MY MAFIA ยอมจำนนให้นายมาเฟีย

121.0K · จบแล้ว
AngelBell
41
บท
47.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สัญญานั้นกลายเป็นสัญญาผูกมัดให้ 'แพรดาว' ต้องตกเป็นผู้หญิงของ 'เวลตัน' ไปตลอดชีวิต

นิยายรักโรแมนติกนิยายแอคชั่นนิยายรักนิยายปัจจุบันดราม่ามาเฟียเศรษฐีโรแมนติกเด็กเรียน21+

Intro

INTRO

- สามปีที่แล้ว -

@ประเทศฮ่องกง

ในดินแดนต่างประเทศและผู้คนมากมายมากหน้าหลายตา หญิงสาวใบหน้าหวานไม่ประสีประสาวัยสิบเก้าปียืนท่ามกลางเมืองใหญ่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี ใบหน้าเล็กมองทางรอบๆด้วบความประหม่าสายตากวาดมองข้างทางพรางนึกสงสัยเต็มหัวไปหมด

"ยัยแพรเอ้ยแล้วจะกลับคอนโดยังไงล่ะเนี่ย" เธอเอ่ยพึมพำคนเดียวเมื่อยืนอยู่หน้าตึกสูงกลางเมืิอง เธอออกมาซื้อของเข้าครัวแต่ก็ไม่คิดเลยว่าจะกลับไม่ถูกแบบนี้

แพร หรือ แพรดาว หญิงสาววัยสิบเก้าปี ผู้มีเจ้าของใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ผิวขาว นิสัยเรียบร้อย หัวอ่อน แต่ไม่ยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ เธอได้ทุนมาเรียนต่อที่นี่หนึ่งปีในสาขาวิชารัฐศาสตร์ ภาคความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ร่างบางเดินไปตามทางเพื่อหารถแท็กซี่หวังว่าจะรีบกลับที่พักของเธอเสียที เธอเองก็ไม่ใช่คนที่นี่ หนทางก็ยังไม่คุ้นชินสักเท่าไหร่

ร่างบางเดินมองรอบๆโดยไม่ทันระวังทางข้างหน้า จนกระทั่ง...

ตุ้บ!

ร่างของเธอเผลอไปชนกลับใครคนหนึ่งเข้าอย่างแรง แต่ไม่ทันที่เธอจะเสียหลักล้มลงกับพื้นมือหนาก็โอบร่างเธอไว้ได้ทัน

"ระวังหน่อย" เสียงทุ้มเอ่ยเมื่อคว้าร่างเธอเอาไว้ได้

"ขะ ขอโทษค่ะ..." เธอทรงตัวให้ออกจากแขนของเขาก่อนจะก้มศีรษะลงอย่างรู้สึกผิด เธอเองก็เดินไม่มองทางเลยทำให้เดินชนอื่นแบบนี้

"...พี่ ใช่พี่..." เมื่อเธอเงยหน้ามองคนตรงหน้าทำให้เธอถึงกับชะงักเพราะใบหน้าของเขาเหมือนคนที่เธอรู้จัก

"..." ร่างสูงมองเธอนิ่งไม่กล่าวคำใดๆออกมา เสียงถอนหายใจถูกผ่อนออกมาอย่างนึกรำคาญคนตรงหน้า

"ปืน!!" จังหวะที่เธอก้มหน้างุดทำให้สายตาของเธอไปเห็นกับปืนพกที่อยู่เหนือกางเกงของเขา เสียงเล็กพูดขึ้นด้วยความตกใจเพราะเธอไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน

หมับ!

ชายชุดดำรีบเข้ามาล็อคตัวเธอไว้เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มคุกคามคนเป็นเจ้านายมากเกินไป

"อื้อออ" เธอร้องขึ้นเมื่อถูกล็อคแขนและปิดปากเอาไว้ ร่างบางพยายามสะบัดเพื่อให้ออกจากการเกาะกุมแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะแรงของเธอกับผู้ชายชุดดำนั้นต่างจากเธอมาก

"ให้จัดการปิดปากเลยไหมครับ" ชายชุดดำเอ่ยถามคนเป็นนายที่ยืนกอดอกมองเธอด้วยสายตานิ่งเรียบที่ยากจะคาดเดา

"ไม่ต้อง"

"อื้ออ!" เธอมองคนตรงหน้าเพื่อจะพูดอะไรบางอย่าง เธอมั่นใจว่าเขาคือคนที่เธอรู้จักแน่ๆ

"รีบไป เดี๋ยวสาย" เสียงเข้มเอ่ยทำให้ชายขุดดำยอมปล่อยตัวเธอในที่สุด

"พี่ใช่พี่เวลตันรึเปล่าคะ" เธอถามออกไปเมื่อร่างกายเป็นอิสระ ร่างสูงเมื่ิได้ยินคำถามนั้นเขาหันกลับมามองเธอนิ่งๆ

"..."

"อะเอ่อ...คุณเวลตัน...ฉันแพรดาวค่ะ น้องสาวพี่เพลงแฟนพี่ลุค" เธอเปลี่ยนสรรพนามทันทีที่เจอสายตาของเขา เธอลืมตัวไปว่าเขาเองคงไม่ชอบให้ใครมาตีสนิทแบบนี้

"..."

"แพร! ยัยแพร!" เสียงเล็กจากทางด้านหลังของเธอตะโกนเรียกเป็นภาษาอังกฤษทำให้เธอหันไปยังต้นเสียงก็พบว่าเป็นเพื่อนของเธอที่บังเอิญเจอกันพอดี

"หลิน" เธอเรียกชื่อเพื่อนของเธอเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ

"ไปได้แล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยกับลูกน้องก่อนจะขึ้นรถยนต์คันหรูไปโดยที่เขายังไม่ตอบคำถามของเธอ ใบหน้าหวานมองตามร่างสูงที่เดินผ่านเธอไปราวกับเธอไม่มีตัวตน แม้ว่าในใจจะสงสัยแค่ไหนก็ตาม

"มาทำอะไรตรงนี้" เพื่อนสาวเอ่ยขึ้น

"เอ่อ...ฉันออกมาซื้อของน่ะ แต่ดันหาทางกลับไม่ได้" เธอเลิกสนใจกับเขาคนนั้นก่อนจะหันไปตอบเพื่อนสนิทเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน

เธอเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงอาทิตย์แถมภาษาก็ยังไม่ได้ โชคดีที่เพื่อนของเธอพูดภาษาอังกฤษได้ทำให้สื่อสารกันรู้เรื่อง

"แล้วเมื่อกี้ใครหรอ ทำไมดูน่ากลัวจัง"

"ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่เดินชนเขาเฉยๆ"

"งั้นไปกัน เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่คอนโดเอง" เสียงเล็กพูดพร้อมรอยยิ้มมือเล็กเกี่ยวที่แขนของหญิงสาวก่อนจะออกแรงเดินนำเธอไปในที่สุด

"แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่หรอ" แพรดาวถามเพื่อนสนิท

"มาซื้อของน่ะสิ ไม่คิดว่าจะเจอเธอเหมือนกัน เอางี้เดี๋ยววันนี้ฉันจะพาเธอทัวร์เอง เผื่อครั้งต่อไปเธอมาจะได้ไม่หลงอีก"

"อื้ม ดีเหมือนกัน^^"

"คืนนี้ลี่จัดงานปาร์ตี้ที่โรงแรม ไปด้วยกันนะแพร"

"ปาร์ตี้อะไรหรอ" หญิงสาวถามด้วยความสงสัย

"วันเกิดน่ะ ไปด้วยกันนะ ฉันไม่มีเพื่อนไปเลย"

"แต่ฉันกับลี่เราไม่ได้สนิทกันสักหน่อย ฉันกลัวว่า..."

"ไม่เป็นไรหรอกน่า ยัยลี่ไม่ว่าหรอก ฉันว่ายัยนั่นคงจะสนใจแต่ผู้ชายในงานมากกว่าฉันซะอีก"

"ก็ได้..." เธอตอบเสียงแผ่ว เพราะเธอเองก็ไม่ได้รู้จักลี่เป็นการส่วนตัวมากเท่าไหร่ เจอกันเพียงในคลาสเรียนเท่านั้น

อีกด้าน

ภายในรถยนต์คันหรูกำลังแล่นไปตามท้องถนนโดยที่คนภายในรถทอดมองข้างทางพรางใช้ความคิดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่

"เด็กคนเมื่อกี้รู้จักเฮียหรอครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามคนเป็นเจ้านายขึ้น

"..." เขาไม่ตอบแต่กลับนึกเธอ หญิงสาวที่เดินชนเขา

"เธอพูดภาษาไทยใช่ไหมครับ"

"ไอ้เฉิน มึงจะถามมากทำไมวะ รีบขับไปได้แล้ว ถ้าไปถึงช้ามึงโดนแน่" คนเป็นนายเอ่ยคาดโทษลูกน้องคนสนิทเมื่อถูกถามในคำถามที่เขาไม่อยากตอบ

เขาเองก็รู้จักเด็กสาวคนนั้นแต่ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่เขาจะต้องทักทาย เพราะเธอคนนั้นคือน้องสาวของผู้หญิงที่เขาชอบ เขาเพียงบังเอิญเจอเธอเป็นครั้งคราวตอนอยู่ที่ไทยเท่านั้นแหละ

ไม่นานรถยนต์คันหรูขับเคลื่อนมาที่ตึกแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เหล่าชายชุดดำออกมายืนรอคนบนรถด้วยความเป็นระเบียบ เมื่อคนในรถออกมาชายชุดดำโค้งศีรษะเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพกับผู้เป็นนายใหญ่

ร่างสูงล้วงกระเป๋าก่อนจะเดินเข้าไปข้างในด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ลูกน้องคนสนิทก็คอยเดินตามคนเป็นนายขึ้นไปชั้นบนไปในที่สุด

เมื่อร่างสูงเข้ามาในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยผู้ร่วมลงทุนมากมาย เขานั่งลงที่หัวโต๊ะในตำแหน่งประธานบริษัทที่คนส่วนใหญ่แต่งตั้งให้เขาได้รับตำแหน่งนี้เนื่องจากเขามีความน่าเชื่อถือและมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก

"เริ่มได้เลย" เสียงทุ้มเอ่ยหลังจากนั้นไฟก็สลัวพร้อมหน้าจอโปรเจ็คเตอร์ถูกฉายขึ้น

การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมในเรื่องของธุรกิจที่พวกเขาได้ร่วมลงทุนกันซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งนั้นก็คือ 'การค้าอาวุธ'

กิจการเหล่านี้สนับสนุนโดนรัฐบาลของประเทศและแน่นอนว่าถูกกฎหมาย เขาจะส่งอาวุธไปขายให้กับต่างประเทศซึ่งรัฐจะถือหุ้นเพียง 3% เท่านั้น ทำให้ผู้ร่วมลงทุนก็จะเป็นเหล่าผู้มีอิทธิพลหรือไม่ก็อดีตมาเฟียที่ผันตัวมาทำธุรกิจ

ซึ่งกิจการแบบนี้คงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าร่วมลงทุนสักเท่าไหร่นอกจากเหล่ามาเฟียอย่างพวกเขา

ใช้เวลาถึงสามชั่วโมงในการประชุมทั้งหมดค่อยๆเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเนื่องจากทราบข่าวว่าในปีหน้าเงินปันผลมากกว่าทุกๆปีถีึง 20% ทำให้พวกเขาต้องปรับแผนใหม่ในการส่งออกส่ง

"เฮียจะไปไหนต่อรึเปล่าครับ" เฉินลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้นหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น

"ไปโรงแรมไอ้พอร์ช" คนเป็นนายตอบนิ่งๆและเดินนำออกจากห้องไป

เฉินเตรียมรถเรียบร้อยผู้เป็นนายเดินขึ้นรถท่ามกลางเหล้าลูกน้องที่ออกมายืนรอ รถยนต์คันหรูแล่นออกไปด้วยความเร็วปกติตรงไปยังปลายทางที่เขาไปบอกไว้ในตอนแรก

@P-HOTEL

ร่างสูงเดินลงจากรถตามด้วยลูกน้องที่เดินตามกันจำนวนสี่คน ทำให้แขกที่มาพักหรือไม่เง้นแม้แต่พนักงานก็ต่างจับจ้องกับร่างสูงโปร่งนั้นไม่วางตา เขาสวมแว่นตาสีดำชุดสูท อีกทั้งส่วนสูงและใบหน้าที่โดดเด่นทำให้เป็นจุดสนใจมากกว่าปกติ

ขายาวก้าวเข้าไปในลิฟต์ด้วยใบหน้านิ่งเขากดไปยังชั้นสิบแปดซึ่งเป็นชั้นที่พวกเขาชอบมาสังสรรค์กันอยู่บ่อยๆ ซึ่งชั้นนี้จะเป็นห้องทำงานจัดปาร์ตี้โดยเฉพาะแบ่งเป็นห้องๆแต่ก็มีความเป็นส่วนตัวอย่างมาก

เมื่อลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการคนตัวโตเดินตรงไปยังห้องประจำซึ่งผ่านห้องๆหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหล่าหันไปมองยังห้องนั้นที่ส่งเสียงออกมาค่อนข้างดังรบกวนด้านนอก แม้ว่าห้องจะเก็บเสียงตามมาตรฐานแต่คนในห้องนั้นก็มากเกินที่จะรับไหวอยู่ดี

คนตัวโตขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองไปที่ห้องน้้นและเกิดความไม่พอใจที่เสียงรบกวนพวกนี้จะดังมาถึงห้องสังสรรค์ของเขา แต่ก็กลับทำอะไรไม่ได้มากเขาจึงรีบเดินไปที่ห้องของตัวเองซึ่งมีเพื่อนของเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว

"กว่าจะมาได้" เมื่อเข้าไปในห้องเสียงของเพื่อนสนิทก็เอ่ยขึ้น

ร่างสูงนั่งที่โซฟาตัวยางก่อนจะหันไปลอกลูกน้องที่เดินตามเขามานิ่งๆ

"ถ้าเสร็จเดี๋ยวกูเรียก" เหล่าลูกน้องโค้งศีรษะตอบรับก่อนจะเดินออกจากห้องไป

สายตาคมมองไปที่เพื่อนสนิทของเขาอีกคนที่กำลังแทงสนุ้กกับหญิงสาวที่เขาเรียกมาบริการด้วยความสนิทสนม ส่วนอีกคนก็นั่งอยู่ที่โซฟาตรงข้ามเขาโดยมีผู้หญิงของข้างกายเช่นกัน

"เพิ่งประชุมเสร็จ" เสียงเข้มตอบก่อนจะเอนกายพิงด้านหลังด้วยความเหนื่อยล้า เขาหลับตาเพื่อพักสายตาชั่วครู่เนื่องจากจดจ้องกับหน้าจออิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน

ตรงที่นั่งตรงข้ามพยักหน้ากับหญิงสาวเล็กน้อยเพื่อเป็นการบอกให้เธอไปหากับเพื่อนสนิท เธอเอฃก็ทำตามอย่างว่าง่าย ร่างระหงเดินอ้อมหลังของชายหนุ่มก่อนจะวางมือลงบนบ่ากว้างเบาๆเพื่อนวดผ่อนคลายให้คนตัวโต

"กูเหนื่อยแทน" ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเขาขยับตัวขึ้นเพื่อให้หญิงสาวนวดเขาได้ถนัดขึ้น

"ห้องด้านหน้าเสียงโคตรดัง"

"เด็กมันจัดวันเกิดกัน ก็เสียงดังเป็นธรรมดา"

"กูเดินผ่านหนวกหูชิบ"

"มึงจะไปสนใจทำทำไมไอ้เวล มึงก็รีบเดินให้ไวก็ไม่ได้ยินแล้ว"

"ก็กูรำคาญ"

"เฮียเวลตันครับ นั่นลูกค้ากูครับ..."

'เวลตัล' หรือ 'เวลตัน หวัง' มาเฟียหนุ่มผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศ เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายและรวมถึงธุรกิจสีเทาที่กฎหมายไม่สามารถเล่นงานเขาได้เนื่องจากธุรกิจของเขาเป็นแหล่งเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของประเทศมี่สามารถสร้างรายได้มากหลายพันล้าน เขามีใบหน้าหล่อเหลา ผิวขาวจัด หน้าคมกรามชัด นิสัยนิ่ง โหดเหี้ยม และไม่ยอมใคร

"...พ่อเขาจองห้องให้ลูกสาวจัดงานวันเกิด เป็นถึงลูกทูตเลยนะเว้ย"

"แล้วไงวะ ไอ้พอร์ชมึงเลือกรับบ้างเหอะ เด็กพวกนี้แม่งโคตรน่ารำคาญ"

"พอๆ กูไม่อยากเถียงกับมึง" คนตรงหน้าตัดปัญหาเพราะไม่อยากจะมีปากเสียงกับเพื่อนสนิท

"ไอ้ลัน มึงไม่คิดจะสนใจพวกกูเลยรึไง" เวลตัลเอ่ยกับเพื่อนสนิทอีกคนที่มังแต่สนใจกับผู้หญิง

"แล้วพวกมึงน่าสนใจมากรึไงวะ"

"ไอ้เวรนี่" พอร์ชหันไปบ่นทำให้เขายอมผละจากหญิงสาวและเดินมาหาพวกเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นัก

"มึงเลิกชอบเมียไอ้ลุคยังวะ" ทันทีที่อลันเพื่อนของเขาหย่อนกายลงโซฟาเขาก็ถามขึ้น

"ไม่ใช่เมีย" เวลตันตอบนิ่งๆตามสไตล์ ซึ่งเพลงที่ว่าก็คือหญิงสาวที่ทำงานที่อู่ของลุคผู้ร่วมถือหุ้นคาสิโนของเขา

เวลตันรู้สึกประทับใจเธอคนนั้นทั้งที่เขาเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไม รู้เพียงแค่ว่าเธอเด็ดเดี่ยว กล้าหาญเอามากๆ แต่พอเข้ารู้ว่าเพลงนั้นกำลังคบกับลุคหุ้นส่วนของเขานั้นเวลตันก็เลยถอดใจ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้คิดอยากจะแย่งเธอมาอยู่แล้ว เขาเพียงแค่รู้สึกว้าวกับในตัวตนของเธอก็เท่านั้น

"ไม่ใช่ก็เหมือนใช่"

"เออ มันหวงเมียขนาดนั้น แค่มึงเข้าใกล้ก็แยกเขี้ยวใส่ละ"

"ปั่นหัวมันเล่นสนุกดี" เขาตอบไปตามความจริง เขาเห็นว่าลุคนั้นโมโหทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้เธอเขาก็เลยแกล้งหยอกให้หึงเล่นๆ ซึ่งมันก็ได้ผลแฟนหนุ่มหึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

"งี้มาเฟียของเราก็ถูกหักอกอะดิ" เวลตันที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับถอนหายใจและส่ายหน้าเบาๆอย่างเอือมระอา

เขาไม่ได้รู้สึกกับใครง่ายขนาดนั้นะ...

"โทรเรียกคู่ขามึงมาดิ ย้อมใจจากการโดนหักอก" พอร์ชและอลันนั่งขำเมื่อสามารถหยอกล้อเพื่อนสนิทของเขาให้โมโหได้ พวกเขาจึงหยิบยกเรื่องคู่ขาคนสนิทของเวลตันมาพูดถึง ซึ่งเธอคนนี้เป็นคู่ขาของเขามาหลายปี

เวลตันไม่ใช่คนที่ควงผู้หญิงไม่เลือกหน้า เขาจะเลือกคนที่เข้ามาแล้วไม่ทำให้ชีวิตเขาปั่นป่วน และไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา

การเป็นคนในปกครองของเขาจะได้รับสวัสดิการอย่างดีราวกับได้เข้าทำงานบริษัทยักษ์ใหญ่ หสกเธออยากได้อะไรเขาก็จะให้ลูกน้องจัดหาให้ตามต้องการ ขอเพียงแค่รักษากฎวามข้อเท่านั้น

1. อยู่ในที่ของตัวเอง ห้ามก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว

2. ห้ามมีสัมพันธ์กับคนอื่นขณะที่ยังเป็นคู่ขา (คู่นอน) ของเขา

3. จะไม่มีการเรียกร้องใดๆ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการยุติความสัมพันธ์นี้

ซึ่งแน่นอนว่าในข้อสามมันจะไม่เกิดขึ้นกับเขาแน่นอน เพราะเขาไม่เคยรู้สึกลึกซึ้งกับใครเกินเลย และเขาก็ยอมรับการตัดสินใจของอีกฝ่ายหากเธอจะหยุดหน้าที่นั้น