บทที่ 4 มีสองทางเลือก
นิวเยียร์ตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่ปวดระบมไปทั้งตัว เธอเปิดผ้าห่มออกแล้วตั้งใจจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ทันใดนั้นเธอก็ตกใจเมื่อเห็นว่าร่างกายของตัวเองไร้เสื้อผ้าปกคลุม หญิงสาวตกใจมากจนรีบดึงผ้าห่มมาคลุมกายไว้เหมือนเดิม
เธอมองไปรอบห้องแล้วพึ่งนึกได้ว่าเมื่อวานนี้เธอถูกจับตัวมาที่นี่ และถูกฌอร์นลงโทษด้วยเรื่องอย่างว่าตลอดทั้งคืน
“นิวเยียร์ แกยังมีชีวิตเหลืออยู่ก็บุญเท่าไหร่แล้ว” เธอบ่นพึมพำอย่างเจ็บปวด
หญิงสาวเปิดผ้าห่มออกแล้วสำรวจร่างกายตัวเอง นอกจากจะระบมไปทั้งตัวแล้ว เธอยังตกใจมากที่เห็นว่าร่างกายมีแต่รอยสีม่วงแดงเต็มไปหมด เธอกอดตัวเองแล้วร้องไห้
“แม่จ๋า หนูพลาดไปแล้ว ฮือฮือ”
หญิงสาวฝืนร่างกายเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานมาก เธออาบน้ำแล้วขัดถูร่างกายอย่างแรง คิดว่ามันจะช่วยลดรอยม่วงแดงบนตัวได้บบ้าง แต่มันไม่ได้ผลเลย รอยนั้นยังอยู่เหมือนเดิม
“หายสิ มันต้องหายสิ” หญิงสาวร้องไห้สะอื้นอย่างสิ้นหวัง เธอจะออกไปพบเจอผู้คนด้วยสภาพแบบนี้ได้ยังไง
“แม่จ๋า หนูขอโทษ หนูอยากกลับบ้าน” หญิงสาวร้องไห้อย่างหนัก ทันใดนั้นภาพตรงหน้าก็เริ่มหมุน เธอรู้สึกเวียนหัวหน้ามืดขณะที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา เธอเดินได้เพียงสองก้าวก็ล้มหมดสติอยู่หน้าห้องน้ำทันที
แม่บ้านเข้ามาเช็กดูนิวเยียร์ตามคำสั่งของฌอร์น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนอนหมดสติิอยู่หน้าห้องน้ำก็รีบออกไปเรียกโนอาให้เข้ามาดูทันที
โนอารีบอุ้มหญิงสาวไปนอนบนเตียงแล้วโทรหาฌอร์นอย่างรวดเร็ว
“บอสครับ คุณนิวเยียร์เป็นลมหมดสตินอนอยู่หน้าห้องน้ำครับ ตอนนี้พาเธอมานอนบนเตียงแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะมีไข้สูงด้วยครับ”
“ตามหมอมาดูอาการเธอหน่อยก็แล้วกัน หลังจากนั้นก็พาเธอไปส่งหอพักด้วย” ฌอร์นสั่ง
“รอให้เธอตื่นก่อนไหมครับ”
“ไม่ต้อง แล้วใครเป็นคนไปเจอเธอตอนหมดสติ” ฌอร์นถามอย่างเคลือบแคลง
“คนรับใช้ครับ”
“เธอใส่เสื้อผ้าไหม?”
“ตอนนั้นไม่ได้ใส่ครับ”
“แล้วใครอุ้มเธอไปนอนบนเตียง?”
“ผมครับ”
“นายอุ้มเธอในขณะที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเหรอ?” น้ำเสียงเขาเริ่มแข็งกระด้าง
“ปะ..เปล่าครับ” โนอารีบแก้ตัว “ตอนนั้นคนรับใช้ใส่เสื้อผ้าให้เธอแล้วครับ”
“หมอดูอาการเสร็จก็ส่งเธอกลับหอพักได้เลย แล้วโอนเงินเข้าบัญชีให้ไอ้จอห์นด้วย”
“รับทราบครับ” โนอาวางสายเสร็จก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ฌอร์นมองนิวเยียร์ที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินไปนั่งข้างเธอ ดวงตาของหญิงสาวยังคงบวมแดงอยู่หลังจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก หน้าผากมีแผ่นเจลลดไข้ติดอยู่
ชายหนุ่มกรวดสายตามองไปยังร่างกายของเธอ ซึ่งตอนนี้มีแต่รอยสีแดงม่วงเต็มไปหมด โดยเฉพาะบริเวณลำคอและหน้าอก
ฌอร์นยิ้มอย่างพึงพอใจ “หลังจากวันนี้ไปฉันจะอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดไป” เขากระซิบข้างหูเธอ
นิวเยียร์ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกประหลาดใจ เธอมองไปรอบๆ ห้องก็พบว่าเป็นห้องนอนของตัวเอง ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ‘แค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง’
หญิงสาวเปิดผ้าห่มออกเพื่อจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนั้นมีอาการปวดเมื่อยไปทั้งตัว
“อ๊ะ! ทำไมปวดเนื้อปวดตัวขนาดนี้นะ” หญิงสาวอุทานออกมาอย่างเจ็บปวด ก้มมองร่างกายตัวเองก็ถึงกับตาค้าง “มันไม่ใช่ความฝัน ฉันถูกไอ้มาเฟียนั่นปู้ยี่ปู้ยำจริงๆ”
นิวเยียร์ทรุดกายนั่งบนเตียงอีกครั้ง สายตาเหลือบไปเห็นถุงยาวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง หญิงสาวรู้สึกราวกับโลกกำลังหยุดหมุน หายใจไม่ทั่วท้อง เธอต้องยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นใช่ไหม?
จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตู หญิงสาวจึงเดินไปเปิดก็เห็นเหมยยืนเท้าเอวมองเธอด้วยสายตาเอาเรื่อง
“ดีมากเลยนะแก นึกว่านอนอืดอยู่ในห้องแล้วซะอีก นี่ถ้าแกไม่เปิดประตู ฉันจะเรียกปอเต็กตึ๊งมาแล้วนะ” เหมยเท้าเอวดุ “แหม๋ พองานสำเร็จและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แกก็ไม่เข้าออฟฟิศเลยนะ”
“เหมย…….” นิวเยียร์เอ่ยเสียงเบา
เหมยไม่ได้สังเกตมองสีหน้าและแววตาของเพื่อน เธอเดินเข้าไปในห้องแล้วนั่งลงที่โซฟาตัวเล็ก
“เหมย…….” นิวเยียร์เอ่ยเรียกเพื่อนอีกครั้ง น้ำเสียงเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง แววตาสั่นไหวจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
เมื่อได้ยินเสียงแผ่วเบาของเพื่อนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ เธอเงยหน้ามองเพื่อนสาวก็เห็นเธอกำลังยืนน้ำตาไหล เหมยรีบลุกขึ้นสวมกอดเพื่อนรักทันที
“นิวเยียร์ แกเป็นอะไร?” เหมยถามอย่างร้อนใจและเป็นห่วง
“เหมย ฉัน….” นิวเยียร์กอดเพื่อนสาวแน่นแล้วปล่อยเสียงร้องไห้ออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เหมยผลักตัวเพื่อนสาวออกเล็กน้อย แล้วกุมไหล่ทั้งสองข้างของเพื่อน เธอสบตานิวเยียร์เพื่อรอคำตอบ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่องรอยบนร่างกายของเพื่อนสาว
“เขา..เขาขืนใจฉัน เหมย….ฉัน….” นิวเยียร์ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“เยียร์ แกหมายถึงใคร? ใครทำร้ายแก?” เหมยตื่นตัวและรู้สึกปวดใจ ใครมันกล้าทำร้ายเพื่อนสาวของเธอแบบนี้ ‘ไอ้ผู้ชายเฮงซวย’
“ฌอร์น..ผู้ชายคนนั้น เขา..เขา..” หญิงสาวพูดต่อไม่ออก เมื่อนึกถึงผู้ชายที่โหดร้ายคนนั้น เธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที ในความทรงจำของเธอที่พึ่งพบเจอมา เขาโหดร้ายและเลือดเย็นมาก ไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย
“ไอ้มาเฟียนั่นเหรอ!” เหมยปิดปากด้วยความตกใจ สำรวจมองร่องรอยบนร่างกายของเพื่อนสาวอีกครั้ง “บ้าไปแล้ว! นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว!”
นิวเยียร์นั่งร้องไห้จนตัวโยน
“เยียร์ ฉันขอโทษ” เหมยรู้สึกผิดที่ไม่ได้เอะใจในเรื่องนี้
เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ไปทำงานก็ควรจะโทรถามสักหน่อย ควรสงสัยตั้งแต่แรกว่าทำไมเพื่อนถึงไม่ไปทำงาน เพราะปกติแล้วนิวเยียร์ไม่เคยขาดงานเลยสักครั้งหากไม่จำเป็นจริงๆ
เหมยมองเพื่อนแล้วรู้สึกสงสาร เธอเคยผ่านเรื่องแบบนี้กับผู้ชายมาก่อน และรู้ดีว่าครั้งแรกของผู้หญิงมันเจ็บปวดมากแค่ไหน ไม่ต้องพูดถึงนิวเยียร์เลยว่าจะเจ็บปวดและเสียใจมากเพียงไร ที่ต้องเสียครั้งแรกให้กับมาเฟียที่โหดร้ายแบบนั้น คนที่ไม่ใช่แฟนหรือแม้กระทั่งคนรักอย่างฌอร์นจะทำแบบทะนุถนอมกับเพื่อนของเธอได้ยังไง
หลังจากที่นิวเยียร์ร้องไห้อยู่นานและได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เพื่อนฟังหมดแล้ว ตอนนี้ทั้งสองก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา จึงต้มบะหมี่แล้วมานั่งทานกันที่โซฟา พร้อมเปิดทีวีดูซีรี่ย์ไปด้วย
“หากใครไม่ได้เผชิญเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเองก็คงไม่รู้ ดังนั้น ตอนนี้แกจะมัวแต่เสียใจอยู่แบบนี้ไม่ได้ แกมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้นคือใช้ชีวิตอยู่ต่อไปตามปกติโดยไม่แคร์อะไรเลย หรือคิดสั้นแล้วฆ่าตัวตายเพื่อหนีเรื่องนี้เพียงเพราะยอมรับความจริงไม่ได้” เหมยเอ่ยอย่างจริงจังเพื่อให้เพื่อนได้สติและไม่จมอยู่กับความทุกข์แบบนี้อีก
นิวเยียร์ครุ่นคิด ที่ผ่านมาเธอก็ทำข่าวแนวนี้มาเยอะเหมือนกัน ดาราสาวหรือศิลปินหญิงหลายคนถูกคนดังหรือเศรษฐีหลอก บางคนต้องกลายเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัว ต้องถูกตราหน้าว่าแย่งสามีชาวบ้าน แต่พวกเธอก็ยังยืนหยัดและเดินหน้าใช้ชีวิตต่อโดยไม่สนคำด่าทอหรือคำดูถูกจากคนบนโซเซียลเลย แล้วทำไมเธอจะผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้ล่ะ เธอต้องผ่านมันไปให้ได้สิ ‘ถือว่าทำทานพรหมจรรย์ตัวเองให้หมาตัวหนึ่งก็แล้วกัน’
“ตอนนี้ไม่มีใครที่จะมีความสามารถช่วยแกได้ทั้งนั้น แม้แกจะเอาผิดฌอร์นแล้วทำให้เขาได้รับการลงโทษ แล้วความจริงที่ว่าแกถูกเขาปู้ยี่ปู้ยำมาล่ะ มันจะลบออกไปจากใจของแกได้จริงเหรอ? มิหนำซ้ำ เหมือนเปิดประเด็นให้คนอื่นมารับรู้เรื่องแบบนี้ของแกด้วย” เหมยเตือนอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันเข้าใจความหวังดีของแกนะเหมย” นิวเยียร์ยิ้ม “ฉันไม่มีทางคิดสั้นเพราะผู้ชายพันนั้นเด็ดขาด เพียงแต่..” หญิงสาวก้มมองร่างกายตัวเอง “ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าออกไปพบเจอใคร แกช่วยลางานให้ฉันหน่อยได้ไหม?” เธอทำตาปริบๆ
“ได้ ฉันจะบอกพี่เมเม่ให้” เหมยเอานิ้วจิ้มไปที่รอยแดงบนคอของเพื่อนสาว “แกคิดว่าฉันจะปล่อยให้แกออกไปทำงานในสภาพแบบนี้เหรอ?”
นิวเยียร์ยิ้มให้เพื่อนอย่างตื้นตัน เหมยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอจริงๆ
“จะว่าไป..นายคนนี้ซาดิสม์ใช่ย่อยเลยนะ ดูสิ ทำกับร่างกายของแกจนไม่เหลือชิ้นดีเลย” เหมยเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
“ก็เป็นมาเฟียนิ ทั้งโหด ทั้งซาดิสม์ พลิกฉันไปมาทั้งคืน อย่างกับไม่เคยเจอผู้หญิงมาก่อนงั้นแหละ”
เหมยขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบ “แกว่า..เราหาผู้หญิงสวยๆ ที่ติดโรคแล้วเอาไปล่อเขาดีไหม ให้มันป่วยติดโรคตายไปเลย” เธอพูดเล่นๆ
“แกยังไม่รู้ถึงความโหดร้ายและซาดิสม์ของเขาอีกเหรอ? หรือแกอยากโดนแบบฉัน” นิวเยียร์ใช้นิ้วดีดหน้าผากเพื่อนเบาๆ
“ไม่เอาง่ะ” เหมยรีบส่ายหัว “แค่เห็นสภาพของแกฉันก็ไม่อยากคิดต่อแล้ว”
ทั้งสองคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ตอนนี้สภาพจิตใจของนิวเยียร์ดีขึ้นมากแล้ว
“แล้วนี่แกได้กินยาป้องกันไว้หรือยัง?”
“ยาอะไร?” นิวเยียร์ไม่เข้าใจ
“ก็ยาคุมฉุกเฉินไง เขาให้กินภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ยาถึงจะออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด”
“ฉันไม่ได้กิน ฉันไม่รู้” นิวเยียร์ทำหน้าตระหนกตกใจ
“งั้นแกต้องรีบซื้อมากินเลย”
นิวเยียร์มองหน้าเพื่อนแล้วนึกถึงเรื่องของเพื่อนที่เคยผ่านการมีลูกมาแล้วก็เข้าใจ
“เหมย แกเลี้ยงลูกคนเดียวลำบากมากใช่ไหม?” น้ำเสียงเธอเศร้าเล็กน้อย
************************
...น้องโนสนโนแคร์แล้วนะ
...น้องจะคิดว่าทำทานพรหมจรรย์ให้หมาตัวหนึ่ง
...อิมาเฟียจะรู้ตัวกี่โมงว่าตัวเองกลายเป็นหมาไปแล้ว
