MY IDOL รักมากมายนายซุปตาร์

83.0K · จบแล้ว
ลีอิมนา
32
บท
929
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

MY IDOL รักมากมายนายซุปตาร์ [ ขุนเขา x ขนม ] _____ จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อ 'เธอ' ต้องมาเจอกับ 'เขา' ซุปตาร์แนวหน้าแห่งวงการบันเทิง _____ ขุนเขา ขุนเขา ป้องภัย "หึ เธอเนี่ยนะจะมาเป็นผู้จัดการของฉัน" "ถ้าอย่างนั้น... เธอก็ต้องทำทุกอย่างตามที่ฉันสั่ง!" ขนม วรนุช งามดีล้น "ใช่ค่ะ ฉันเนี่ยแหละที่จะมาเป็นผู้จัดการของคุณ" "ไอ้บ้าเอ้ย! ถ้าพ้น3เดือนเมื่อไหร่ฉันจะเอาเรื่องของนายไปแฉ! คอยดูเถอะ!" แทนไท แทนไท ใจรักมั่น "ไม่มีใครอยากเป็นตัวร้ายไปตลอดหรอกนะ" ฟ้าใส ไอรดา สมบัติโชติ "ฟ้าใสต้องได้เป็นนางเอกทั้งในละครและในชีวิตจริงของพี่ขุนเขา" และ ขนุน วุฒิชัย งามดีล้น "เจ๊...ผมขอโทษ" คาวี คาวี ภัทรเวศ "สู้ๆ ครับเฮีย ขอให้สมหวังนะครับ" _____ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเรา ฝากติดตาม สนับสนุน และให้กำลังใจเราด้วยนะคะ

คนธรรมดานางเอกเก่งโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นดารานิยายรักโรแมนติกพระเอกเก่งนิยายรักรักวัยรุ่นนิยายปัจจุบัน

MY IDOL EP : 1

1

 

       @Peterpan Cafe

        ขนม TALK

        "ขนม ทางนี้ ๆ " พอฉันเปิดประตูเข้ามาในร้านก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังขึ้น เมื่อหันไปทางต้นเสียงก็เห็น เจ๊ดาว กำลังกวักมือเรียกให้ฉันเข้าไปหา เพราะวันนี้เธอนัดฉันมา เห็นบอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากจะให้ช่วย

          "สวัสดีค่ะเจ๊"

         "สวัสดีจ้า นั่งก่อน ๆ เอาอะไรไหม เดี๋ยวเจ๊สั่งให้" พอฉันนั่งลงเธอก็ถามขึ้นทันที

         "หนูเอาลาเต้ก็ได้ค่ะ"

         "โอเค น้องคะ พี่เอาลาเต้อีกหนึ่งแก้วนะคะ แล้วก็เค้กกล้วยหอมอีกสองชิ้น" เจ๊ดาวหันไปบอกพนักงานตรงเคาน์เตอร์ ว่าจบก็หันกลับมายิ้มให้ฉันอย่างกรุ้มกริ่ม

         แต่เดี๋ยวนะ เค้กกล้วยหอมงั้นเหรอ นั่นมันของโปรดฉันหนิ

         "เค้กกล้วยหอม ของโปรดใครน้า" หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับฉันทำเป็นหันไปมองทางอื่นแล้วพูดออกมาอย่างยิ้มแย้ม

         "เจ๊จำได้ด้วยเหรอคะ" ฉันซึ้งมาก ๆ เลยนะเนี่ยที่เธอจำของโปรดฉันได้ ขนาดไอ้ขนุนที่มันเป็นน้องฉันแท้ ๆ ยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าฉันชอบหรือไม่ชอบอะไร พูดแล้วโมโห

         "จำได้สิ ก็ตอนที่เรายังเด็ก ขวัญชอบซื้อกลับไปฝากเราอยู่บ่อย ๆ " เจ๊ดาวเล่าไปยิ้มไป

         ‘ขวัญ’ ที่เธอพูดถึงคือแม่ของฉันเอง แม่ขวัญกับเจ๊ดาวเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมอปลาย และตั้งแต่ที่แม่กับพ่อจากฉันกับน้องไป ตอนนั้นฉันเองก็กำลังจะเรียนจบมอหก ส่วนขนุนมันก็กำลังเรียนอยู่มอสอง ด้วยความที่เราไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ก็มีเเต่เจ๊ดาวนี่แหละที่เข้ามาช่วยเหลือพวกเรา

         เพราะฐานะทางบ้านฉันไม่ค่อยดีนัก เงินประกันของพ่อกับแม่ก็พอดีหักกลบลบหนี้ ส่วนเงินเก็บก็พอมีอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เยอะมากนัก ฉันเลยต้องเก็บไว้ให้ขนุนมันเรียน ยังดีที่สวรรค์ยังเมตตาเหลือบ้านให้พวกเราได้อยู่อาศัย หลังจากเรียนจบมอหกฉันก็ไม่ได้เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย เพราะต้องทำงานหาเงินส่งให้ขนุนมันเรียน แต่ลำพังแค่เงินเก็บมันคงไม่พอ จึงเป็นเจ๊ดาวอีกเช่นเคยที่คอยช่วยหางานให้ฉันทำ แต่ฉันก็เปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ เพราะงานไหนได้เงินเยอะกว่าฉันก็ไปทำงานนั้น ถ้าเดือนไหนที่เงินไม่พอใช้เจ๊ดาวจะให้ฉันหยิบยืมอยู่ตลอด

         ผ่านมาสี่ปีแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังทำงานเป็นพีซีขายเสื้อผ้าอยู่ที่ห้างแห่งหนึ่ง ส่วนใหญ่ฉันกับเจ๊ดาวไม่ค่อยได้เจอกันหรอก ถึงเราจะอยู่กรุงเทพฯเหมือนกันก็เถอะ ส่วนใหญ่เราจะคุยกันทางโทรศัพท์มากกว่า เพราะเจ๊ดาวค่อนข้างยุ่งและไม่ค่อยมีเวลา นาน ๆ ทีเราสองคนถึงจะนัดเจอกันเหมือนกับครั้งนี้

         "คิดถึงขวัญจังเลยเนาะ" เจ๊ดาวพูดขึ้นหลังจากที่เห็นฉันเงียบไป

         "คิดถึงมาก ๆ เลยค่ะ " ว่าแล้วก็รู้สึกร้อน ๆ ที่บริเวณรอบดวงตา ฉันยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี ไม่เคยลืมเลย

         "ขอบคุณนะคะเจ๊ ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือหนูกับน้องมาโดยตลอด" ฉันไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำว่าขอบคุณ ฉันกับน้องไม่รู้จริง ๆ ว่าจะตอบแทนผู้หญิงคนนี้ยังไงให้หมด สำหรับทุก ๆ อย่างที่ผ่านมา

         "ไม่เป็นไร เจ๊เต็มใจ เลิกพูดคำนี้ได้แล้ว ฟังจนเบื่อจะแย่อยู่แล้ว นาน ๆ เราจะเจอกันสักที เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า" เจ๊ดาวรีบตัดบทไป

         "แล้วมีเรื่องอะไรจะให้หนูช่วยเหรอคะ" ฉันถามออกไปอย่างสงสัย เพราะปกติแล้วถ้ามีเรื่องอะไรเธอจะบอกฉันผ่านทางโทรศัพท์ หรือไม่ก็ไลน์มาบอก แต่ครั้งนี้มันรู้สึกแปลก ๆ

         "เอ่อ... ดื่มกาแฟก่อนค่อยคุยกันก็ได้ จะรีบไปไหนเนี่ย" ว่าแล้วเธอก็ยกกาแฟขึ้นมาดื่มอย่างใจเย็น มันก็จริงนะ ฉันจะรีบไปไหนเนี่ย ไหน ๆ วันนี้ก็ไม่ได้ทำงานแล้ว ขอดื่มด้ำกับบรรยากาศดี ๆ ในร้านน่ารัก ๆ แบบนี้หน่อยก็แล้วกัน

.....

         "อร่อยไหม เอาอะไรเพิ่มอีกรึเปล่า" พอเราสองคนดื่มกาแฟและขนมเค้กเสร็จเรียบร้อยเจ๊ดาวก็ถามฉันขึ้น

         "อร่อยมากค่ะ แต่พอแล้วเจ๊ แค่นี้ก็อิ่มจะแย่อยู่แล้ว" ฉันตอบกลับไปอย่างอารมณ์ดี

         "โอเค ถ้าอย่างนั้นเจ๊ขอเข้าเรื่องเลยนะ" น้ำเสียงเศร้า ๆ บวกกับสีหน้าที่เป็นกังวลนั้นทำให้ฉันหุบยิ้มและพยักหน้าเป็นคำตอบ

         "คือว่า... เมื่อวานสตีฟโทรมาบอกว่าต้นไม้ไม่สบาย พอเราวิดีโอคอลคุยกันไอ้ตัวเล็กก็เอาแต่ร้องไห้งอแงอยากให้แม่ไปหา เจ๊ก็เลย... อยากไปหาลูก" เจ๊ดาวมองหน้าฉันด้วยแววตาสั่น ๆ ต้นไม้ไม่สบายอย่างนั้นเหรอ

         "แล้วต้นไม้เป็นอะไรมากไหมคะ" 

         "ไม่เป็นไรมาก แค่เป็นหวัดนิดหน่อยเพราะที่สวิตกำลังเข้าฤดูหนาว ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ"

         "ค่อยยังชั่ว แล้วถ้าเจ๊อยากไปหาลูกทำไมเจ๊ไม่ไปล่ะคะ"

         "ก็ไปได้ แต่ว่า..."

         “...” ฉันไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่รอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ แต่เจ๊ดาวก็ยังอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ

         "แต่ว่าอะไรคะ เจ๊มีอะไรบอกหนูได้นะ" ฉันเลือกที่จะถามอีกครั้งเพราะไม่อยากให้คนตรงหน้าต้องคิดมาก

         "ถ้าเจ๊ไปก็ไม่มีใครอยู่กับขุนเขาน่ะสิ เลยอยากให้ขนมช่วยไง"

        ขุนเขา จริงสิ ลืมบอกไปว่าเจ๊ดาวเป็นผู้จัดการส่วนตัวของนายขุนเขา นายนั่นเป็นดารา เธอก็เลยไม่ได้ไปอยู่กับครอบครัวที่สวิตเซอร์แลนด์

         ว่าแต่... นายนั่นจะอยู่กับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ

         "แล้วจะให้หนูช่วยยังไงคะ" อะไรที่พอจะช่วยได้ฉันก็อยากช่วยนะ เพราะที่ผ่านมาเจ๊ดาวก็ช่วยฉันกับน้องมาเยอะแล้ว

        "มาเป็นผู้จัดการขุนเขาเเทนเจ๊ได้ไหม"