บทย่อ
“จำไว้ ศักดิ์ศรีของเธอไม่มีตั้งแต่เธอเซ็นสัญญาแล้ว“
บทที่ 1 บทนำ
ในวาระสุดท้าย…
เสียงประตูเตาเผาค่อย ๆ ปิดลงพร้อมกับเสียงพระสวดดังขึ้นในวันเผาศพแม่ของหญิงสาววัยสิบสามขวบ อย่าง ‘อันดา’ ดวงตากลมโตเอาแต่จ้องมองปล่องควันสีดำ ที่กำลังพุ่งสู่ท้องฟ้าด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเศร้าแต่ก็ยังพยายามเข้มแข็งเอาไว้
แขนเรียวบางกอดกรอบรูปแม่ของเธอไว้แน่นก่อนเธอจะปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจอย่างไม่อาจกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป
เธอรีบหันไปกอดหญิงวัยกลางคนยืนอยู่ข้างกาย ที่เธอเรียกว่า ‘แม่ครู’
“แม่ไม่เจ็บไม่ปวดอีกต่อไปแล้ว อันดาเข้มแข็งนะ”แม่ครูกอดหญิงสาวมือลูบบ่าไหล่ปลอบใจ ท่ามกลางความสูญเสียแม่ผู้ให้กำเนิด ที่ไม่มีวันหวนกลับมา ด้วยโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาได้
“ทำไมแม่ต้องทิ้งอันด้วย”
“แล้วอันจะอยู่กับใครคะแม่ครู”เสียงสะอึกสะอื้นของเธอเปล่งออกมา มือสองข้างจับกรอบรูปแน่น พลางก็ก้มมองรูปผู้เป็นแม่ทั้งน้ำตา
“…”แม่ครูได้เพียงจับกอดสาวน้อยผู้ไร้เดียงสา ให้กำลังใจ ก่อนจะพาเธอเดินทางจากตัวเมืองกลับบ้านบนดอย
วันเวลาผ่านไป ครบร้อยวันหลังจากที่เผาศพแม่ของอันดาเสร็จแม่ครูและอันดาก็ได้นำอัฐิมณฑาแม่ของเธอไปลอยอังคาร
“อย่าได้ห่วงอะไรอันดาเลยนะ มณฑา”
“นี่สินะคะแม่ครู ที่เขาว่ากันว่า คิดถึงมากแค่ไหน ก็ไม่มีวันได้พบเจอ” อันดาหันไปพูดกับแม่ครูพร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา
“ถึงเวลาแล้วครับคุณอันดา”ชายชกรรจ์สวมสูทสีดำเดินมาบอกกับอันดาที่กำลังยืนอยู่ท่าเรือ ในระหว่างที่เธอกำลังคุยกับแม่ครู มือเรียวบางก็พรางกำจี้ล็อกเก็ตสีทองไว้แน่น
“ไว้มีโอกาส อันดาจะแวะมาหาแม่ครูนะคะ”พูดจบสองขาเรียวสาวเท้าก้าวขาขึ้นรถราคาแพง โดยไม่สนใจเลยว่าทางที่เธอเลือกเดินต่อไปนี้เธอต้องเจอกับอะไรบ้าง
เวลาผ่านไปสิบห้าปี....
ณ. คฤหาสน์หรูริมทะเลสาบ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์น ผสมผสานกับธรรมชาติอย่างลงตัว ผนังกระจกบานใหญ่เปิดรับวิวทะเลสาบสีฟ้าใส ชั้นล่างเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวที่ติดตั้งเครื่องไฟฟ้าระดับพรีเมียม เฟอร์นิเจอไม้สีอ่อนตัดกับหินสีเทาเข้ม ชั้นบนเป็นห้องทำงานและห้องนอนที่มีระเบียงส่วนตัว สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ทอดยาวไปจนถึงทะเลสาบ
“อันช่วยค่ะ”
“คุณอันไม่ต้องเลยค่ะ เดี๋ยวให้นังจวงทำเอง” ‘น้อย’ เอ่ยขึ้นเสียงใสเมื่อเห็นอันดาเดินหยิบตะกร้าผักไปล้างทำความสะอาด
อันดา ถึงเธอจะเป็นลูกเมียน้อยแต่เธอก็เป็นทายาทคนเดียวของตระกูล เพราะเคทที่เป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของพ่อเธอไม่สามารถมีลูกได้
“ไม่เป็นไรค่ะ อันทำได้”
“ไม่ได้นะคะคุณอัน เดี๋ยวคุณเคทกับคุณผู้ชายรู้ ป้าโดนดุเอานะคะ”
“…”
“ป้าว่า คุณอันกลับมาจากมหาลัยเหนื่อย ๆ ไปนั่งพักที่ห้องนั่งเล่นดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวป้าให้จวงเอาน้ำส้มไปให้”ป้าน้อยคลี่ยิ้มพูดเสียงนุ่มออกอุบายให้อันดาขึ้นไปพักที่ห้องนั่งเล่น เบี่ยงเบนไม่ให้เธอทำครัว
ตลอดชีวิตของอันดาจนถึงวัยสิบสามขวบปีต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ทำกับข้าวเอง ล้างจานเองจนชิน แต่พอมาอยู่คฤหาสน์หลังโต กลับกลายมาเป็นคุณหนูของบ้านเธอคงจะยังไม่ชิน
มื้อเย็นของวัน…ในห้องอาหาร ที่มีโต๊ะอาหารขนาดใหญ่มองบนโต๊ะมีอาหารประมาณห้าหกอย่างหน้าตาหน้าทานฝีมือของป้าน้อยและจวงแม่บ้านประจำ
“งานประมูลบ้านพักตากอากาศวันพรุ่งนี้ อันดาต้องไปนะ แม่ให้คนเตรียมชุดไว้ให้แล้ว ถือโอกาสไปศึกษาดูงานด้วย”เคทแม่เลี้ยงของเธอพูดขึ้นในระหว่างที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูก นั่งรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน
“พ่อว่าอันดาไปก็ดีนะ จะได้ไปเปิดหูเปิดตา”อันดาไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด ตั้งแต่ที่มณฑาแม่ของเธอเสียเธอก็ย้ายเข้ามาอยู่คฤหาสน์หลังนี้โดยมีเคทและพ่อของเธอคอยส่งเสียเล่าเรียนจนเธอเรียนจบปริญญา และเคทก็ดีกับเธอมาก รักและเลี้ยงดูอันดาเปรียบเสมือนลูกแท้ ๆ
“อันดาขอชวนฮันน่าไปด้วยได้ไหมคะ”
“ได้สิจ๊ะ”
“ให้คนขับรถของเรา ไปรับฮันน่าเลยดีไหมลูก หรือยังไงดี อันดาคิดว่ายังไง”เคทคลี่ยิ้ม มือยื่นตักอาหารเมนูโปรดใส่จานอันดา
“เดี๋ยวอันดาถามฮันน่าก่อนก็ได้ค่ะ แล้วเดี๋ยวอันจะบอกน้าเคท เอ่อ คุณแม่นะคะ” เสียงพูดอึกอักไม่ถนัดปาก เมื่อต้องเรียกเคทว่าแม่
“ไว้อย่าลืมลองชุดที่แม่เตรียมไว้ให้อันด้วยนะ แม่ว่าอันใส่ชุดนี้แล้วต้องสวยมากแน่ ๆ”
“จวง เอาชุดคุณอันดา ขึ้นไปไว้บนห้องแล้วใช่ไหม”เคทหยิบผ้าขาวสะอาดมาเช็ดปาก เอี่ยวตัวหันไปถามจวงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะอาหาร
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณเคท เก็บไว้ในตู้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”จวงแย้มยิ้ม ค้อมศีรษะตอบกับคนที่เป็นเจ้านายอย่างนอบน้อม
หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ ทุกคนในคฤหาสน์แยกย้ายกันเข้าห้องนอน เหลือเพียงแม่บ้านที่ยังทำหน้าที่ทำความสะอาดโต๊ะอาหาร และคอยเก็บของภายในห้องครัว
“ป้า คุณอันดา เธอโชคดีมาก ๆ เลยนะป้า ที่เจอคนแบบคุณเคท นี่ถ้าเป็นเหมือนละครหลังข่าวที่เราดูนะ คุณอันดาไม่ได้ยืนอยู่แบบนี้หรอก”
“แหม..นังจวง แกนี่มันจริง ๆ เลยนะ เรื่องของเจ้านายแกไม่ต้องไปยุ่งสักเรื่องได้ไหม ไปเช็ดจานช่วยนังจุกนู่น”
“แต่ก็จริงแบบที่แกพูด”น้อยทำหน้าเวทนา นึกย้อนครั้งที่แม่อันดาอยู่คฤหาสน์หลังนี้
“แหมะ ป้าก็คิดเหมือนฉันละสิ”เสียงของจวงเอ่ย มือก็คว้าหยิบจานในอ่างขึ้นมาวางบนชั้น
ก็อย่างที่จวงพูดนั่นแหละ ถ้าเป็นครอบครัวอื่นอาจจะไม่มีใครยอมรับอันดาแบบนี้ก็ได้ ถึงแม้ว่าแม่จะเสียแต่ก็คงไม่มีใครชอบลูกเมียน้อย

