ตอนที่ 4 รังเกียจ
ตอนที่ 4 รังเกียจ
ช่อผกากัดฟันแน่นเธอไม่พูดอะไรออกมาสักคำรู้สึกรังเกียจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ แถมร่างกายของเธอยังเจ็บมากจนไม่อาจเปล่งเสียงอะไรออกมาได้ เธอเอาแต่กำมือแน่นเม้มริมฝีปากเอาไว้ รู้สึกเจ็บจุกไปหมดกับการกระทำของอีกฝ่าย
เมฆามองใบหน้าสวยที่หลับตาแน่นไม่แม้แต่จะมองใบหน้าของเขามันจึงทำให้ชายหนุ่มโน้มหน้าลงไปหาก่อนจะจูบริมฝีปากของเธออีกครั้ง แต่ทว่าช่อผกาไม่ยอมเปิดปากยอมให้อีกฝ่ายล่วงล้ำเข้าไปง่าย ชายหนุ่มจึงแกล้งกระแทกแรง ๆ และนั่นก็ได้ผลเป็นอย่างดีเมื่อคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกร้องเจ็บออกมา เขาจึงได้โอกาสสอดลิ้นร้อนเข้าไปกวาดหาความหวานจากโพรงปากเล็ก
“อื้อ พะ พอแล้ว” เธอหันหน้าหนีพร้อมกับเอ่ยปากห้ามอีกฝ่าย
“เหอะ ยิ่งรังเกียจมากฉันก็ยิ่งอยากจะทำมากขึ้น”
“ฮึก เลว”
“ไม่เบื่อหรือไงพูดได้แค่คำนี้” คนถูกต่อว่ายังคงตีมึน ก่อนที่เขาจะเลื่อนมือมาสัมผัสร่างกายนุ่มนิ่มของคนใต้ร่างอย่างพอใจ ซึ่งช่อผกาก็ได้แต่เบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ ร่างของเธอกระเพื่อมไปตามแรงกระแทกของเขา
เสียงลามกดังกึกก้องภายในห้องสุดหรู หัวคิ้วของช่อผกาขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อเริ่มรู้สึกบางอย่างที่แปลกไป ความรู้สึกที่เธอไม่คิดว่าจะรู้สึกกับผู้ชายคนนี้ ร่างกายของเธอจากที่เจ็บปวดในคราแรกแปรเปลี่ยนเป็นกระสันในยามที่ชายหนุ่มขยับเขยื้อนอย่างนี้
รอยยิ้มผู้ชนะเผยออกมาเมื่อชายหนุ่มรับรู้ถึงร่างกายของหญิงสาวว่ากำลังโอนอ่อนไปกับการกระทำของเขาในตอนนี้ เขาเองก็รู้สึกเสียวซ่านไม่ต่างกัน ร่างกายของเธอคนนี้มันทำให้ร่างกายของเขาแทบคลั่งจริง ๆ ปกติก็ไม่เคยขาดเรื่องผู้หญิงแต่บอกตามตรงผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากคนอื่น ๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นความยากที่ได้มาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ปกติเจอแต่คนที่แทบคลานมาหาพอมาเจอแบบนี้ก็คงถูกใจมั้ง
ตับ ตับ ตับ
เสียงเนื้อกระทบกระทั่งดังขึ้นไม่หยุดหย่อนผสมผสานกับเสียงครางเบา ๆ ที่หญิงสาวพยายามไม่เปล่งเสียงร้องออกมา แต่ก็แทบอดกลั้นไม่ได้ ใบหน้าของชายหนุ่มมองไปยังดวงหน้าของคนตัวเล็กนิ่ง เขารู้สึกใกล้จะเสร็จสมอย่างที่ใจปรารถนาจึงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นกว่าเดิม และเสียงหวาน ๆ นั้นก็ดังขึ้นมาให้ได้ยิน
“อ๊ะ อ๊า อึก จุกเบาหน่อย” ช่อผกาสะท้านไปทั้งร่างกับการกระทำของอีกคน เธอหายใจแทบไม่ทันรู้สึกจุกไปหมดกับการกระทำของคนเอาแต่ใจ แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายตอกอัดความเป็นชายเข้าหาเธอหนักหน่วงมากกว่าเดิม พอเธอจะหุบขาหนีเขาก็ใช้ต้นขาดันเอาไว้พร้อมกัดฟันแน่น คนตัวเล็กได้ยินเสียงครางต่ำ ๆ ออกมาจากชายหนุ่มจึงเดาว่าอีกฝ่ายคงใกล้จะเสร็จแล้ว ถึงแม้เธอจะไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนแต่เรื่องพวกนี้ก็พอได้ยินมาจากกลุ่มเพื่อนบ้าง ที่พวกนั้นชอบเล่าให้ฟังว่าเวลาผู้ชายจะเสร็จจะครางออกมา
“ฮึก ฉันจุกเบาหน่อย”
“ทน ฉันจะเสร็จแล้ว” เมฆาบอกก่อนจะระรัวเอวสอบเข้าหาร่างเล็ก ไม่นานร่างกำยำของชายหนุ่มก็กระตุกปลดปล่อยความสุขออกมา หญิงสาวเองก็หายใจหอบแทบหมดแรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะรับรู้ถึงความอุ่นร้อนที่ไหลเข้าสู่ร่างกายนั้นจึงทำให้ช่อผกาขมวดคิ้วเข้าหากัน ในขณะที่ชายหนุ่มค่อย ๆ ถอดถอนแก่นกายลำใหญ่ของตนเองที่มีเส้นเลือดรายล้อมไปทั่วลำ พอเห็นน้ำสีขุ่นที่เขาเพิ่งปล่อยไปไหลย้อนออกมาก็เผยแววตาพอใจให้ได้เห็น ไหนจะคราบเลือดที่ติดแก่นกายของเขาอีกด้วยมันตอกย้ำว่าเขาเป็นคนแรกของเธอ แค่คิดก็รู้สึกอยากจะเอาอีกรอบขึ้นมา
“ไม่ได้ป้องกันเหรอ?”
“ค่อยไปกินยาเอาเองแล้วกัน” เมฆาบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ เขาจับร่างเล็กให้หันหลังอีกครั้งที่หญิงสาวตกใจ เธอยกมือขึ้นมาปัดแขนอีกฝ่ายให้ออกห่างแต่ทว่าก็ถูกคนเอาแต่ใจจัดการท่าให้เธอคลานเข่าก่อนที่เขาจะสอดแก่นกายเข้าไปในช่องทางรัก
“อ๊ะ หยุดนะไม่ให้ทำแล้ว พอสักทีเถอะ”
“คิดว่าของเดิมพันอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาห้าม มีหน้าที่อะไรก็ทำไป !” น้ำเสียงเชิงหงุดหงิดเอ่ยออกมาให้ได้ยิน เพราะอีกคนเริ่มพยศใส่อีกครั้งมันจึงทำให้อารมณ์ของเขาหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ
น้ำตาของช่อผกาไหลออกมาอีกจนได้ เธอถูกอีกคนตักตวงความสุขจากร่างกายแทบไม่ได้พัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองสลบไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็คือเช้าของวันใหม่แล้ว หญิงสาวขยับกายพร้อมกับเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ เธอเห็นคราบน้ำสีขุ่นที่ไหลออกมาบ่งบอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งหยุดทำเรื่องบ้า ๆ กับเธอไปได้ไม่นาน ไหนจะรู้สึกแสบกลางใจสาวนั่นอีก ยิ่งนึกถึงความน่าอดสูเมื่อคืนมันก็ทำให้ดวงตาของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง
มือเรียวสวยยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกมาจากใบหน้าก่อนที่เสียงประตูห้องน้ำจะดังขึ้น ปรากฏร่างกำยำที่นุ่งเพียงผ้าขนหนูเดินออกมา เมฆาเห็นอีกคนที่ตื่นแล้วก็ยกมุมปากอย่างสะใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืน เขาเดินตรงมาหาทำให้ช่อผกาหันหน้าหนีไปอีกทาง เธอกระชับผ้าห่มเอาไว้แน่นแต่แล้วก็ต้องเบิกตาตกใจที่จู่ ๆ เขาก็กระชากผ้าห่มออก
“อ๊ะ คุณทำบ้าอะไร”
“นี่มันของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”
“คนบ้า !” เธอเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาอีกรอบ ก่อนที่คนตัวเล็กจะข่มความอับอายเอาไว้ขืนเป็นแบบนี้เขาก็คงสะใจที่ได้แกล้งเธอแน่นอน
หญิงสาวลุกขึ้นโดยที่ไม่ได้สวมใส่อะไรก่อนจะเดินออกไปจากห้องเพราะเสื้อผ้าของเธอถูกถอดออกในห้องนั่งเล่น หญิงสาวก้มลงเก็บเสื้อผ้าก่อนจะรู้สึกสมเพชกับสภาพที่ขาดรุ่ยของเสื้อผ้า ท่าทางของหญิงสาวอยู่ในสายตาของเมฆาทุกอย่าง เขาเดินหายไปในห้องก่อนจะหยิบเสื้อเชิ้ตของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับเดินออกมาห้องนั่งเล่นอีกครั้งก่อนจะโยนให้กับคนตัวเล็ก
“เห็นแล้วสมเพช เอาไปใส่”
“ไม่ใช่คุณเหรอที่ทำเลว ๆ พวกนี้”
“มันเป็นสิทธิ์ของฉันไม่ใช่หรือไง ใครใช้ให้เธอเล่นตัวเองล่ะ” เธอแทบพูดไม่ออก สรุปเธอผิดงั้นเหรอที่ไม่ยอมเขา ถ้าจะพูดจริง ๆ เรื่องนี้เธอไม่ผิดเลยสักนิดเธอไม่เกี่ยวด้วย แต่ก็ต้องมาถูกย่ำยีแบบนี้มันสมควรแล้วงั้นเหรอ
“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะหาคำพูดไหนมาต่อว่าผู้ชายอย่างคุณแล้ว รังแกแม้กระทั่งคนที่อ่อนแอกว่า”
“เหอะ ถ้าคิดว่าคำพูดของเธอมันจะทำให้ฉันสะทกสะท้านหรือรู้สึกผิดแล้วล่ะก็ เธอคิดผิดแล้วแหละ เพราะฉันไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย ถ้าจะโทษไปโทษแฟนเธอโน้น เพราะมันประเคนเธอให้กับฉันเอง”
“เลวทั้งคู่นั่นแหละ !” ช่อผกาต่อว่าออกไปอย่างเจ็บใจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐหรือผู้ชายคนนี้เธอก็เกลียดทั้งหมด
“เออเลวแล้วไง ก็ไม่ใช่คนเลวคนนี้เหรอที่ทำให้เธอเสร็จน่ะ” เขาพูดไม่ผิดเลย เธอเสร็จสมเพราะเขาจริง ๆ เธอไม่อาจต้านทานธรรมชาติได้ ร่างกายของเธอจึงโอนอ่อนไปกับการกระทำของเขา
“ปากบอกไม่ แต่ร่างกายเธอมันต้องการฉันไม่ต่างกันหรอกนะคนสวย”
“หยุดพูดนะ !”
“หึ ทำไมยอมรับความจริงไม่ได้งั้นเหรอ” พอเห็นคนตัวเล็กโกรธจัด ชายหนุ่มก็ยิ่งพูดยั่วยุให้เธอเจ็บช้ำหัวใจ
“ร่างกายเธอมันชอบที่ฉันกระแทก ยอมรับความจริงเถอะคนสวย”
เพียะ !
หญิงสาวยกมือขึ้นมาตบใบหน้าของคนตัวสูงอย่างไม่พอใจที่เขามาพูดจาแบบนี้กับเธอ คนถูกตบถึงกับหน้าหัน เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มก่อนจะหันหน้ามามองคนกระทำด้วยแววตาร้าย ๆ
“อื้อ” ไม่ทันได้ถอยหนีร่างเล็กของช่อผกาก็ถูกอีกคนรวบเอาไว้ก่อนที่ชายหนุ่มจะบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างกับว่าต้องการลงโทษที่เธอกล้ามาตบหน้าของเขาแบบนี้
“ฮึก อ่อยอะอนเอว (ปล่อยนะคนเลว)” ชายหนุ่มไม่คิดหยุด เขายังคงจูบเธออยู่อย่างนั้นและการกระทำของเขามันก็รุนแรงจนเธอรับแทบไม่ไหว
หญิงสาวพยายามดีดดิ้นต่อต้านแต่ทว่ายิ่งเธอทำแบบนั้นเขาก็ยิ่งทำให้เธอเจ็บปวดมากกว่าเดิม เธอได้กลิ่นคาวเลือดที่ลอยฟุ้งออกมาเตะจมูก ริมฝีปากของเธอมันเจ็บไปหมดจนช่อผกายอมหยุดดิ้น เธอไม่อยากจะอ่อนแอเลยแต่ก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างนี้ พอเห็นหญิงสาวนิ่งไปเมฆาจึงยอมหยุด การที่เธอพยศใส่เขาก็จะทำแบบนี้นั่นแหละจะได้ไม่กล้าหือกับเขาอีก
“ถ้ารู้ว่าสู้ไม่ได้ก็อย่าอวดดีให้มาก” ชายหนุ่มพูดพร้อมเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น เขาเดินกลับไปยังห้องนอนก่อนจะแต่งตัวเพื่อที่จะไปมหาวิทยาลัยในเช้าของวันนี้ หลังจากที่แต่งตัวเสร็จก็ไม่เห็นหญิงสาวอยู่ในห้องแล้วเขาเดาเอาไว้แล้วว่าเธอคงหนีกลับไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรอยากจะหนีก็หนีไปถ้าคิดว่าหนีไปได้
