บทที่ 6 ผมก็ไม่ชอบคุณเหมือน 2/2
"ไปนั่งข้างหน้า ฉันไม่อยากนั่งข้างเธอ"
มือที่กำลังเปิดประตูรถชะงักค้าง เดียวลอบถอนหายใจเบะปากใส่ แล้วรีบทำหน้าให้เป็นปกติไม่ให้คุณสามีเห็น จากนั้นจึงเดินไปนั่งเบาะหน้าตามคำสั่ง
เรนคนสนิทของเอียน ที่พ่วงตำแหน่งคนขับรถมองคนทั้งสองที่ไม่กินเส้นกันตั้งแต่วันแรกอย่างอิหลักอิเหลื่อ แววจะเห็นทายาทน่าจะไม่มี แต่แววจะเห็นสงครามน่าจะได้เจอทุกวัน
"จะอยู่ที่นี่ยันมืดเลยมั้ย"
"อุ่ย ครับๆ ออกรถเดี๋ยวนี้แหละครับ"
เรนถึงกับสะดุ้งโหยง รีบหันไปตั้งใจขับรถทันที จุดหมายปลายทางคือคอนโดที่เจ้านายพักอาศัยอยู่
เดียวลอบเบะปากใส่ คิดว่าเอียนคงไม่เห็น
....
แต่ไอ้เด็กนี่คงลืมไปมั้ง ว่าเขามองเห็นผ่านกระจกมองหลังได้
"อยู่กับฉันต้องทำตามกฎที่ฉันสร้าง"
....
ก้าวเท้าพ้นประตูเข้ามายังไม่ถึงสามเก้าเลย วิญญาณคุณสามีบ้าอำนาจสิงสถิตอีกแล้ว...
"ทำไมไม่ตอบ หูตึงเหรอ"
"คุณยังไม่ได้บอกกฎมาเลย จะให้ผมตอบอะไรครับ"
เดียวเลิกคิ้วทำหน้ากวนใส่
"นี่เดียว! นายนี่มัน!"
เอียนไม่รู้จะหาคำว่าอะไรไปต่อว่า ทำได้แค่ชี้หน้ากัดฟันกรอด ยิ่งต่่อปากต่อคำแบบนี้ เอียนก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบเด็กตรงหน้า คนอะไรไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย ขายตัวเองเพื่อแลกกับเงินเนี่ยนะ!
"เหอะ! ฉันล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าภรรยาของฉันได้มาจากการซื้อ"
"ครับ ก็ตามนั้นเลย"
ไม่รู้จะเถียงอะไร เดียวทำได้แค่ยอมรับในสิ่งที่มันเป็นจริง ถึงแม้จะไม่ชอบใจก็เถอะ แต่ขี้เกียจจะบอกว่าเดียวเองก็ไม่ได้เต็มใจให้ถูกซื้อมาเหมือนกัน เพราะดูทรงแล้ว พูดไปก็คงไม่เชื่อ ก็เล่นปักธงไปแล้วนี่ ว่ายังไงเดียวก็เป็นเพียงเด็กขายศักดิ์ศรีที่เห็นแก่เงิน
"แล้วจะบอกกฎคุณได้ยังล่ะครับ"
"ข้อแรกเลยนะ นายต้องเรียกฉันว่าพี่เอียน"
หน้าแก่ปานพ่อ ให้เรียกพี่ ตลกนะ...
"ครับๆ พี่ เอียน"
เดียวย้ำชื่อชัดๆเชิงประชด
"ดี ข้อสองคือห้ามส่งเสียงดัง ห้ามคุยเสียงดัง ฉันไม่ชอบ"
ใครบ้าจะตะโกนคุยให้แสบคอ
"ทราบครับ..."
เดียวแสร้งตอบเสียงแผ่ว เอียนถึงกับจิ๊ปากไม่พอใจในความกวน แต่ก็พูดกฎข้อต่อไปต่อ
"กวนตีนนักนะ ข้อสามคือนายต้องทำอาหารให้ฉันกิน ทำเป็นหรือเปล่า"
"ชอบกินอาหารแบบไหนครับ ผมทำเป็นแต่พวกอาหารไทยแบบง่ายๆ"
ตอนอยู่บ้านนอกเดียวต้องทำกับข้าวกินเองประจำ เพราะแม่ไม่เคยทำให้กิน อาศัยลักจำสูตรจากคุณยายสมัยยังมีชีวิตอยู่เอา
"งั้นก็ไปเรียนเพิ่ม ฉันชอบอาหารหลากหลายเชื้อชาติ แต่ไม่กินเผ็ด ห้ามทำอาหารเผ็ดเด็ดขาด"
ปากอย่างแจ๋ว แต่ดันกินเผ็ดไม่ได้ เชื่อเขาเลย
"ครับๆ จำใส่สมองไว้แล้วครับ ว่าพี่เอียนกินเผ็ดไม่ได้เนอะ"
"ก็ดี ข้อสุดท้ายคือห้ามยุ่งเกี่ยวกัน เราจะยุ่งเกี่ยวกันก็ต่อเมื่อตอนจะทำลูกเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นนายห้ามมายุ่งวุ่นวายกับฉัน เข้าใจหรือเปล่า"
"เข้าใจครับ"
ใครจะอยากไปยุ่งวุ่นวายด้วย แค่คุยแค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่ คนอะไรก็ไม่รู้
"ห้องนายอยู่ชั้นล่าง ห้ามขึ้นมาชั้นบนเด็ดขาด ห้ามเข้าห้องนอนฉันด้วย จะขึ้นมาได้ก็นอกจากตอนที่ฉันจะเรียกมาทำลูก"
"ไม่ขึ้นไปหรอกครับ"
เดียวปฏิเสธทันทีเหมือนกัน เขาเองไม่มีทางขึ้นไปเด็ดขาด ถ้าคุณสามีเขาไม่เรียกขึ้นไปน่ะนะ
"เหอะ! เกลียดขี้หน้านายชะมัด คนอะไรเห็นแก่เงินจนยอมขายตัวเอง"
เห็นสีหน้ากวนอารมณ์ของไอ้เด็กนี่ก็อดที่จะพูดค่อนแคะออกไปไม่ได้ เอียนคงไม่ถูกชะตากับเด็กนี่จริงๆนั่นแหละ
"ผมก็ไม่ได้ชอบพี่เอียนครับ ผมชอบเงิน"
เดียวสวนกลับหน้าตาย ถึงความจริงเดียวจะไม่ได้ชอบทั้งคุณสามีทั้งเงินก็เถอะ แต่ในเมื่อถูกกล่าวหามาแบบนี้แล้ว ก็คงต้องเล่นเป็นคนสวมบทบาทเด็กเห็นแก่เงินตามที่โดนว่าสักหน่อย
"ฉันไม่อยากเสวนากับนายแล้ว เสียเวลา เรนจัดการต่อด้วย"
เอียนตัดบทไม่สนทนากับเด็กตรงหน้าต่ออีก เขาเดินหนีขึ้นไปยังชั้นสอง ทิ้งให้เรนจัดการในส่วนที่เหลือต่อ จะอยู่จะกิน จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่างเขาไม่สนใจ สิ่งที่เขาจะทำกับเด็กคนนั้นมีเพียงทำทายาทให้กับจิรวราพงษ์ตามที่คุณปู่ต้องการเพียงเท่านั้น
"ขอโทษนะครับคุณเดียว เจ้านายผมค่อนข้างพูดจาขวานผ่าซากนิดหน่อย"
"ไม่นิดแล้วมั้งพี่"
เดียวว่าขำๆ ไม่อยากให้คนชื่อเรนคิดมากอะไร เอาจริงก็แอบนอยด์อยู่หรอกที่โดนพูดจาแย่ๆใส่ แต่ทำอะไรไม่ได้ไง เซ็นสัญญากับคุณปู่ไปแล้ว
"ฮะ ฮะ ไปดูห้องกันดีกว่าเนอะครับ ตามมาทางนี้ครับ"
เดียวไม่พูดอะไร ทำเพียงเดินตามเรนที่ยิ้มแห้งพาไปที่ห้องที่เขาจะต้องอยู่
"อันนี้เป็นห้องคุณเดียวครับ เสื้อผ้าคุณเดียวมีคนไปเอาจากห้องเดิมมาจัดใส่ตู้ไว้ให้แล้ว"
"ขอบคุณครับ"
"ส่วนเรื่องงานที่คุณเดียวทำอยู่ ไม่ต้องไปทำแล้วนะครับ คุณท่านสั่งว่าให้คุณเดียวอยู่เฉยๆก็พอ"
"อ่า แล้วผมจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะครับ"
ถ้าคุณปู่สั่งมาแบบนั้น เขาก็แย่น่ะสิ ชีวิตประจำวันเขายังต้องกินต้องใช้นะ
"อ้อ ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ คุณท่านจะจัดสรรเงินเดือนให้ตามความเหมาะสมครับ"
"อ้อครับ งั้นค่อยโอเคหน่อย"
"มีอะไรจะถามมั้ยครับ"
"ไม่มีแล้วครับ"
"งั้นผมขอตัวนะครับ"
"ครับ ขอบคุณครับ"
เรนออกไปจากห้องแล้ว ตอนนี้จึงเหลือเดียวที่อยู่ในห้องนอนเพียงคนเดียว
เด็กหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกอดเข่า ใบหน้านวลซบลงกับขา น้ำตาที่กักเก็บเอาไว้รินไหลออกมาอีกครั้ง
"เหนื่อยชะมัดเลย ทำไมชีวิตกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ"
เสียงที่สั่นเครือเอ่ยตัดพ้อคนเดียว ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยได้สัมผัสกับความสุขเลยสักครั้ง
ตั้งแต่จำความได้ก็โดนแม่ทุบตีมาตลอด พ่อก็ตายเพื่อนก็ล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ พอแม่มีผัวใหม่ ผัวใหม่ก็คอยจะหาโอกาสเข้ามาลวนลามและข่มขืนอีก โชคยังดีอยู่บ้างที่หนีเอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง พอเอาไปบอกแม่ แม่ก็ดันไม่เชื่อ ดันด่าว่าและทุบตีเขาหนักกว่าเดิมอีก
พอเรียนจบปอหกแม่ก็ไม่ให้เรียนต่อ บังคับให้เลิกเรียน แล้วใช้ให้ไปลักขโมยของตามบ้านตามร้านค้าคนอื่น พอถูกจับได้ ตัวเองก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทิ้งความผิดไว้ให้เดียวรับผิดชอบคนเดียวตลอด
พอเขาทำงานเก็บเงินแล้วหนีมาได้ คิดว่าจะเป็นอิสระแล้วก็ดันถูกตามตัวเจอง่ายๆอีก ตอนนี้ยังมาถูกขายด้วย จะหนีก็กลัวตาย เพราะว่าคุณปู่ดูเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย
แถมสามีที่จดทะเบียนสมรสด้วยก็ดูจะไม่ชอบเขามากๆ ดูจะอยู่ด้วยกันยากเหลือเกิน
"ฮึก...บัดซบจริงๆ"
