บท
ตั้งค่า

3.นังลูกไม่รักดี

Chapter03.นังลูกไม่รักดี

“เป็นอะไรหรือเปล่า?”

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

เเพรไหมชะงักนิ่งไปแทบจะทันที เมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของอีกคนชัดๆ หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด จู่ๆภาพเหตุการณ์ต่างๆก็หลั่งไหลเข้ามา จากที่เคยมึนเบลอกลับฉายชัดขึ้นมาทำเอาแพรไหมรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก

คนนี้น่ะเหรอที่เธอนอนกับเขาไป

เขาหล่อมากจนเธอรู้สึกประหม่า......

“เอ่อ มะไม่เป็นไรค่ะ” ฉันตอบกลับก่อนจะพยายามดันตัวออกจากอกแกร่ง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระง่ายๆ

“เธอจะทำอะไร” เขาเอ่ยถามฉัน ในขณะที่แขนแกร่งยังคงช่วยจับไหล่ของฉันเอาไว้เพราะฉันยืนยังไม่มั่นคงเท่าที่ควร

“ฉะฉันจะไปปะเปลี่ยนชุดแล้วก็จะกลับ“ ฉันตอบกลับแบบไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ เหตุผลก็มาจากความน่าละอายใจล้วนๆ ไม่อยากคิดเลยว่าฉันจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้

แล้วทำไมต้องพูดติดอ่างด้วย แบบนั้นมันยิ่งน่าอายนะ T_T

"จะกลับยังไง“ เสียงทุ้มถามกลับ

”แท็กซี่ค่ะ“ ฉันตอบกลับแบบไม่ต้องคิด ฉันมาแท็กซี่ก็คงต้องกลับแท็กซี่

”ในสภาพแบบนี้น่ะเหรอ? ไปเปลี่ยนชุดเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่ง“

ฉันค่อยๆรวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นไปมองอีกคนด้วยความรู้สึกอบอุ่นหัวใจแปลกๆ ทำไมเขาถึงได้ดูสุขุมนุ่มลึกขนาดนี้กันนะ แม้จะรู้จักกันแค่คืนเดียวแต่เขากลับดูใส่ใจฉัน

”แต่ว่าฉันกะ....“

”เดินให้ไหวก่อนไหมแล้วค่อยปฎิเสธ ไปอาบน้ำเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก“ ว่าจบเจ้าของร่างสูงในชุดนักศึกษาก็เดินออกไปจากห้องนี้

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขายังเรียนอยู่เพราะถ้าให้เดาเธอคงไม่คิดว่าเขาจะยังเรียนไม่จบเพราะลักษณะภายนอกของผู้ชายคนนั้นเขาดูเป็นผู้ใหญ่มากๆ ทำไมหัวใจถึงเต้นผิดจังหวะแบบนี้นะ

เวลาต่อมา....

บนรถตกอยู่ในความเงียบหลังจากที่ฉันขึ้นรถมากับผู้ชายหน้าหล่อคนนั้น ฉันแอบเห็นพนักงานในผับทำความเคารพเขาซึ่งถ้าฉันเดาไม่ผิดเขาคงเป็นเจ้าของผับแห่งนี้สินะ นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเกร็งทำตัวไม่ถูกและไม่รู้จะพูดหรือชวนเขาคุยอะไร เขายังเป็นนักศึกษาอยู่เลย แต่เป็นเจ้าของผับเนี่ยนะ

“เธออยู่หมู่บ้านนี้เหรอ”

ฉันสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อจู่ๆอีกคนก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“ค่ะ คุณจอดตรงนี้ก็ได้นะคะ เดี๋ยวฉันเดินไปเอง” ฉันเอ่ยบอกเขาไปหลังจากที่อีกคนขับรถเข้ามาถึงสวนสาธารณะในหมู่บ้านที่ฉันอาศัยอยู่

ซึ่งอีกคนก็ยอมทำตามที่ฉันบอก.....

”ขะขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน“ นั่นเป็นคำขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้สึกอายที่สุดในชีวิตแล้วเพราะมันหมายถึงฉันขอบคุณที่เขาช่วยมีเซ็กส์กับฉันเมื่อคืน

”ไม่เป็นไร แต่ฉันขอถามอะไรเธออย่างหนึ่งได้หรือเปล่า“

ฉันหันไปมองหน้าเขาก่อนที่จะพยักหน้าตอบกลับ

”เรื่องเมื่อคืน....อยากให้ฉันรับผิดชอบไหม” นาวินตัดสินใจถามออกมาหลังจากใช้เวลานั่งคิดอยู่นาน

ถึงเธอจะเป็นคนเสนอให้เขาทำ แต่ทว่านาวินกลับรู้สึกแปลกๆหากเขาและเธอจะแยกจากกันตอนนี้โดยที่เขาไม่ได้รับผิดชอบอะไร เมื่อคืนเป็นครั้งแรกของเธอ ถึงแม้มันจะไม่ใช่ครั้งแรกของเขาแต่นั่นก็เป็นครั้งเเรกที่เขาได้ทำลายเยื่อพรหมจรรย์ของใครบางคนเช่นกัน

“คะ? มะไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเป็นคนขอให้คุณทำเพราะงั้นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรฉันเลยค่ะ” มือเล็กโบกมือปฎิเสธ เธอคงดูเป็นผู้หญิงหน้าไม่อายถ้าจะปล่อยให้เขารับผิดชอบ ทั้งๆที่เธอเป็นคนร้องขอให้เขาทำ

“ทำไมถึงอยากทำลายพรหมจรรย์ของตัวเองขนาดนั้น“

”......“

นาวินเผลอถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยออกไป ทำเอาร่างเล็กถึงกับพูดไม่ออก เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง เธอรู้ว่ามันแปลกกับการทำอะไรแบบนั้น แต่เธอไม่มีทางเลือก

”ไม่ต้องตอบคำถามฉันก็ได้ เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ติดต่อฉันมา“ ปากหนาตอบกลับก่อนจะยื่นนามบัตรของตัวเองไปให้อีกคน เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะมองไม่ออกว่าคนข้างๆรู้สึกแบบไหน

ถ้าเธอไม่สบายใจที่จะตอบ เขาก็จะไม่เซ้าซี้

“ขอบคุณนะคะ ฉันต้องไปแล้ว“ เเพรไหมรับนามบัตรมาไว้ในมือเธออ่านชื่อของเขาเงียบๆก่อนจะเดินลงรถไป โดยมีสายตาคมของนาวินมองตามไปจนลับสายตา

ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าผู้หญิงมีคนนั้นกำลังรู้สึกไม่สบายใจกับอะไรบางอย่าง แต่ช่างเหอะ มันไม่ใช่ธุระอะไรของเขา

”.......“ ในขณะที่นาวินกำลังจะเลี้ยวรถกลับ สายตาของเขาดันเหลือบไปเห็นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งหล่นอยู่บนเบาะข้างคนขับ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นของใคร

อีกด้าน....

“นาวิน...” เเพรไหมอ่านชื่อบนนามบัตรออกมาอย่างแผ่วเบาในขณะที่สองเท้าเล็กกำลังเดินกลับบ้าน

“มาแล้วเหรออีตัวดี!!” น้ำเสียงคุ้นหูที่ดังตวาดลั่นขึ้นมาแต่ไกลทำให้เเพรไหมหยุดเดินอัตโนมัติก่อนจะหันไปมองหน้าแม่ตัวเองด้วยแววตาสั่นไหว

สีหน้าของแม่ของเธอบ่งบอกทุกอย่างว่ากำลังโกรธมากแค่ไหน

“มะแม่!”

”มานี่เลยอีตัวดี! กล้าดียังไงหายไปทั้งคืนไม่กลับบ้านฮะ! รู้ไหมเสี่ยบวรมารอตั้งแต่เช้าแล้ว!“

พรึ่บ!

พะแพงเดินเข้ามากระชากแขนลูกสาวในไส้อย่างไม่คิดสนใจว่าอีกคนจะเจ็บหรือเปล่า เพราะสิ่งเดียวที่นางสนใจตอนนี้คือเสี่ยบวรที่มารอรับตัวลูกสาวของตัวเองไปขัดดอกตั้งแต่เช้าตรู่

ถ้านางรู้ว่าลูกสาวตัวดีจะหนีออกจากบ้านไปเที่ยวจนดึกดื่นกลับบ้านเช้าแบบนี้ นางคงขังเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว คงไม่ยอมให้ออกไปเตร็ดเตร่ที่ไหนเป็นอันขาด!

ฟึ่บ!

“มันมาแล้วเสี่ย เอามันไปได้เลย”

เเพรไหมถูกมารดาผลักไปอยู่ตรงหน้าเสี่ยบวรที่มีอายุหกสิบปีครบถ้วนในปีนีัอย่างแรง แม้ภายนอกจะยังดูหนุ่มอยู่แต่แพรไหมกลับไม่ได้คิดทีาจะยินดีที่จะไปกับชายแก่ที่มีอายุมากกว่าพ่อแม่ของเธอ

ดวงตากลมโตสั่นไหว พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะโชคร้ายเกิดมาเป็นลูกของผู้หญิงที่เห็นทุกอย่างดีกว่าเธอ ร่างเล็กสั่นสะท้าน สองมือกำเข้าหากันแน่นเพื่อระบายความรู้สึกต่างๆที่อัดอั้นอยู่ภายในใจ

“อะไรกันคุณพะแพง ทำลูกสาวแรงแบบนี้ เดี๋ยวก็ช้ำกันหมดพอดี“ เสี่ยงบวรแสยะยิ้ม มองหญิงสาวรูปร่างดีตรงหน้าด้วยความรู้สึกชื่นชอบอย่างไม่คิดปกปิด

“ขอโทษทีจ้ะเสี่ย ฉันแค่ไม่อยากให้เสี่ยรอนานไปมากกว่านี้” นางตอบกลับ รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่ลูกสาวของตัวเองมาได้ทันเวลา อย่างน้อยๆระยะเวลาในการหาเงินมาใช้หนี้ของนางก็ยังคงยืดออกไปได้ เพียงแค่ส่งลูกสาวไปเป็นเมียเสี่ยแลกกับข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจ

“ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องไปกันแล้วล่ะ ไปกันเถอะจ้ะหนูแพรไหม ไปอยู่กับเสี่ยนะ เสี่ยจะดูแลเป็นอย่างดี” เสี่ยบวรเอ่ยชวนคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงหวานหยด แต่รอยยิ้มของชายสูงวัยกลับค่อยๆจางหายเมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาวที่สวนกลับมา

“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” เเพรไหมรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหมายมั่น ทำเอาผู้เป็นแม่หันมามองเธอด้วยสีหน้าตาเขียวปัด

“แกพูดอะไรของแกยัยไหม!? แกต้องไปเป็นเมียเสี่ยตามคำสั่งของฉัน” คนเป็นแม่ไม่รอช้าที่จะเดินเข้ามาพูดน้ำเสียงกัดฟัดใส่ลูกสาว เพราะถ้าหากแพรไหมไม่ไปสัญญาการขัดดอกของนางก็จะเป็นโมฆะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel