บท
ตั้งค่า

Sorry 03

“พี่ป๋อ ไอ้นี่มันคือไรเหรอ” ฉันมองไปยังสิ่งที่พี่ป๋อช่างที่สนามกำลังเช็กอยู่ที่ฝากระโปรงรถ

”เขาเรียกว่าเทอร์โบ” พี่ป๋อหันมาบอกยิ้มๆแล้วหันไปทำงานต่อ

”อ๋ออ เคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็นสักที”

“อยากลองซ่อมดูมั้ยล่ะ” เตเดินถือท่อรถมาถาม ท่าถืออย่างกับจะมารุมตีฉันนะนั่นน่ะ

”อย่าเลย เดี๋ยวฉันหนี้จะท้วมหัวเอา แค่นี้ก็ยาจกพอแรงละ”

“แน่เหร้อออ ไม่ใช่พี่เซนยกหนี้ให้หมดแล้วเหรอ” เตทำหน้าทำตาอ้อนตีนฉันมาก

“ยกเยิกอะไร ขี้งกขนาดนั้น”

“วันนั้นเกิดอะไรขึ้นกับแกและพี่เซน ยังไม่เล่าเลยนะเว้ย” พูดเฉยๆไม่พอ ยังเอาศอกมาสะกิดๆไหล่ฉันอีก

“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ เมาเว้ย”

“แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยวะ” ฉันเดินหนีเสียงหัวเราะของเตมาหยิบไขควงให้พี่มิ่ง นึกอยากเอาทิ่มปากไอ้เตขึ้นมาเลยจริงๆ

วันนั้นหลังจากที่ฉันทำอะไรไม่ถูกเพราะพี่เซนจูบ ก็เลยแกล้งเมาเดินหนีทำท่าทางเป็นคนเมาเดินไปตรง พี่เซนเลยพยุงไปที่โต๊ะ แต่พอถึงโต๊ะฉันก็เลยบอกว่าจะกลับหอ เขาเลยบอกจะไปส่งเห็นเมา ปฏิเสธหลายรอบจนพี่ๆที่โต๊ะบอกให้พี่เซนไปส่งแหละดีแล้ว เมาแถมยังเป็นผู้หญิงอีกมันอันตราย ฉันก็เลยต้องยอมให้พี่เซนมาส่ง ตลอดทางที่นั่งอยู่บนรถฉันก็แกล้งหลับไม่รู้เรื่องสิจะรออะไร แต่พี่เซนเองก็เงียบไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้น และนับตั้งแต่นั้นมาฉันก็คอยหลบหน้าพี่เซนที่อู่หรือแม้แต่ที่สนามแข่งตลอด ตอนนี้ก็ด้วย

“จะไปไหน” เสียงพี่เซนด้านหลังที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำให้หัวใจฉันเต้นตึกตักรัวเร็วทันที

“ไปเอาน้ำให้พี่คิน“

“หืออ พี่ดื่มแค่นี้ก็พอแล้วเพ้นท์ ขืนเอามาให้อีกจุกก่อนพอดี” ฉันหันไปมองก็เห็นพี่คินกำลังกระดกน้ำขวดสองลิตรอึกๆเกือบหมด ให้ตายสิ! อุตส่าห์หาเรื่องหลบหน้าพี่เซน

“หลบหน้าพี่ทำไม” ฉันหันไปหาเขาที่กำลังยืนกอดอกจ้องหน้าฉันนิ่ง ฉันนี่ทำอะไรไม่ถูกเลยจ้า

“ใครหลบ เปล่าซะหน่อย เพ้นท์งานยุ่ง“

“ยุ่งอะไร”

”นี่ไง ต้องไปเอาไขควงให้ไอ้เตมันอีก” ฉันบุ้ยหน้าไปทางเต พอมันได้ยินถึงกับหันมาทำหน้าเหวอ ฉันเลยขยิบตาส่งซิกยิกๆไปให้

“ตาแกเป็นไรไอ้เพ้นท์” โว้ยไอ้เตไอ้บ้าไอ้ไม่รู้เรื่อง! ฉันถลึงตาใส่มันทันที เหมือนเตจะนึกได้เลยรีบพยักหน้าหงึกหงัก

”เอ่อ เออๆ เอาไขควงมาหน่อยดิ๊”

“แล้วที่มือมึงเขาเรียกว่าไร” พี่เซนหันไปจ้องไอ้เตแทน

“อุ่ย อยู่นี่เองเหรอวะ แหะๆ” ยังมายิ้มแหะๆใส่อีกนะไอ้เต ไอ้เพื่อนอกตัญญู

”งั้นเพ้นท์ไปช่วยพี่ไนซ์ทางนั้นดีกว่า”

“ไม่ต้องช่วย” ขาที่กำลังเดินชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงแหบต่ำติดหงุดหงิดส่งมา

”แต่..”

หมับ

“มานี่” พี่เซนดึงข้อมือฉันให้เดินตามไปข้างหลังอาคารเช็กสภาพรถที่เงียบสงบ บรรยากาศน่ากลัวชะมัด แต่คนตรงหน้าฉันนี่สิน่ากลัวกว่า

“พี่เซนมีไรกับเพ้นท์เหรอ” ฉันถามก้มหน้างุดๆ มองมือตัวเองไปมา

”วันนั้นแกล้งเมาใช่มั้ย” คำถามที่พูดออกมาแบบไม่ให้ตั้งตัว ทำฉันไปไม่เป็นเลยทีเดียว

“วะ..วันไหนอะ”

“...” เงียบ พอฉันลองเงยหน้าขึ้นไปมองพี่เซน ก็เห็นเขากำลังทำหน้าตึงใส่ ฉันนี่รีบก้มหน้ามองเล็บตัวเองทันที จะโหดไปไหนเนี่ย

”อะ..อ๋อออ ที่ผับพี่ไนท์อะเหรอ เพ้นท์ไม่เห็นได้แกล้งอะไรเลย” พูดเองถามเองตอบเองก็ได้วะถ้าจะกดดันขนาดนี้

”จำได้มั้ยว่าเราทำอะไรกัน”

“ก็ดื่มเหล้ากันไง ทำไมคะ” แกล้งตีหน้าซื่อจำไม่ได้ซะเลย

”แล้วจำไม่ได้เหรอว่าเพ้นท์ไปตบหัวไอ้เดย์”

“ห้ะ?! จะบ้าเหรอพี่เซน เพ้นท์ไม่เคยทำแบบนั้นหรอก“ ฉันไปตบหัวพี่เดย์ตอนไหนวะ เอาอะไรมาพูดเนี่ย บ้าไปแล้ว เขาเมาอยู่ปะเนี่ย

“หึ ไหนเมาจำอะไรไม่ได้ไง” พี่เซนหลี่ตาจับผิด แล้วยังจะมายิ้มมุมปากแบบรู้ทันอีก ให้ตายสิ! เผลอจนได้ ทำไมพี่เซนเจ้าเล่ห์แบบนี้วะ ขี้โกงอะ

“ก็”

“ตกลงจำได้ใช่มั้ย ตอบ” นี่ประโยคคำถามหรือบังคับ

“จะ..จำได้”

“ก็แค่นั้น“

“พี่ก็พูดง่ายหนิ พี่ไม่ใช่เพ้นท์” ฉันมุ่ยหน้า หมั่นไส้เขาชะมัด หน้าร้อนหมดแล้วโว้ยย

”ย้อนเหรอ”

เป๊าะ!

“มันเจ็บนะ!” ฉันกุมหน้าผากตัวเอง ดีดมาทำไมก็ไม่รู้ ซาดิสห์หรือไง

“หึ ก็ไม่อยากให้ลืม” ฉันหันขวับขึ้นไปมองหน้าพี่เซนทันที เขารู้ตัวปะว่าพูดอะไรออกมา ใครก็ได้เอาน้ำแข็งมาประคบหน้าฉันที ร้อนไปหมดแล้วกลัวหน้าระเบิดเป็นโกโก้ครั้น

”เพ้นท์” เสียงบุคคลที่สามดังขึ้น ฉันหันไปมองด้านข้างตามเสียงเรียก แล้วก็ต้องกรอกตาเมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินมาหา

”มีไรเหรอโฟร์“

“คือ อยากคุยด้วยหน่อย” โฟร์มองหน้าฉันสลับกับพี่เซนไปมา

“มีธุระอะไรพูดตรงนี้ก็ได้”

“แปบเดียวเองน่า”

“ไอ้หน้าอ่อนนี่ใคร” พี่เซนชี้หน้าโฟร์แล้วหันมาถามฉันเสียงเข้มจนฉันสะดุ้งเล็กน้อย

”เพื่อนที่มหาลัย ชื่อโฟร์ค่ะ“

“ตามจีบตั้งนานไม่ใจอ่อนเลยเหรอ” โฟร์ทำสีหน้าหงอยนิดๆ จะมาหงอยเอาอะไรยะ ไม่สงสารบอกเลย

“โฟร์นี่พี่เซน เป็น..”

พรึ่บ!

“ตามจีบเพ้นเหรอวะ” พูดยังไม่ทันจบพี่เซนก็พูดแทรกขึ้นแถมยังเอามือมาโอบไหล่ฉันดึงเข้าไปใกล้ตัวอีก เขาเคยเรียนมารยาทปะว่าเวลาคนอื่นพูดห้ามพูดแทรกน่ะ

“ใช่ แล้วนี่พี่เป็นไรกับเพ้นท์” โฟร์จ้องแขนที่โอบไหล่ฉัน แล้วหันไปมองหน้าพี่เซน

”คิดเอาเอง”

“พี่กวนผมเหรอวะ”

“ถ้าใช่แล้วมึงจะทำไม” พี่เซนเสียงแข็งขึ้นทันที ทำไมบรรยากาศตรงนี้มันอึมครึมแปลกๆ รู้สึกไม่ค่อยดีแล้วสิ

“พี่เซนเอาแขนออกก่อน เพ้นท์ไปคุยธุระแปบนึง” ฉันพูดตัดปัญหา รีบคุยๆไปจะได้จบๆ

“ไม่ปล่อย”

”พี่เซน” ทำไมวันนี้เขาดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจจังวะ

“ทำไม”

“ปล่อยเพ้นท์ก่อน“

“เพ้นท์บอกให้ปล่อยพี่ก็ปล่อยดิ” โฟร์ที่มองอยู่นานพูดเสียงเคืองๆ

”เสือก” โฟร์ถึงกับมองตาขวางในความเถื่อนของพี่เซน แต่ฉันนี่อยู่มาหลายอาทิตย์เริ่มจะชินละ

“พี่เซนอย่าดื้อดิ จะคุยอะไรก็รีบคุยโฟร์“ ฉันเอาแขนเขาออกแล้วรีบเดินมาอีกทาง สักครู่โฟร์ก็เดินตามมา ไม่กล้าหันไปมองพี่เซนด้านหลังเลยอะ เขาต้องโมโหจนควันออกหูอยู่แน่เลย

“โฟร์มีอะไรก็รีบพูดมา” หลังจากเดินห่างออกมาไกลพอสมควรฉันก็หันไปถามโฟร์ทันที

“อย่าพูดแบบนั้นสิ แค่เห็นเพ้นท์พอดีเลยอยากมาหา”

“แล้วนายมาทำอะไรที่นี่”

“มาแข่งรถ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มา” ฉันขมวดคิ้ว โฟร์แข่งรถด้วยเหรอ ไม่เห็นเคยได้ยิน

”มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ย ฉันจะได้ไปทำงาน”

“เพ้นท์ทำไมใจแข็งจังวะ นี่โฟร์จริงจังนะเรื่องเพ้นท์อ่ะ” โฟร์ทำสีหน้าเคร่งเครียด ฉันรู้ว่าโฟร์จริงจังแค่ไหน ก็เล่นจีบตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้ปีสามละไง แต่ถึงเขาจะจริงจังหรือพยายามขนาดไหน ฉันก็ยังเห็นเขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่บ่อยๆ ก็เข้าใจว่าเป็นเดือนคณะมันก็ต้องมีผู้หญิงมาชอบเป็นธรรมดา แต่แบบนี้ฉันไม่โอเคไง จะให้มาคบกับคนแบบนี้ยิ่งไม่โอเค

“จริงจังแต่ก็ควงคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ฉันควรใจอ่อนกับคนแบบนี้เหรอ”

“โฟร์ไม่ได้จริงจังกับพวกนั้นหรอกนะเพ้นท์”

”พวกนั้นที่นายพูดถึง ก็ผู้หญิงเหมือนฉันมั้ยโฟร์” ฉันมองหน้าโฟร์เดือดๆ

“โถ่เพ้นท์ เรื่องแค่นี้เอง”

หมับ

โฟร์จับมือฉันขึ้นไปกุมไว้ ฉันพยายามดึงออกแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย

”โฟร์ปล่อย”

”ถ้าเพ้นท์ไม่ชอบ โฟร์ไม่ควงใครอีกก็ได้”

“นายจะทำอะไรก็ทำ แต่ปล่อยมือฉันโฟร์” ฉันพูดเสียงต่ำลง ทำไมเขาดื้อด้านแบบนี้วะ อยากจะตบกะโหลกสักที

จึก!

“เฮ้ย! อะไรวะ!!” โฟร์ตกใจตะโกนเสียงดังรีบปล่อยมือฉันแล้วก้มลงมองแขนตัวเอง มีรอยไหม้เป็นจุดเล็กๆพร้อมกับบุหรี่ที่ตกลงไปบนพื้น ฉันหันไปมองทางทิศที่บุหรี่ปลิวมาแล้วก็ตกใจยกกำลังสอง

“พี่เซน!”

“ไง” ยังจะมีหน้ามายักคิ้วให้อีก เขาทำอะไรลงไปเนี่ย โยนบุหรี่ใส่คนอื่นได้ไง แล้วดูสิแขนโฟร์ยังมีรอยใหม้เป็นจุดเล็กๆอยู่เลยอะ

“ทำแบบนี้ทำไมวะ!” โฟร์โมโหเดินดุ่มๆเข้าไปหาพี่เซนทันที ก่อนจะไปหยุดยืนจ้องหน้าเขาอย่างอารมณ์เสีย ฉันว่าวันนี้ต้องมีใครสักคนเลือดตกยางออก เอ่อ บางทีอาจจะทั้งสองคน

“พอใจ” ดูสิ ดูพี่เซนพูดสิ ไม่ใช่แค่โฟร์หรอกที่โมโห ขนาดฉันยังต้องกรอกตาไปมาเลย

พรึ่บ!

“จะเอาไงวะ!” โฟร์กระชากคอเสื้อพี่เซนมากำไว้แน่น แต่พอฉันมองหน้าพี่เซนเท่านั้นแหละ รู้เลยจ้าใครจะหัวแตกก่อนกัน สายตาของเขาเหมือนกำลังฟาดฟันคนตรงหน้าไม่เหลือชิ้นดี หน้ากลัวกว่าผีก็พี่เซนนี่แหละ

ผั่วะ!

“ไม่แล้วไง แค่ไม่ชอบขี้หน้า” ก่อนที่ขาฉันจะได้เดินไปห้ามเขาไว้ พี่เซนก็ปล่อยหมัดไปกระแทกปากโฟร์เต็มๆ จนโฟร์ถึงกับเซถอยหลังไปหลายก้าว

“สัส! เล่นทีเผลอเหรอ!”

“มึงก็มาต่อยกูคืนดิ ถ้าคิดว่าทำได้” พี่เซนพูดนิ่งๆ แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงกลัวเขาตอนนิ่งๆนี่ก็ไม่รู้ เขาดูน่ากลัวกว่าทุกทีเลยอะ

”มึง!” โฟร์ทำท่าจะเดินมาต่อยพี่เซนคืน ฉันตั้งสติแล้วรีบวิ่งไปดันตัวโฟร์ไว้ทันที

“โฟร์หยุด!”

“อะไรวะเพ้นท์ มันต่อยโฟร์นะ!” โฟร์ก้มลงมาตะโกนใส่ฉัน

“แต่ถ้านายยังไม่หยุด นายนั่นแหละจะเจ็บตัวยิ่งกว่านี้” ฉันเงยหน้าบอกโฟร์เสียงจริงจัง ฉันรู้ว่าโฟร์ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น แต่พี่เซนก็ยังเหนือกว่าเขาอยู่ดี

“แต่มัน!!”

“เพ้นท์ถอยไป ถ้ามันอยากเจ็บตัวก็ให้มันมา” พี่เซนพูดพร้อมกับจุดบุหรี่อีกมวนขึ้นสูบ จะชิวเกินไปมั้ย! คนอื่นตื่นตกใจแทบตาย แต่ดูเขากำลังทำสิ กวนประสาทชะมัด!

“พี่เซนก็หยุดกวนสักทีเถอะ” ฉันพูดด้วยเสียงเหนื่อยใจ จะเอายังไงกับสถานะการณ์ตรงนี้ดีเนี่ย โว้ยย!

“หึ” แหน่ะ ยังจะมาหัวเราะเยาะอีก!

”ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” โฟร์จ้องหน้าพี่เซนไม่วางตา แล้วหันหลังเดินออกไปอีกทาง

“เฮ้อ อะไรนักหนาเนี่ย” ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ปวดหัวกว่าทำงานหามรุ่งหามค่ำอีกจะบอกให้

“จะไปห้ามมันทำไม” พี่เซนเดินมายืนข้างๆฉันแล้วพ่นควันบุหรี่ไปอีกทาง

”เดี๋ยวพี่ก็ได้ติดคุกข้อหาฆ่าคนตายหรอก” ฉันว่าโฟร์ก็รู้ตัวแหละว่าคงสู้การต่อยตีใช้กำลังของพี่เซนไม่ได้ เพราะดูจากขนาดของกล้าม เอ่อ หมายถึงขนาดของตัวโฟร์ก็ยังถือว่าเสียเปรียบกว่าอยู่ดี ถึงโฟร์จะมีกล้ามเนื้อแต่ก็สู้พี่เซนที่มีกล้ามเนื้อซิกแพคแน่นปึกขนาดนั้นไม่ได้หรอกมั้ง

”ไม่ฆ่าหรอก แค่กระทืบ” พูดแบบนั้นโดยที่ยังทำหน้านิ่งๆได้ยังไง ขอฮาวทูหน่อยค่ะพี่เซน

”พี่จะโหดไปไหนเนี่ย เพ้นท์กลัวหมดแล้วนะ”

ตุบ

”พี่ไม่ทำอะไรเพ้นท์หรอก ไม่ต้องกลัว” ฝ่ามือใหญ่อุ่นๆวางลงมาบนหัวฉัน ความร้อนจากมือใหญ่หรือเพราะพี่เซนกำลังมองฉันแล้วพูดด้วยถ้อยคำแบบนั้นก็ไม่รู้ที่ทำให้ฉันหน้าร้อนขึ้นมาทันที

”เพ้นท์ไปทำงานดีกว่า”

หมับ!

“เดี๋ยว” พี่เซนเอามือทั้งสองข้างมาจับหน้าฉันเอาไว้ ฉันได้แต่ขมวดคิ้วงงว่าเขาจะจับไว้ทำไม ปากฉันเหมือนปลาทองอยู่แล้ว!

จุ๊บ!

”พี่เซน!!” ฉันอ้าปากเหวอตาโตแทบถลนออกนอกเบ้า ก็พี่เซนน่ะสิมาจูบฉันทำไมเนี่ย! จะพูดว่าจูบก็ไม่ค่อยถูกเรียกว่าจุ้บเบาๆมากกว่า

“ไปทำงานไป” จุ๊บเสร็จก็เดินไปทางที่เช็กสภาพรถทันที เหมือนจะอารมณ์ดีกว่าตอนแรกด้วยนะน่ะ แต่ฉันนี่แทบล้มพรึบเลย หน้าร้อนฉ่า เหมือนไข้จะขึ้นสูง หัวใจก็เต้นคร่ำครวญไม่เป็นจังหวะจนต้องเอามือมาทาบไว้เผื่อจะบรรเทาการเต้นลง ไม่ดีต่อใจเลยจริง ๆ ผู้ชายคนนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel