บท
ตั้งค่า

Chapter 4

เช้าวันต่อมา…

น้ำมนต์ตื่นนอนแต่เช้ามาทำอาหารช่วยแม่ เป็นเด็กที่ดื้อมากสำหรับน้ำผิงบอกให้นอนพักผ่อนเยอะๆไม่ต้องมาช่วยก็ไม่ฟัง เธอไม่เคยคิดอยากจะให้ลูกมาลำบากแบบนี้เลย แต่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ

“แม่บอกว่าให้นอนพักเยอะๆ วันนี้ก็ต้องไปเรียนอีกทำไมถึงไม่ฟังเลย เมื่อคืนก็ไลฟ์ขายของถึงดึกทำไมหนูจะต้องทำให้ตัวเองเหนื่อยขนาดนั้นลูก”

น้ำผิงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่รู้ว่าลูกทำไปเพื่ออะไร ทุกวันนี้เงินเดือนเธอสามารถให้ลูกกินอยู่ได้สบายไม่ต้องลำบากทำงาน ถึงจะไม่หรูหราแต่พอเลี้ยงดูกันเองสองแม่ลูกได้ไม่เดือดร้อนใคร

“หนูกำลังเก็บเงินเพื่อนบ้านหลังใหม่ของเราไงจ้ะแม่ อดทนอีกนิดนะถ้าหนูเรียนจบได้งานทำจะซื้อบ้านให้แม่ แล้วเราย้ายออกไปอยู่ด้วยกันนะ”

เธอเอ่ยออกมาเสียงสดใส แค่คิดว่าจะได้มีความสุขกันสองแม่ลูกมันก็ทำให้หัวใจของเธอชุ่มชื่นอย่างประหลาด มีแรงที่จะทำงานต่อไปอีกเรื่อยๆ

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ลูก ถ้าหนูอยากออกไปอยู่ข้างนอกเราเช่าบ้านกันก็ได้”

“ไม่ค่ะ ถ้าจะเช่าอยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะเปลืองเงินค่ะ”

น้ำผิงมองลูกสาวก่อนจะส่่ายหน้าอย่างปลงๆ น้ำมนต์ช่วยคุณแม่ซักพักก็รีบไปแต่งตัวเพราะมีเรียนเช้าตอนเก้าโมง เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็สะพายกระเป๋าเดินเข้ามาในบ้านใหญ่ เดินไปกอดแม่หอมแก้มซ้ายขวาเพื่อขอคำอวยพร

“ไปเรียนแล้วจ้ะแม่อวยพรหน่อย”

“ตั้งใจเรียนนะลูก เดินทางปลอดภัย”

“จ้ะแม่ งั้นหนูไปลาคุณหญิงป้าก่อนนะ”

น้ำผิงพยักหน้าก่อนจะเดินไปพร้อมกับลูกสาวซึ่งตอนนี้คุณท่านทั้งสองอยู่ในห้องอาหารกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่

“อ่าวหนูน้ำมนต์จะไปเรียนแล้วเหรอลูก”

“ค่ะงั้นน้ำมนต์ไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณลุงดล สวัสดีค่ะคุณหญิงป้า”

ทั้งสองคนรับไหว้ลุงดลจึงชวนเด็กสาวมาทานข้าวด้วยกันก่อน แล้วจะให้ลูกชายไปส่งยังไงก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว

“หนูน้ำมนต์มาทานข้าวกับลุงก่อนมั้ย เดี๋ยวให้พี่เขาไปส่ง”

หญิงสาวรีบปฏิเสธทันที ใครจะกล้าไปร่วมโต๊ะกับพวกท่านล่ะ ถึงแม้จะเคยหลายครั้งแต่แม่เคยบอกว่ามันไม่เหมาะสม เราเป็นลูกจ้างไม่ควรไปตีตนเสมอเจ้านาย

“มะ..ไม่เป็นอะไรค่ะน้ำมนต์ยังไม่หิวเลย อีกอย่างไม่อยากรบกวนเฮียนนท์ด้วยค่ะ”

“รบกวนอะไรอีกละยัยน้ำเน่า”

นนท์ที่เดินมาจากชั้นบนถือเสื้อสูทเดินเข้ามาในห้องอาหาร เขาพอจะได้ยินรางๆว่าวันนี้ต้องไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัย ทางผ่านก็ว่าได้ไม่ไกลจากกันมากนัก

“เปล่าค่ะ งั้นน้ำมนต์ไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ”

เธอยิ้มแห้งก่อนจะรีบหันหลังเดินออกไปทันที นนท์ดึงมือเธอให้เดินตามมาก่อนจะจับนั่งลงข้างๆเขาที่โต๊ะ

“กินข้าวสิเสร็จจะไปส่ง พี่เดือนตักข้าวให้น้ำมนต์ด้วย”

“คือว่าหนู…”

เธอรู้สึกลำบากใจที่ต้องร่วมโต๊ะกับทั้งสามคน ความรู้สึกเกรงใจและไม่กล้าจะไปนั่งอยู่ระดับเดียวกับพวกเขามันทำให้เธออึดอัดใจ เธอหันไปมองคุณแม่ท่านไม่ว่าอะไรเพราะเป็นความต้องการของคุณๆทั้งสามคน

“กินเถอะจะได้รีบไป เดือนเอาน้ำเย็นมาให้หนูน้ำมนต์อีกแก้วด้วย ว่าแต่ลุงลืมถามเลยว่าหนูฝึกงานที่ไหนนะ”

“ว่าจะไป W Channel ค่ะ”

“บอกว่าให้มาฝึกที่ช่องไง เธอนี่พูดไม่รู้เรื่องจริงๆ”

เขาบ่นออกมาอย่างเสียอารมณ์ เมื่อวานอุตส่าห์บอกแล้วนะว่าให้มาฝึกที่เขาก็ยังดึงดันจะไปที่อื่นจนได้ น้ำมนต์หันไปมองทุกคนก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

“น้ำมนต์หมายถึงตอนแรกค่ะ แต่ว่าตอนนี้จะไปยื่นที่ NBC Channel ค่ะ”

“ดีแล้วฝึกกับพี่เขานั่นแหละ จะได้ให้ความรู้กันได้เวลาไม่เข้าใจตรงไหน”

“ค่ะคุณลุงดล”

น้ำมนต์ยิ้มรับก่อนจะหันไปมองจานข้าวตรงหน้า คุณหญิงตักกับข้าวใส่จานให้เด็กสาวหลายอย่าง เธอไม่ค่อยได้ทานข้าวกับน้ำมนต์เลยไม่รู้ว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร

“กินเยอะๆนะหนูน้ำมนต์”

“ขอบคุณค่ะคุณหญิงป้า”

หญิงสาวเขี่ยอาหารในจานก่อนจะค่อยๆตักกินอย่างเรียบร้อย นนท์เหลือบสายตามองหญิงสาวก่อนจะหลุดขำออกมาทันที

“ถ้าไม่ชอบก็เขี่ยออก ไม่ต้องฝืนกินหรอก”

“คะ… ชอบสิคะน้ำมนต์กินได้”

เธอสวนกลับมาทันที ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบกินกุ้งแต่ว่าคุณหญิงป้าอุตส่าห์ตักให้เธอก็ต้องกินไม่ให้เสียน้ำใจ

“เธอไม่ชอบกินกุ้ง ผักนี้ก็ไม่กิน คราวหลังบอกแม่ท่านจะได้ไม่ตักให้”

เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ดูก็รู้ว่ากำลังจะฝืนกินเพราะเกรงใจแม่ของเขา คุณหญิงหันไปมองทั้งสองคนก่อนจะเอ่ยถามทันที

“หนูไม่กินกุ้งเหรอลูก”

“ไม่ชอบกินเฉยๆค่ะ แต่ว่ากินได้นะคะ”

“ตายแล้ว ป้าก็ไม่รู้นะสิตักให้เยอะเลย กุ้งของชอบตานนท์เค้าเลยนะนั่น”

คุณหญิงเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม เห็นทะเลาะกันทุกวันไม่คิดว่าจะรู้ใจกันด้วย แต่ก็ว่าไม่ได้สองคนไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยจะรู้ก็ไม่แปลก ส่วนเธอไม่ค่อยได้กินข้าวกับน้ำมนต์เท่าไหร่ อาจจะเพราะเธอไม่ค่อยมาหาเวลาทานข้าวคงกลัวถูกชวนมาร่วมโต๊ะด้วย นิสัยขี้เกรงใจเหมือนแม่ไม่มีผิด

“เอานี่ไปกินแลกกัน ห้ามเอากุ้งฉันไปทิ้งเด็ดขาด”

เขาตักหมูให้เธอแทนก่อนจะเอากุ้งจากจานของเธอมาไว้ในจานของตัวเองทั้งหมด เสียดายของเฉยๆหรอกนะของโปรดทั้งนั้นใครจะไปทิ้งลงกันล่ะ

“ขอบคุณค่ะ”

น้ำมนต์มองสบตากับเขาก่อนจะยิ้มออกมา นนท์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะตักกับข้าวกินต่อ คุณหญิงกับสามีอมยิ้มมองหน้ากันทันที นี่ถ้าไม่รู้จักทั้งสองคนนึกว่าสามีภรรยากัน รู้ใจกันดีขนาดนี้สมแล้วที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก

ใช้เวลาร่วมโต๊ะเกือบยี่สิบนาที ทั้งสองคนก็เดินออกไปขึ้นรถพร้อมเดินทาง น้ำมนต์หันไปมองชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างเอาใจ เขาใจดีกับเธอตั้งแต่เมื่อวานแล้วต้องตอบแทนซะหน่อย

“เฮียนนท์กินกาแฟมั้ยคะเดี๋ยวน้ำมนต์ลงไปซื้อให้”

“เอาสิลงไปด้วยกัน เดี๋ยวไปกินหน้ามหาวิทยาลัยเธอก็ได้ อร่อยดี”

“ได้ค่ะ ร้านนั้นก็ได้”

เธอยิ้มออกมาก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเครื่องรางนำโชคที่มีเอาใส่กระเป๋าเสื้อสูทให้เขาตรงหน้าอก ชายหนุ่มก้มมองการกระทำของเธอก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย

“เอาอะไรมาใส่ให้ฉันเนี่ย”

“เครื่องรางนำโชคค่ะ เฮียนนท์จะได้โชคดีไง”

“ไร้สาระ”

เขาเอ่ยออกมาเสียงรำคาญแต่ก็ไม่ได้หยิบออกเอามาคืนเธอแต่อย่างใด น้ำมนต์อมยิ้มมองเขาตาแป๋วถือซะว่าเขายอมรับไปแล้วนะ

“ไร้สาระอะไรคอยดูสิวันนี้เฮียนนท์จะโชคดีทั้งวันเลยค่ะ คิคิ”

“มันจะโชคดียังไง ฉันซวยตั้งแต่เมื่อวานละ เหอะ!”

“ซวยยังไงเหรอคะ”

น้ำมนต์เอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อวานเขาบอกว่าเซ็นสัญญาราบรื่นดีไม่ใช่เหรอแล้วมันจะซวยยังไงล่ะ ชายหนุ่มนึกได้ว่าเผลอหลุดปากก็รีบแถเปลี่ยนเรื่องทันที

“ปะ…เปล่า ฉันหมายถึงทั่วไปอ่ะ”

“ทั่วไปยังไงคะ”

“ถามเยอะรำคาญ นั่งเงียบๆหน่อย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel