My heart คุณหมอที่รัก

114.0K · จบแล้ว
Plernwalee
56
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"หนู พรุ่งนี้เช้าเราไปจดทะเบียนสมรสกันนะ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกคนบนอกพร้อมกับลูบหัวเบา ๆ "ฮะ!" "เฮียพูดว่า พรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันนะ " "ขอเหตุผลที่เฮียคิดจะทำแบบนั้นได้มั้ยคะ" หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถาม "...เพราะเฮียมั่นใจหนูไง เฮียเลยอยากให้หนูมั่นใจเฮียด้วย" "แล้วถ้าพีชไม่มั่นใจล่ะ??..

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักรักหวานๆรักแรกพบโตมาด้วยเศรษฐีโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นนักศึกษาพ่อเลี้ยง

บทที่ 1 เกริ่นนำ

6 ปีก่อน...

สาวน้อยร่างอวบ สวมแว่นตาหนาเตอะ ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย โรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังของภาคเหนือ เดินมากดออดหน้าบ้านหลังใหญ่กำแพงติดกันพร้อมกับกล่องขนมกล่องใหญ่อย่างยิ้มแย้ม

"มาหาใคร" เสียงห้าวห้วนของลูกชายเจ้าของบ้านดังออกมาจากด้านใน แต่ไม่ยอมเปิดประตูให้เธอเข้าไปในบ้าน ทำให้รอยยิ้มพิมพ์ใจที่ประดับอยู่บนหน้ากลม ๆ แก้มป่อง ๆ เลือนหายกลายเป็นอากาศไปในทันที

"เอ่อ...คือ" เด็กสาวอึกอักก้มมองกล่องขนมในมือตัวเองแบบไม่มั่นใจพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอฝืด ๆ

"ยืนเอ๋อ...อยู่นั่นแหละ ถามว่ามาทำไม?" เสียงห้วนดังขึ้นอีกรอบทำเอาคนตรงหน้าสะดุ้งพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองอึ้ง ๆ

'หนุ่มหล่อหน้าตี๋คนนี้คือ อุเทน หรือ ที่เธอเรียกติดปากว่า เฮียเทน เป็นพี่ข้างบ้านรั้วติดกันกับบ้านของเธอ เฮียเทน เป็นลูกชายคนเล็กของป้าอุ่นกับลุงวินัย ลุงวินัยมีบริษัทสิ่งพิมพ์ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่ย้ายฐานขึ้นมาที่ภาคเหนือ ตามความต้องการของภรรยาของท่าน บ้านเฮียเทนนอกจากมีโรงพิมพ์แล้ว ป้าอุ่นยังมีไร่องุ่นหลายร้อยไร่และมีรีสอร์ตอยู่ในนั้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นคนมีฐานะคนนึงในเมืองเหนือเลยทีเดียว เฮียเทนเป็นคนฉลาดและเรียนเก่งมาก เขาช่วยสอนการบ้านให้เธอประจำตั้งแต่เธอเริ่มเข้าประถม เป็นคนใจดีที่คอยปกป้องเธอเสมอเวลาที่เธอโดนเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน และจะเรียกเธอว่า พิกกี้น้อย ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง เพราะเขาบอกว่าแก้มเธอสีชมพูเหมือนผิวลูกหมูในทีวี

จนขึ้นมัธยม เฮียเทนได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติชื่อดังอันดับต้น ๆ ของประเทศในกรุงเทพ แม่เธอบอกว่าเป็นโรงเรียนผู้ชายล้วนกินนอนที่โรงเรียนแล้วค่าเทอมก็แพงมาก แต่ก็ไม่แปลกเพราะครอบครัวเฮียเทนรวย พี่สาวเฮียเทนก็ยังได้ไปเรียนเมือกนอก นาน ๆ เฮียเทนถึงจะได้กลับบ้าน แต่ความสนิทสนมของทั้งคู่ก็ยังไม่ลดลง จนกระทั่งขึ้น ม.6 เอ้อ เกรด 12 เทอมสุดท้าย เฮียเทนก็เปลี่ยนไปเลย จากคนเคยใจดีก็หน้าบึ้งเดินผ่านก็ไม่ทักทาย ยกมือไหว้ก็ทำเป็นมองไม่เห็น ล่าสุดครั้งสุดท้ายที่เธอได้ยินเฮียเทนพูดดี ๆ (แต่ไม่ได้พูดกับเธอนะ) เช้าวันนั้นเธอรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านได้ยินเสียงเฮียเทนคุยโทรศัพท์เสียงหวานและหัวเราะร่าเริงกับใครซักคน เธอถึงคิดว่ารู้เหตุผลแล้วว่าทำไม เฮียเทนถึงไม่เหมือนเดิม'…

"คะ...คือ พีชเอาขนมมาให้เฮียค่ะ เห็นป้าอุ่นบอกว่าเฮียกลับมาหลายวันแล้ว" ว่าพรางก้มหน้ายื่นกล่องขนมที่เธอลงมือทำเองไปตรงหน้า

"ไม่กิน ฉันไม่ใช่เด็กที่จะกินขนม เอากลับไปซะ!" ว่าพร้อมกับหันหลังจะเดินเข้าบ้าน

"เฮีย... แต่วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ แล้วนี่ก็เป็นช็อคโกแลตที่พีชตั้งใจทำมาให้เฮียเลยโดยเฉพาะเลยนะ"

"เก็บไว้กินเองเถอะยัยพองลม ฉันไม่ร่วมด้วยช่วยอ้วนกับเธอหรอก" ว่าจบเดินเข้าบ้านไม่หันกลับมามองแม้แต่นิด ทำเอาเด็กสาวอ้าปากค้างกับประโยคแรง ๆ ที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่สนิทของเธอ

"โห...แรงว่ะ นี่หรือวะ คนใจดีที่คุณแม่ชมนักหนา แต่ก็คงจะดีกับคนทั้งโลกยกเว้นเรานี่แหละมั้ง ใช่ซี้...เรามันก็แค่ยัยพองลม ยัยพิกกี้ อิหมูชมพู ไม่ได้สวยเหมือนสาวกรุงเทพนี่ เฮ้อ...อุตส่าห์ตั้งใจทำ สุดฝีมือเลยด้วย จำไว้เลยต่อไปอย่าหวังจะได้กินอีก" ว่าพรางนั่งลงหน้าประตูบ้านแล้วหักกิ่งกระถินแถวนั้นมารูดใบออก เปิดกล่องขนมออกแล้วปักกิ่งกระถินบนขนมชิ้นเล็ก ๆ ด้านใน "เอาเป็นว่าธูปไม่มี ใช้กิ่งไม้นี่แทนแล้วกันนะใครจะกินก็กินได้เลยนะ หนูสัญญาว่าจะไม่หันมามอง แล้วก็ไม่ทวงบุญคุณค่ะ ให้กินฟรี" ว่าจบลุกขึ้นยืนปัดมือ หลับตาหันหลังแล้วเดินกลับบ้านตัวเองไป

คล้อยหลังเด็กสาว ร่างสูงโปร่งเดินออกมาจากพุ่มเฟื่องฟ้าหน้าบันไดบ้านก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินออกมาเปิดประตูรั้วบานเล็กมองกล่องขนมที่วางอยู่บนพื้น

"โห...นี่เห็นกูเป็นสัมภเวสีเลยเหรอวะเนี่ย มีปักไม้ด้วย ถ้าอารุ้งไม่ขอเฮียไม่ว่าหนูหรอก ยัยพิกกี้น้อยเอ๊ย" ว่าพร้อมกับก้มลงเก็บกล่องขนมขึ้นมาแล้วดึงกิ่งไม้ออกถือเดินเข้าบ้าน

และตั้งแต่วันนั้น เทน หรือ อุเทน ก็ไม่เคยเจอหน้าเด็กสาวอีกเลย จนเขากลับกรุงเทพแล้วหายไปหลายเดือน กลับบ้านอีกครั้งถึงได้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของครอบครัวเด็กสาว จากการบอกเล่าของผู้เป็นแม่ ว่า แม่ของเธอตรวจเจอมะเร็งระยะสุดท้าย เมื่อช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมา ทำให้แม่เธอเข้าออกโรงพยาบาลบ่อย ๆ โดยให้เพื่อนสนิทเฝ้าร้านให้ แล้วตอนที่แม่ของเธอทรุด เพื่อนสนิทคนนั้นก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะภรรยาอีกคนของพ่อเธอ ยิ่งทำให้แม่ของเธอเสียใจและทรุดลงเร็วขึ้น ไม่นานผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มทยอยเอาของในบ้านออกขายและโยนความผิดมาให้เด็กสาว ก่อนตายคุณทอรุ้งแม่ของเธอได้ขอหย่ากับพ่อของเธอและแบ่งทรัพย์สินกันคนละครึ่ง คราแรกพ่อของเธอไม่ยอมหย่า แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างเขาถึงเซ็นใบหย่าให้ ก่อนภรรยาจะเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน และต่อมาพ่อของเด็กสาวได้มาขอความช่วยเหลือจากเจ้าสัววินัยพ่อของเขาให้ช่วยจัดการโอนบ้านที่อยู่ให้เป็นชื่อลูกสาว ก่อนที่เขาจะจดทะเบียนสมรสใหม่หลังภรรยาเสียได้ไม่กี่วัน และ 2 เดือนก่อนที่เทนจะกลับบ้านเด็กสาวถูกภรรยาใหม่ของพ่อทำร้ายจนต้องนอนโรงพยาบาล ตากับยายของเธอเลยมารับไปอยู่ด้วยและยื่นขอต่อศาลขอเป็นผู้ดูแลและจัดการทรัพย์สินทุกอย่างให้เธอ ซ้ำยังร้องขอให้ศาลสั่งให้พ่อแท้ ๆ ของเธอและภรรยาห้ามเข้าใกล้เด็กสาวอีกเป็นอันขาด

.........//..........

เมื่อ 1 เดือนก่อน....

บ้านทรงไทยล้านนาหลังใหญ่กลางเมือง

ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูห้องทำงานชั้นล่างของบ้านดังขึ้น ปลุกให้คนที่อยู่ในห้องตื่นจากภวังค์ เขาสะดุ้งหันมองประตูแล้วถอนหายใจเบา ๆ วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ จู่ ๆ เหตุการณ์เมื่อ 6 ปีก่อน ก็หวนกลับมาให้เขาได้คิดถึง ชายหนุ่มถอดแว่นสายตาออกวางบนโต๊ะแล้วนวดขมับของตัวเองเบา ๆ มองรูปถ่ายใบเล็กในมือด้วยสายตาที่รู้สึกผิดมากมายกับคนในรูป ทั้งไม่คิดว่าคำพูดของตัวเองในวันนั้นจะทำให้เขาไม่ได้เจอเธออีกเลยจนถึงวันนี้ "อยู่ไหนนะ พิกกี้" เสียงงึมงำกับตัวเองมองรูปเด็กสาวร่างอวบวัยมัธยมต้น ยืนยิ้มกว้างถือดอกไม้ช่อใหญ่ในวันจบ ม.3 ของเธอ ที่เขาเห็นร่วงอยู่หน้าบ้านเธอเมื่อหลายปีก่อนจึงนำมาเข้ากรอบใส่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของตัวเอง

"พ่อเลี้ยงครับ มีคนมาขอพบครับ" เสียงของ คำปัน คนงานในบ้านดังอยู่หน้าประตู ทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย "ใคร..." เสียงทุ้มห้วนดังไม่แรงนักพร้อมกับเปิดลิ้นชักเก็บรูปถ่ายในมือใส่ไว้แล้วล็อคอย่างดี

"คุณพันทากับภรรยาครับพ่อเลี้ยง" เสียงคำปันดังเข้ามาทำให้ชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วกับชื่อผู้ขอพบ เพราะชื่อนี้เป็นชื่อของพ่อคนที่เขากำลังดูรูปถ่ายอยู่เมื่อครู่นี้เอง

"ให้เข้ามาสิ" ชายหนุ่มเอ่ยอนุญาตพร้อมกับหยิบแว่นตามาสวมแล้วเอนหัวพิงพนักเก้าอี้หลับตารอผู้มาเยือนอย่างใจเย็น

"อาพันมีอะไรครับ ถึงมาหาผมถึงบ้าน" เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นทันทีที่ผู้มาขอพบนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงาน แล้วปรายตามองหญิงวัยกลางคนที่ยืนกอดอกอยู่ด้านหลังก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ อย่างไม่สบอารมณ์มากนัก

"เอ่อ...คือ" อาพัน หรือนายพันทาอึกอัก

"คืองี้ค่ะ หลานชาย..." "ผมญาติคุณเหรอ?" เสียงห้วนดังขึ้นพร้อมกับตวัดตามองเชิงตำหนิทันที เขาต้องการคุยกับคนที่มาหาไม่ได้ต้องการคุยกับคนที่มาด้วย หญิงคนดังกล่าวอ้าปากค้างเหมือนไม่เชื่อหู เธอเคยได้ยินมาบ้างว่า พ่อเลี้ยงอุเทน เป็นคนพูดตรง ไม่เกรงใจใคร แต่ก็ไม่คิดว่าจะกล้าพูดภรรยาของคนที่เคยอยู่บ้านติดกันและเพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรกแบบนี้

"คืออาเห็นว่าเทนอยู่กรุงเทพมานาน อาเลยอยากถามว่า....

เอ๊า...เปิดมาก็เตรียมเศร้าเลย ไรท์ทำอะไรลงไป

ฝากติดตามผลงาน เรื่องใหม่ของไรท์ด้วยนะคะ ^_^