บท
ตั้งค่า

Episode-03 น่ารักดี

“วันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอคะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยก่อนจะนั่งลงข้างผม

“ไปค่ะ หนูจะไปกับพี่ไหม”

“ไปค่ะ!!” ฉีกยิ้มกว้างรอเชียวครับ

“ไม่ถามหน่อยเหรอว่าไปไหน?”

“ไม่ถามหรอก ถ้าพี่ชวนแสดงว่าที่นั่นปลอดภัยหนูไปได้” ใช่ครับ ถ้ามันอโคจรหรือรายล้อมไปด้วยสิ่งไม่ดีผมไม่ให้น้องไปอยู่แล้ว

“แต่งตัวสวย ๆ นะ”

“ได้เลย”

สองทุ่มก็มาถึงบ้านไอ้มิวครับ คนเยอะพอสมควร

“งานเลี้ยงอะไรเหรอคะ”

“วันเกิดลุงมัดน่ะ”

“อ๋อ...”

“กูจำได้ว่าเมื่อวานไม่ใช่คนนี้นี่หว่า” เพื่อนในกลุ่มแซวขึ้นเมื่อเห็นผมจูงมือเพียงฝันเข้ามา

“มุขโคตรโบราณเขาเลิกเล่นกันแล้ว”

“ไอ้สัสทำเฉไฉ” สนิทจริง ๆ เท่านั้นแหละครับที่จะรู้ว่าเพียงฝันเป็นน้องสาวผม ส่วนที่เหลือก็คบได้แต่ไม่ได้ถึงขั้นเพื่อนรักเพื่อนตายเท่านั้นเอง

“พี่ ๆ สวัสดีค่ะ”

... : ครับ

เพียงฝันสนิทกับเพื่อนผมเกือบทุกคนครับ ที่ซี้เลยก็ไอ้จุ้นห่าวนั่นแหละ

“ตัวเล็ก ทางนี้” เห็นไหมครับ ผิดจากที่ผมบอกซะที่ไหนกัน แค่เอ่ยปากเรียกเจ้าตัวก็เดินดุ๊กดิ๊กไปนั่งด้วยแล้ว

“ไอ้ปั้นกูมีอะไรจะสารภาพกับมึงด้วยแหละ” คล้อยหลังน้องไอ้มิวก็พูดขึ้น

“ว่า?”

“อย่าโกรธกูนะ”

“พูดมาสิ”

“คือกูไม่รู้ว่าพ่อกูรู้จักกับพ่อพี่เอิง”

“แล้ว?”

“ก็เขามาด้วย คือพ่อกูเชิญไป”

“ช่างสิ เรื่องของเขา” ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ถึงจะเลิกกันได้ไม่นานแต่ผมก็โอเคแล้วครับ ไม่ถึงกับดีขึ้นมากแต่ก็ไม่ได้แย่ลง

เวลาสามปีถามว่านานไหมมันก็นาน ช่วงแรกยอมรับว่าอยู่ไม่ได้ แต่พอนานวันเข้าความรู้สึกมันกลับเฉยไปเอง อาจจะมีบ้างบางเวลาที่เข้าไปส่องโซเชียลของเขา แต่ก็นั่นแหละครับเขาก็มีความสุขดีไม่ได้ทุกข์ร้อนจะเป็นจะตายเหมือนผมด้วยซ้ำ เห็นแบบนั้นก็เลิกสนใจเขาแล้วหันมาสนใจตัวเองจริง ๆ สักที

“กูไม่คิดว่ามึงจะทำใจได้จริง ๆ นะเนี่ย”

“หรือว่ามึงมีสาวน้อยในดวงใจแล้ว?” ไอ้แก้มแทรกขึ้นมาบ้าง “กูว่าต้องใช่แน่ ๆ”

“ไม่มี” ตอบออกไปตามความจริง ที่คุย ๆ ก็มีบ้างแต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นความสัมพันธ์ที่สบายใจกันทั้งสองฝ่ายเพราะไม่ได้เอาหัวใจหรือเอาความรู้สึกลงไปเล่น แค่สนุก ๆ เท่านั้นเอง “พอเลิกสนใจเขาแล้วชีวิตกูง่ายขึ้นเยอะเลย ตอนนั้นประสาทจะแดกทุกวัน เขาคุยกับใคร เขาทำอะไรที่ไหน ระแวง คิดไปต่าง ๆ นา ๆ คงเป็นเพราะตอนนั้นกูเอาหัวใจไปไว้ที่เขามากเกินไปมั้ง แต่ตอนนี้ไม่อะไรแล้วรู้สึกว่าการใช้ชีวิตของตัวเองมีความสุขมากขึ้นเยอะเลย”

“แน่สิ! สาว ๆ รอบเอวขนาดนั้น”

“เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์”

“เอาที่มึงสบายใจเลย เห็นมึงไม่ทำหน้าเบื่อโลกพวกกูก็ดีใจแล้ว”

แค่เพียงไม่นานเอิงเอยก็มาครับ เขาก็มากับครอบครัวเขานั่นแหละ

“ไงเรา”

“สวัสดีครับ” ผมยังคงยกมือไหว้ทักทายพ่อแม่ของเธออย่างเช่นทุกครั้ง

“อาทิตย์หน้าลุงนัดกันไปเที่ยวเราไปด้วยไหม”

“คงไม่ได้ไปครับเพราะอีกสองสามวันนี้ผมต้องฝึกงานแล้ว”

“งั้นไว้คราวหน้าแล้วกันนะ”

“ครับ” บทสนทนาจบลงเพียงเท่านี้ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าเหมือนว่าลุงโอมจะอยากพูดอะไรกับผมนะ แต่ช่างเถอะ!

“เขารู้ไหมว่ามึงเลิกกันแล้ว” ไอ้เคมีเอ่ยหลังจากฟังอยู่นาน

“รู้สิ แต่เขาเป็นเพื่อนรักของพ่อกูไงจะไม่ให้พูดคุยกันเลยมันก็ไม่ได้อีก”

“กูล่ะอึดอัดแทน”

ตอนแรกผมก็อึดอัดครับ มันทำตัวไม่ถูก แต่ตอนนี้เฉย ๆ ผมจะเลิกหรือไม่เลิกกันความสัมพันธ์ของพ่อกับลุงโอมก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดีนั่นแหละ

ทุกอย่างดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงช่วงเวลาของการเป่าเค้ก

... : พี่มิว ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ

น้ำเสียงใสของใครบางคนดังขึ้นก่อนหยุดยืนตรงหน้าผม ไม่รู้ว่าน้องจำได้หรือเปล่าแต่ผมน่ะจำแม่นเลย

“เดี๋ยวกูมานะ” ไอ้มิวหันมาบอกพวกผมแล้วลุกออกไปจากตรงนี้เพื่อไปเตรียมเค้กนั่นแหละ

“สนใจเหรอวะ”

“เปล่า”

“ในโลกใบนี้มึงโกหกใครก็ได้นะ แต่ไม่ใช่พวกกูที่เป็นเพื่อนสนิทมึง” ไอ้แก้มเอ่ยพลางมองตามคนทั้งคู่ไปจนสุดสายตา “นั่นเสียงเพลงน้องสาวไอ้มิวมัน น่าจะรุ่นเดียวกับน้องสาวมึงนั่นแหละ”

“คนนี้เหรอที่มันบอกว่าอกหักร้องไห้สามวันสามคืน”

“เออ มันก็มีอยู่คนเดียวแต่น้องอยู่ต่างจังหวัดกับยายไงเพิ่งย้ายมานี่แหละ”

“อืม เคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยเห็นหน้าจริง ๆ สักที”

“ก็เห็นซะ น่ารักด้วยคิกคิก มึงว่าไง”

“อะไร?”

“พี่กำปั้นคะกูเป็นเพื่อนสนิทมึงค่ะ เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยจนตอนนี้หอยเท่าฝาบ้านแล้ว แค่มองตามึงกูก็รู้แล้วค่ะ”

“ไม่ได้อะไรนี่ ก็น่ารักดี”

“ฮั่นแน่...”

“...”

ตลอดงานผมก็เฮฮาไปตามประสา ดื่มเล่นกันปกติจนเผลอไปสบตากับเอิงเอยโดยไม่ตั้งใจ เรามองหน้ากันนิ่ง ๆ สายตาเธอมันบอกอะไรเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดขณะที่ผมมีแต่ความว่างเปล่า

“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของใครบางคนทำให้ผมละสายตาจากตรงนั้นมาสนใจคนตรงหน้าแทน “พี่จำหนูได้ไหม?” ฉีกยิ้มกว้างจนเห็นเหล็กจัดฟันสีสวยเชียวครับ

“จำได้ครับ”

“ขอโทษอีกครั้งนะคะทำเสื้อพี่เลอะด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ” ผมว่ายิ้ม ๆ “ไม่ยักรู้ว่าเราเป็นน้องไอ้มิวนะเนี่ย”

“ไม่แปลกหรอกค่ะหนูไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะยายขอเลี้ยงเองตั้งแต่เล็ก ๆ เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ” ประโยคยาว ๆ ยังคงเอ่ยออกมาพร้อมกับความสดใส น้องยิ้มเก่งมากครับ “ว่าแต่...ช่างเถอะ” เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เปลี่ยนใจไม่พูดอีก

“แต่อะไร”

“ถามได้เหรอคะ? มันจะดูละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่า”

“ถามมาครับ”

“พี่เจ็บหรือเปล่า หนูเห็นมีเรื่องกัน”

“ไม่หรอก ก็เท่าที่เราเห็นนั่นแหละ”

“จริงเหรอคะ แต่หนูเห็น...”

“เสียงเพลง! ออกห่างจากมันเดี๋ยวนี้เลย” ไม่พูดเปล่าไอ้มิวยังรั้งน้องไปด้านหลังตัวเองอีกด้วย

“มึงทำให้กูดูแย่”

... : ฮ่า ๆ ๆ

“มึงน่ะตัวดีเลย นี่น้องสาวกูห้ามยุ่ง!”

“เมื่อวานน้องมึงชนกู ขอโทษทีพอดีพรหมลิขิตไว้ก่อนแล้ว” ผมว่ายิ้ม ๆ ไม่ได้อะไรแค่กวนประสาทมันเท่านั้นเอง

“ไม่ต้องบอกกูก็รู้ ไม่ต้องรอให้ใครลิขิตหรอก”

“อะไรของมึงวะช่วยขยายความหน่อย” ไอ้เคมีแทรกขึ้นมาบ้าง

“กูเป็นเพื่อนมึงมานานยังไม่เห็นมีผู้หญิงคนไหนทำให้มึงละสายตาจากพี่เอิงได้สักที เพิ่งเห็นก็วันนี้แหละ”

“ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่หว่า ไม่อยู่ในสายตากูก็ถูกแล้ว”

“แต่เป็นน้องกูที่อยู่ในสายตามึงแทน”

“ไร้สาระ!”

“อย่าตกหลุมพรางมันเข้าล่ะ” ถึงกับส่ายหน้าให้ครับ แทนที่จะสนใจคำพูดของผมมันกลับหันไปบอกน้องแทน “ไอ้นี่มันเจ้าชู้”

“เหมือนพี่ใช่ไหมคะ?”

“เสียงเพลง!”

... : ฮ่า ๆ

ยิ่งดึกก็ยิ่งสนุกครับ ผู้ใหญ่ทยอยกลับกันเกือบหมดแล้ว เหลือแต่พวกผมแล้วก็คนอื่นอีกนิดหน่อย

“เดี๋ยวกูมานะ” หันไปบอกพวกมันแล้วแยกตัวออกมาสูบบุหรี่ด้านนอก

“ไหนว่าเลิกแล้วไง”

“...” ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไร แล้วก็ไม่ได้หันไปมองด้วย

“เป็นยังไงบ้าง นายดูผอมลงเยอะเลย”

“ยังไม่ตายสบายดี”

“...”

“มีอะไรจะพูดอีกไหม? ถ้าไม่มีผมขอตัว”

“น้องเสียงเพลงน่ารักดีนะ เห็นนายแอบมองบ่อย ๆ”

“ใช่! น่ารัก”

“...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel