บทนำที่ 1 [F&P]
Ploy talk
"คุณต้องการให้พลอยเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าตัวนี้ของคุณหรือคะ" ฉันเอื้อนเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงหวานๆ ชวนให้คนฟังเคลิบเคลิ้ม
"ถ้าผมต้องการมากกว่าให้คุณมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ล่ะ" เฉิน เฟยเจิน ชายหนุ่มนักธุรกิจฮ่องกงตรงหน้าฉัน กระตุกยิ้มที่มุมปากขณะตอบกลับมา
"หมายถึงอะไรคะ" ฉันถามเขากลับไปอย่างงุนงง ฉันอายุเพียงแค่ยี่สิบปี เข้าเดบิวต์ตั้งแต่อายุสิบห้า และได้เป็นศิลปินตอนอายุสิบแปด ฉันแทบไม่มีเวลาส่วนตัวและแทบไม่รู้จักผู้ชายเลย เรื่องเซ็กยิ่งห่างไกล
"ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่าคุณกินข้าวก่อนเถอะ อาหารเย็นหมดแล้ว" เฟยเจินเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เขาทำธุรกิจมากมาย และขยายธุรกิจไปหลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งอายุของเขาเพียงแค่ยี่สิบแปดปีเท่านั้น แต่เขากลับประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ฉันนั่งทานอาหารกับเขามาร่วมหนึ่งชั่วโมงแล้ว ขณะที่พนักงานนำไวน์มาเสริฟให้เราทั้งคู่อยู่เรื่อยๆ ฉันจำใจต้องดื่มบ้าง ด้วยเขากำลังจะจ้างให้ฉันเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าของเขา และเขาก็รวยมาก มีอำนาจล้นมือ ผู้จัดการและเจ้าของค่ายเพลง ให้ฉันเข้าพบเขาแบบส่วนตัวและทำตัวให้น่ารักที่สุด เพื่อให้เขาประทับใจและฉันก็จะได้งานนี้ ซึ่งมันจะทำให้ฉันมีรายได้และชื่อเสียงอีกมาก
แม้ใจของฉันไม่ได้อยากทำ เพราะฉันคิดว่า...ตอนนี้สิ่งที่ฉันได้รับ มันเพียงพออยู่แล้ว แต่ฉันก็ขัดอะไรผู้ใหญ่ไม่ได้ เพราะฉันยังมีสัญญาอยู่กับทางค่าย ฉันจึงต้องเข้าพบเขาในวันนี้
ฉันดื่มไวน์ไปเรื่อยๆ จนตอนนี้หัวเริ่มมึน เมื่อสายตาของฉันมองตรงไปที่เขา ก็พบว่าสายตาของเขาคอยจับจ้องมองดูปฏิกิริยาฉันอยู่ตลอด จนตอนนี้เปลือกตาของฉันคล้ายกำลังจะปิด และเขาก็คงจะรู้แล้วว่าฉันกำลังจะเมา
"พลอยขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" ฉันลุกขึ้นยืน และพยายามพาร่างตัวเองเดินไปยังห้องน้ำ แต่สุดท้ายฉันเดินไปได้แค่สองก้าว ก็รู้สึกคล้ายกำลังจะล้ม ทันใดนั้นเขาก็รีบลุกขึ้นและเข้าประคองฉันทันที
"คุณไหวไหม เดี๋ยวผมพาไป" เขาประคองฉันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องน้ำ
"คุณรอตรงนี้แหละ" ฉันเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบากเพื่อเข้าไปทำธุระส่วนตัว และเมื่อฉันทำทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมา ฉันเดินตรงไปยังอ่างล้างมือ ขณะที่ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกพะอืดพะอม และทันใดนั้น...ฉันก็อาเจียนออกมาทันที
“โอ้ก...แหวะ”
"เฮ้ยคุณ!!! ไหวไหม" เขารีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องน้ำ และลูบหลังฉันทันที
"ไม่ไหวค่ะ พลอยมึนหัวมาก เดินแทบไม่ไหวแล้ว พลอย...อยาก...จะ....นอน" ฉันตอบเสียงยืดยาวออกไป และเริ่มเข้าสู่สภาวะทิ้งตัว
"เฮ้ย!!! พลอย" เขาตกใจกับภาพที่เห็น เพราะฉันได้ทิ้งน้ำหนักตัวลงสู่พื้นเย็นๆ ในห้องน้ำ ราวกับว่าพื้นกระเบื้องนี้ คือเตียงนุ่มๆ ในห้องนอน และนั่นทำให้เขารีบยื่นมือมาคว้าเข้าที่เอวฉันไว้ ก่อนที่ฉันจะล้มหัวฟาดพื้นไปเสียก่อน
....
Fei Zhen talk
ผมรีบอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าหญิงและพาเธอไปยังห้องพักในโรงแรม โรงแรมที่ผมเองเป็นเจ้าของ เมื่อผมเดินออกมาจากห้องอาหารส่วนตัว ลูกน้องสองคนรีบวิ่งเข้ามาหาผมทันที
"ให้ผมช่วยไหมครับนาย" เจียวจ้านลูกน้องมือขวารีบเอ่ยถาม
"ไม่ต้อง กูจัดการเอง" ผมทำตาขึงขังใส่ลูกน้องกลับไป เพราะผมไม่ต้องการให้ใครมาสัมผัสตัวศิลปินคนโปรดของผม
และเมื่อถึงห้องพัก ผมก็วางเธอลงบนเตียงนอนคิงไซส์อย่างเบามือ สายตาของผมมองตรงไปยังใบหน้าแสนสวยไร้ที่ติของเธอ วันนี้พลอยใส่ชุดเดรสยาวคล้องคอสีชมพูอ่อน ขลับกับผิวขาวๆ ของเธอมาก แม้เธอจะใส่สูทเพื่อปกปิดผิวขาวเนียนด้านใน มันก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามของผิวเธอถูกปกปิดได้เลย สายตาของผมค่อยๆ มองไล่ลงมาจนถึงเนินอกคู่งาม
"อึกก" ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เมื่อคอเสื้อที่แหวกค่อนข้างลึกเผยให้เห็นเนินอกที่ขาวผ่องโผล่พ้นอาภรณ์ออกมา มันแทบทำให้ผมอดใจไม่ไหว แม้ในใจของผมอยากจะทำให้เธอเป็นของผมมากแค่ไหน แต่ผมทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น ผมต้องการให้เธอรู้จักตัวตนของผมมากกว่านี้ และอยากให้เราสองคนค่อยๆ ใช้เวลาศึกษาเรียนรู้กัน เพื่อให้เธอคุ้นเคย และเป็นฝ่ายเข้าหาผมเอง ผมจะไม่ใช้วิธีฉวยโอกาสแบบที่ผู้ชายเลวๆ ทำเด็ดขาด ผมจึงดึงผ้านวมขึ้นมาห่มให้เธอ และผมก็เร่งฝีเท้ารีบเดินออกจากห้องเธอไป
"เจียวจ้าน มึงไปสั่งแม่บ้านให้ขึ้นมาดูแลคุณพลอยตอนนี้เลย"
"ครับนาย"
ตอนนี้ผมกำลังเกิดอารมณ์ เพราะแก่นกายด้านล่างค่อยๆ ตั้งผงาดจนคับเป้ากางเกง ผมรีบเดินตรงดิ่งไปที่ห้องพักตัวเอง และหยิบมือถือออกมา เพื่อโทรหาหญิงสาวคนหนึ่งทันที
"ซูหนี่ ตอนนี้เธออยู่ไหน"
[เพิ่งเลิกงานค่ะ ตอนนี้ซูหนี่อยู่ใกล้ๆ โรงแรมของคุณค่ะ คุณเฉินมีอะไรให้ซูหนี่รับใช้คะ]
ซูหนี่...นักแสดงสาวชาวฮ่องกง เธออายุยี่สิบห้าปีแล้ว หน้าตาสวยงามตามแบบฉบับดารา แต่เธอยังไม่มีชื่อเสียงมากเท่าไร คงเป็นเพราะฝีมือการแสดงของเธอยังไม่เข้าขั้น และเธอมักมีข่าวฉาวเรื่องผู้ชายบ่อยๆ จึงทำให้เธอเด่นเรื่องข่าว (ฉาว) มากกว่างานแสดง และที่สำคัญ...เธอเป็นคู่นอนของผมมาร่วมหนึ่งปีแล้ว ทุกครั้งที่เธอหลับนอนกับผม ผมจะมีรางวัลให้เธอทุกครั้งแต่ต้องแลกกับการเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ห้ามเล่าให้ใครฟัง แม้แต่เพื่อนสนิทก็ตาม
"มาหาผมเดี๋ยวนี้" ผมออกคำสั่ง เพราะทนความต้องการของตัวเองแทบไม่ไหว
[ค่ะ]
"แกร๊ก" เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น หลังจากผมวางสายไปได้สิบนาที ตอนนี้ซูหนี่ยืนอยู่หน้าประตู เธอสวมชุดเดรสสั้นสีดำ ด้านบนแหวกลึกจนเห็นเนินอกขาวๆ ส่วนด้านล่างก็สั้นจนแทบจะเห็นของสงวน
เธอค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ สายตาของเธอที่มองจ้องตรงมา...มันช่างยั่วยวน ชวนให้ผมกระแทกเสียเหลือเกิน
เท้าของเธอหยุดนิ่งไม่เดินต่อไปไหน และไม่นานนัก...เธอก็เริ่มใช้สองมือลูบไล้ตัวเอง เริ่มตั้งแต่ใบหน้า ไล่ลงมาที่คองามระหง จนตอนนี้...สองมือนั้นมาหยุดอยู่ตรงเนินอกคู่งาม เพียงไม่นานเธอก็ค่อยๆ บีบคลึงมันอย่างช้าๆ เพื่อเร้าอารมณ์ชายหนุ่มอย่างผม จากนั้นมือของเธอก็เริ่มรูดซิปด้านหน้าชุดเดรสลง ซิปถูกรูดลงไปตามวิถีทางของมันอย่างช้าๆ จนกระทั่งชุดเดรสเป็นอิสระจากร่างกายเธอ และนั่น...
ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าตอนนี้มันเย้ายวนมาก ทันใดนั้นเป้ากางเกงของผมเริ่มตุงทันที ตอนนี้ร่างกายบอบบางนั้น มีเพียงบราปีกนกสีดำปกปิดดอกบัวคู่งาม และจีสตริงสีดำปกปิดเนินสามเหลี่ยมอิ่มอูมเพียงเท่านั้น หุ่นของเธอช่างยั่วใจชายหนุ่มทุกคนที่ได้เห็น เพราะเธอจัดว่าหุ่นดีมาก ความสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร และน้ำหนักเพียงห้าสิบกิโลกรัม แต่หน้าอกคัพซีกลับดูตรงกันข้ามกับหุ่นอรชร
เธอรู้ดีว่ารสนิยมทางเพศของผมเป็นอย่างไร เพราะเกือบหนึ่งปีมานี้...เธอหลับนอนกับผมอยู่เรื่อยมา ถึงแม้เราสองคนจะไม่ได้มีกิจกรรมทางเพศกันบ่อย แต่เธอก็จับทางผมได้แล้ว แน่นอนว่าเธอเองคงคอยสังเกตความชอบของผม หรือเธออาจเคยผ่านเรื่องนี้มาไม่มากก็น้อย ถึงได้เก่งเรื่องบนเตียงไม่เบา
ขณะที่ผมนั่งอยู่บนโซฟา มือของผมก็ถือแก้ววิสกี้ไปด้วย สายตาของผมมองไปยังเธออย่างเรียบนิ่ง ผมชอบมองดูเธอแสดงการเล้าโลมให้ผมดูก่อน และผมค่อยเข้าไปมีส่วนร่วมในเกมสวาทนี้ภายหลัง
ซูหนี่เดินร่างกายที่แทบจะเปลือยเปล่าไปที่กระเป๋า และเริ่มหยิบบางอย่างออกมา ซึ่งมันคือ...ดิลโด้สีชมพู เธอถือมันและเดินมาหยุดตรงหน้าผม จากนั้นเธอเริ่มค่อยๆ เผยอริมฝีปากออก ไม่นานนักริมฝีปากนั้นก็ครอบครองดิลโด้จนหมดทั้งแท่ง เธอขยับริมฝีปากขึ้นๆ ลงๆ อย่างช้าๆ จนดิลโด้ถูกเคลือบฉ่ำไปด้วยน้ำลายสีใส เธอถอนดิลโด้ออกจากปาก และเริ่มถอดบราปีกนกออก ขณะที่บราร่วงหล่นลงพื้น เธอก็ค่อยๆ ถอดจีสตริงที่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เหลือบนร่างกายออก จนตอนนี้ไม่เหลืออาภรณ์ใดใดอีกแล้ว ตอนนี้ซูหนี่...ยืนร่างกายเปลือยเปล่าต่อหน้าผมเรียบร้อยแล้ว
______________________________________
