แฟนเป็นตัวเป็นตน
"พริ้งเมื่อไหร่จะหาแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที แล้วไอ้เพื่อนผู้หญิงนั่น ทำไมต้องสนิทกันขนาดนั้น นีลูกเป็นเลสเบียนเหรอ? พ่อของลูกไม่ชอบหรอกนะ ไหนบอกตลอดว่าไม่ได้เป็น แล้วทำไมไม่มีแฟนเป็นผู้ชายเลย ไปไหนมาไหนแต่กับผู้หญิง จนคนเขาลือไปให้ทั่ว"
แม่ฉันพูดขึ้นในขณะที่ฉันกำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่
"แม่อะ บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ได้เป็น แล้วก็ยังไม่ถูกใจใครด้วย แล้วการที่ไปไหนมาไหนกับผู้หญิงมันดีซะอีก ไม่เห็นมีเรื่องเสียหายมาให้พ่อกับแม่กังวลเหมือนไปกับผู้ชายเลยนี่คะ "
ฉันบอกแม่ไปรอบที่ล้านแปดแล้วมั้ง แต่เคยฟังที่ไหนละ
"แต่พ่อกับแม่อยากอุ้มหลาน" ฉันที่กำลังดื่มน้ำอยู่แทบจะสำลักทันที่ที่แม่พูดจบ แฟนผู้ชายสักคนฉันยังไม่เคยมีเลย นี่แม่ฉันคิดข้ามขั้นตอนไปถึงตอนมีหลานเลยเหรอ
"แม่อะ ยังไม่แก่สักหน่อยจะรีบอยากได้หลานไปทำไม ไปบีบบังคับเอากับพี่เแพรนู้น"ฉันบอกแม่ แม่ชอบบังคับแค่ฉัน แต่พี่สาวฉันกลับปล่อยให้มีอิสระ ไม่เคยบังคับเลยเถอะ
"ก็พี่แกมันมีแฟนเป็นผู้ชายให้แม่ไหมละหืม แกก็อีกคนวันๆขลุกอยู่แต่กับผู้หญิง แกไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ถ้าแกไม่มีแฟน แม่จะให้แกแต่งกับตานนท์ ลูกคุณนิรานะ รายนั้นเขาชอบแกอยู่ไม่ใช่เหรอ เห็นตามจีบอยู่นี่ "
แม่ฉันก็จะไม่ยอมให้ฉันเลยสินะ ก็ใช่ที่พี่ฉันชอบผู้หญิงด้วยกัน แต่ก็ใช่ว่าฉันจะชอบนี่ แล้วอะไรอีก ให้แต่งกับไอ้บ้านนท์ขี้หลีนั่นนะเหรอ ให้ตายก็ไม่แต่งหรอก
"ไม่เอาอะแม่ ไอ้... เอ่อนนท์เขาไม่ใช่เสปกหนู"
ฉันไม่กล้าบอกแม่ไปตรงๆว่าไอ้นนท์อะกิติศัพย์เยอะขนาดไหน ไอ้หมอนั่นตามจีบฉันก็จริง แต่มันก็จีบไปทั่วเลยไง ทำไมฉันถึงรู้นะเหรอ ก็อยู่มหาลัยเดียวกันอะ ไม่มีใครไม่รู้จักหรอกไอ้นนท์หน้าม่อ และฉันไม่ชอบคนเจ้าชู้ด้วย ขี้เกียจหึงหวง ถ้าไม่มีฉันคนเดียว ฉันยอมไม่มีใครเลย ยังแฮบปี้กว่าอีก
"ชอบไม่ชอบแม่ไม่รู้หรอก แต่ถ้าแกไม่มีแฟน หลังเรียนจบแกเตรียมแต่งกับตานนท์ได้เลย ทางนู้นเค้าทาบทามมาแล้ว"
"อะไรนะแม่ หลังเรียนจบ มันก็อีกแค่ไม่กี่เดือนแล้วสิ ได้ไงอะ หนูไม่แต่งไง"
ฉันโวยวายทันที ใครจะไปแต่งละ ชีวิตทั้งชีวิตเลยนะ
"ถ้าแกไม่อยากแต่งแกก็หาแฟนซะสิ แม่จะได้มีข้ออ้างกับทางนู้นว่าแกมีคนที่คบหาดูใจแล้ว อ่อ!! แล้วแฟนที่เป็นผู้ชายด้วยนะ ถ้าแฟนผู้หญิงฉแม่ไม่ยอมรับ และถ้าแกกล้าพาผู้หญิงมาบอกว่าเป็นแฟน แม่นี่ละจะจับแกแต่งงานเอง " แม่ฉันพูดอย่างโมโห แล้วเดินออกไปทำงานทันที
โอ้ย! เชี้ย! ฉันอยากจะตะโกนออกไปแบบนี้ดังๆ แต่ก็ทำได้แค่กรีดร้องในใจ อะไรกันนักหนาเนี้ย!
ฉันรีบขับรถออกจากบ้าน ขับไปคอนโดยัยแพรพี่สาวตัวดีทันที ถ้าพี่แพรไม่ประชดแม่ด้วยการเปิดตัวแฟนผู้หญิง ฉันคงไม่โดนแบบนี้หรอก ไม่ไปรงไปเรียนมันละ เบื่อโว๊ย!
ไลน์ : อาจารย์ยกคลาสวันนี้นะคะ
จ้า! จะยกคลาสไม่รีบบอกละคะอาจารย์จะให้แหกขี้ตาตื่นมาทำไมตั้งแต่เช้าเนี้ย ฮึ่ย! ตอนนี้ฉันรู้สึกหงุดหงิดไปหมดทุกอย่างเลย และพาลโกรธอาจารย์ไปด้วยที่ยกคลาสกระทันหัน ทั้งที่ฉันตั้งใจตื่นขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้า
ฉันขับมาถึงคอนโดพี่แพรตอน 8 โมงนิดๆ เช้าๆ รถติดชิบหาย มันยิ่งทวีความหงุดหงิดให้ฉันมากขึ้น
แก๊ก. ปึ่ง!!!
เสียงเปิดประตู ตามด้วยเสียงปิดลงอย่างแรงตามอารมณ์ของฉันเอง ไม่ต้องรอให้พี่สาวมาเปิดให้หรอก ฉันมีคีการ์ด แล้วฉันก็มาที่นี่บ่อยด้วย แต่ละครั้งที่มาไม่เคยบอกหรอก ปกติก็แบบนี้ ฉันกับพี่แพรห่างกันแค่ 2 ปี เราเลยเหมือนเพื่อนมากกว่า ไม่ต้องมานั่งรอพิธีรีตองอะไรมาก
เอ่อ! สิ่งที่เห็นภายในห้องทำเอาตาค้าง ฉันควรจะออกไปดีไหมตอนที่ปิดประตูแล้วหันกลับมาในห้อง ยัยพี่สาวตัวดีกำลังจูบอยู่กับผู้ชายหน้าตาดีอยู่ ปิดประตูดังขนาดนั้นควรรู้ตัวได้แล้วไหมว่ามีคนมา ฉันมองพี่ฉันสลับกับผู้ชายคนนั้นอยู่เงียบๆ
เอ้ายังอีก ไม่เข้าห้องวะ ถ้าจะขนาดนี้อะ หึ่ย!
ใช่! ผู้ชาย! ฉันไม่ได้ตกใจหรอกที่พี่ฉันจูบกับผู้ชาย ก็ความจริงแล้วพี่ฉันไม่ได้เป็นทอมหรือเลสอย่างที่แม่เข้าใจหรอก ก็ผู้หญิงปกตินี่ละ แค่มีเพื่อนเป็นแค่นั้น แต่แม่นึกว่าพี่ฉันเป็นไง ถามย้ำๆอยู่ทุกวันว่าเป็นไหม เป็นใช่ไหม พอบอกไม่เป็นก็ไม่เชื่อ พี่ฉันเลยประชดด้วยการพาเพื่อนสาวไปเปิดตัวว่าเป็นแฟน ทีนี้เลยโดนเฉดหัวมาอยู่คอนโด แต่พี่ฉันออกจะชอบเพราะมันอิสระ
