร์ค เพื่อทำการประชุมด่วนเรื่องของผู้ครอบครองอาวุธแห่งจักรราศี
“ตกลงว่าต้องไปใช่ไหมเนี่ย” นพกล่าวขึ้นอย่างหัวเสีย
“ก็ช่วยไม่ได้เราทั้งสองคน เป็นถึงหัวหน้าหน่วยแถมเรื่องนี่ก็ใหญ่มากด้วย” วินตอบไปอย่างเบื่อหน่ายไม่ต่างกัน
“ต้องเดินทางกลับเมืองอาร์คแบบเร่งด่วนอีกซินะ” นพพูดแบบนี้เพราะไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลยกับการประชุมครั้งนี้ เพราะหัวหน้าเป็นคนเรียกเองด้วย และเตรียมตัววิ่งไปทางเหนือ
“เอาน่าถ้าไม่อยากเดินก็ใช้วาร์ปไปที่ห้องประชุมดี เพราะหัวหน้าเรียกประชุมห้องประชุมใหญ่นี่” วินพูดเตือนสติของนพ
“จริงด้วย แกไม่พูดก็ลืมไปเลยนะเนี่ย” นพพูดจบก็หยิบบัตรที่ลักษณะไม่ต่างจากบัตร ATM เท่าไรแต่ที่บัตรมีรูปปีกสีขาวสองข้างที่เรียงตัวเป็นรูปตัววี พร้อมกับวินเองก็เอาบัตรแบบเดียวกันออกมา
“เอาไปประชุมให้มันเสร็จๆ จะได้มารอไอ้เพื่อนตัวแสบต่อ” นพพูดขึ้นพร้อมยิ้มและ พูดพร้อมกับวิน “สมาพันธ์เทพเคียงฟ้า”
ณ ห้องประชุมสมาพันธ์เทพเคียงฟ้า
“เอาละค่ะทุกคนมากันครบแล้วซินะค่ะ” เสียงหญิงสาวดังขึ้นเมื่อหัวหน้าหน่วยทั้งแปดเดินทางมาถึง เธอเงียบไปสักครู่ก่อนจะพูดต่อ “เชิญหัวหน้าสมาพันธ์ค่ะ”
“ขอบคุณนะ เรน่า (RENA)” หัวหน้าสมาพันธ์กล่าวขึ้นพร้อมกับพูดต่อไป “วันนี้ที่เรามาประชุมกันก็คงหนีไม่พ้นเรื่องผู้ครอบครองอาวุธแห่งจักรราศี”
“ทำไมหรือ เฟริน (FERIN)” ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นถามหัวหน้าสมาพันธ์ทันที่ “ใครจะครอบครองก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเราเลย”
“ใครว่าไม่เกี่ยว ไพร์ด (PRIDE) ถ้าพวกกิลร้อยรัตติกาลกับกิลดาราหมื่นราตรีได้ไปจะทำยังไง เพราะตอนนี้ข้อมูลของอาวุธแห่งจักรราศีก็ถือว่าน่ากลัวมากแล้ว” เฟรินถอนหายใจอยากอ่อนใจก่อนจะพูดต่อ “อาวุธแห่งจักรราศี เป็นอาวุธระดับ S ที่ได้รับความสามารถโดนตรงตามเทพจักรราศีที่อาวุธประจำอยู่ จากที่คิดอย่างอาวุธประจำราศีกุมภ์ คงทำให้สามารถควบคุมน้ำได้แบบสุดยอดมากๆๆ แน่”
“แบบนี้ก็เท่ากับ ไม่ว่าจะกิลไหนได้ไปก็คงจะทำให้ขั้วอำนาจของกิลทั้งสี่เปลี่ยนไปมากเลย” นพที่นั่งฟังอยู่พูดขึ้น
“มันไม่ใช้แค่นั้นนะ พลูโต เพราะหากกิลใหญ่ๆ ได้ไปจะเป็นฉนวนให้สงครามเกิดเร็วขึ้นผลเสียก็ตกอยู่กับผู้เล่นธรรมดานะซิ แล้วยังมีเปอร์เซ็นว่าผู้ครอบครอง จะเป็นผู้ที่เข้าสู่หอสมุดจักรวาลด้วย” เรน่าพูดขึ้นเพราะมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้หากไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องผลของทั้งอาวุธที่ทรงพลัง และความรู้ที่อยู่ในหอสมุดจักรวาล
“เพราะฉะนั้นการประชุมครั้งนี้ไม่มีอะไรมาก นอกจากจะให้เห็นความสำคัญของการครอบครองอาวุธแห่งจักรราศีแล้ว ก็ต้องให้หัวหน้าหน่วยทุกคนกลับไปประจำที่หน่วยของแต่ละคนแล้วออกตามหาผู้ครอบครองอาวุธให้ได้ เพื่อชะลอปัญหาที่เกิดขึ้นมา และหาความลับของหอสมุดจักรวาลนั้นด้วย” เฟรินพูดสรุปเพื่อไม่ให้การประชุมยืดเยื่อไปเพราะอาจจะทำให้พลาดโอกาสที่เจอตัวของผู้ครอบครอง พร้อมกับเรน่าส่งข้อมูลต่างๆ เท่าที่รวบรวมมาได้ให้กับหัวหน้าทุกคน
“หากไม่มีอะไรแล้วก็ขอให้ทุกคนเร่งทำหน้าที่ของตนเอง และขอให้เราสามารถหาคนนั้นให้เจอก่อนที่ปัญหาจะตกแก่ผู้เล่นทุกคน โชคดีแล้วเจอกันใหม่” เฟรินพูดขึ้นเมื่อไม่มีใครขัดความเห็นและหน้าที่ใหม่นี่ พร้อมกับเดินออกเป็นสัญญาณให้ทุกคนสลายตัวไปทำงานของตน
กลับมาที่หอสมุดจักรวาล
ตุลาบุคคลที่ตอนนี้มีแต่คนกำลังตามหากันไปทั่วดินแดนแห่ง STAR SOUL ONLINE กลับกำลังนั่งทำความเข้าใจความสามารถของแหวนสหศาสตราโดยมีซันค่อยบอกสิ่งต่างๆให้ฟัง
แหวนสหศาสตรานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอาวุธที่สมบูรณ์ของ กุญแจแห่งดารา (KEY OF UNIVERSE) เพราะกุญแจแห่งดาราจะประกอบไปด้วยสี่ส่วนหลักคือ แหวนสหศาสตรา แหวนหมื่นมนตรา แหวนร้อยอาภรณ์ และกำไรเทพดารา เมื่อทั้งสี่อยู่รวมกันจะเรียกว่าไม่มีสิ่งใดที่สามารถต้านทานความสามารถของมันได้ เพราะอาวุธที่เปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่ต้องการ เวทย์มนต์ที่ใช้ออกมานับร้อยนับพัน อาภรณ์ที่เปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมที่สุด และพลังแห่งดวงดาวที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างไม่มีข้อแม้ นี่คือคำจำกัดความที่ซันได้บอกไว้
แต่ตุลาไม่เข้าใจเป็นอย่างมากคือในเมื่อมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอาวุธจริงทำไมซันถึงได้บอกว่าเขาเป็นผู้ครอบครอง แล้วไหนจะสอนใช้งานแหวนสหศาสตราเท่าที่ฟังมาก็มีแต่เรื่องพลังที่แท้จริงของกุญแจแห่งดารา
“ซันผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงได้เป็นผู้ครอบครอง ในเมื่อมีชิ้นส่วนอีกตั้งสามที่อยู่ในโลกอย่างงั้นถ้าเกิดมีคนเจอสามชิ้นนั้นก็ได้เป็นผู้ครอบครองเหมือนกันอะดี” ตุลาถามออกไปเมื่อสรุปความสามารถของกุญแจแห่งดารา ในแบบของตนเสร็จ เพราะไม่งั้นคงได้ฟังเรื่องพลังของกุญแจแห่งดาราในแบบต่างๆอีกมากมาย
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เพราะข้ากับกุญแจแห่งดารามีความเกี่ยวข้องกันอยู่ทำให้รู้ได้ว่านอกจากเจ้าไม่มีใครครอบครองชิ้นส่วนที่เหลือ และที่สำคัญเมื่อเจ้าได้รับการสอนของข้าเสร็จเจ้าก็จะได้รับชิ้นส่วนอีกชิ้นหนึ่งด้วย” ซันตอบมาพร้อมกับหน้าตาจริงจังขึ้นในทันที่แล้วพูดเข้าเรื่องที่สอนจริง “เอาเป็นว่าเรามารู้จักความสามารถของแหวนสหศาสตราก่อนดีกว่า”
“เจ้าจะต้องจดจำบทวิงวอนเพื่อใช้ในการเปิดทำงานแหวนสหศาสตราในพลังที่ทัดเทียม กับเวลามีชิ้นส่วนครบ” ซันกล่าวต่อมาเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เพราะตั้งแต่เข้ามาที่นี่ตุลากับซันก็คุย เรื่องต่างๆ มากมายทั้งพรของเทพที่ตุลาได้รับ หรือการเปลี่ยนแปลงราศีเพื่อให้พรที่ได้รับเปลี่ยนไป
แต่ซันก็ให้คำตอบได้เพียงไม่ค่อยมีผู้ใดที่เกิดมาแล้วไม่พอใจในพรของเทพเลย ทำให้ตุลาต้องปลงกับเรื่องพรที่ได้รับแต่ซันก็ให้กำลังใจว่าความจริงพรของตุลา ทำให้ความสามารถของกุญแจแห่งดาราเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะหากแหวนสหศาสตราถูกเรียกใช้งานอาวุธแบบสุ่มจะทำให้ได้อาวุธดีไม่ดีกับสถานการณ์สลับกันซึ่งเป็นการดีในการต่อสู้ เพราะมันทำให้สามารถพัฒนาการต่อสู้ได้เป็นอย่างมากนั้นเอง และไม่ใช้แค่เรื่องนี่ยังมีเรื่องของเทพจักรราศี เทพแห่งดวงดาว และประวัติศาสตร์ต่างๆ ทำให้เวลาผ่านไปหนึ่งวัน
ข้าในนามแห่งผู้ถือครอบแหวนสหศาสตรา ขอบัญชาให้เหล่าศาสตราที่สถิทอยู่ ณ คลังแสงแห่งดวงดาว จงมาเป็นศาสตราแห่งข้าเพื่อกำจัดเหล่าศัตรูแห่งข้า
ตุลาจดจำไว้ทุกคำเพราะหากสามารถใช้งานแหวนสหศาสตราได้มากขึ้นจะทำให้เขาสามารถอยู่ในโลกเกมส์ต่อได้โดยไม่ต้องลบตัวละคร (จริงๆ ต้องบอกว่ากลัวว่าโอกาสที่ได้ใกล้ชิด ริน จะหายไปมากกว่า)
“เมื่อเจ้าวิงวอนเสร็จเจ้าจะได้อาวุธจากการสุ่มของแหวนมาหนึ่งชนิด” ซันพูดขึ้นหลังจากที่เห็นว่าตุลาไม่มีคำถามทำให้เข้าใจว่าคงจดจำได้แล้ว
“แบบนี้ก็ไม่ต่างจากที่ผ่านมานี่ ซัน” ตุลาถามเมื่อได้รู้ว่าตนแค่สามารถเรียกใช้งานของแหวนเองได้เท่านั้น
“ไม่เหมือนที่ผ่านมาหรอก เพราะหากเจ้าไม่พอใจอาวุธที่สามารถเปลี่ยนมันได้โดยพูดตามนี้” ซันพูดเงียบไปแปปหนึ่ง “สับเปลี่ยนศาสตรา” “แหวนก็จะทำการสุ่มให้เจ้าใหม่ แต่หากแหวนทำงานก่อนที่เจ้าจะได้พูดคำวิงวอน เจ้าต้องทำการกล่าวคำวิงวอนในการเปลี่ยนศาสตราครั้งแรก หลังจากนั้นก็ใช้ “สับเปลี่ยนศาสตรา” ในการเปลี่ยนศาสตรา” ซันพูดออกมาราวกับรู้ว่าตุลาจะต้องสงสัยเรื่องนี่
“ที่นี่ข้าก็ ไม่มีเรื่องที่บอกเจ้าเกี่ยวกับแหวนแล้วครับ” ซันพูดจบก็มีแสงสว่างออกมาจากตัวแล้วก็พูดออกมา “ต่อไปเป็นการทดสอบว่าเจ้าเข้าใจเรื่องที่สอนเจ้ามากแค่ไหน” เมื่อจบประโยคนี่ตัวของซันค่อยๆ กลับไปเป็นกวางแต่ที่เปลี่ยนไปคือแทนที่เป็นกวางแบบทั่วไป กลับเป็นกวางตัวใหญ่ที่มีดวงตาสีเหลืองทอง แล้วมีเกราะหุ้มบริเวณหัวและอกซึ่งเกราะก็มีสีขาวกรีบทอง ประดับด้วยอัญมณีสีอำพันขนาดใหญ่ที่หน้าผาและกลางอก แต่ที่ทำให้ตุลาคิดไม่ถึงมากที่สุดเมื่อระบบประกาศชื่อซัน
“กวางบุตรสุริยัน ระดับ 22 ชั้นบอส เปลี่ยนสู่ร่างที่แท้จริง ซันไซน์ (SUNSHINE) ระดับ 100 ชั้นเทพ ปรากฏตัวเตรียมโจมตี ผู้เล่นที่ถูกสังหารเพิ่มเวลาเกิดเป็น 1 วัน”
“ซันนี่มันอะไรเนี่ย” ตุลาถามเพราะการทดสอบของซันคืออะไร
“หากเจ้าคิดว่าการทดสอบคือการจัดการข้า เจ้าคิดผิดแล้วข้าแค่ต้องการให้เจ้าใช้แหวนสู้กับข้า และหากเจ้าสามารถที่จะทำให้ข้าแผลเจ็บได้ เจ้าก็ถือว่าผ่านการทดสอบ” ซันตอบมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
