บท
ตั้งค่า

ตอนที่12

พรึบ

“ตักข้าวสิ!”คุณหญิงนฤมิตรหันมาเอ่ยสั่งฉัน ฉันที่ยืนเหม่ออยู่ต้องถึงกับสะดุ้งตกใจกับน้ำเสียงเข้มของท่าน

“เร็วๆ”คุณหญิงนฤมิตรเร่งฉัน

“ค่ะ…”ฉันตอบรับคำคุณหญิงนฤมิตรก่อนจะค่อยๆเดินไปถือโถข้าวเซลามิคลายสวยงามราคาแพงมากเพราะเป็นลวยลายที่หายากน่ะ

พรึบ

“ยัยนามิเพิ่งลงเครื่องนะคะ…ฉันก็พาเธอตรงดิ่งมาที่บ้านเธอเลยนะ….นฤมิตร^_^”

“จริงเหรอเนี่ย….ฉันดีใจมากเลย…”

“นี่หนูก็เรียนจบแล้วสินะ….หนูนามิ^_^”คุณหญิงนฤมิตรหันไปเอ่ยถามนามิ โดยที่ฉันเพิ่งจะตักข้าวสวยที่มีควันลอยขึ้นมาบ่งบอกว่าข้าวเพิ่งหุงสุกและเพิ่งตักออกมาจากหม้อหุงข้าวใส่ลงไปในจานของคุณหญิงนฤมิตร

“ค่ะ….”นามิเอ่ยตอบคุณหญิงนฤมิตรไปพลางยิ้มบางๆให้คุณหญิงนฤมิตร

“จบที่มหาลัยเเอลลิตร้าเลยนะ^_^”คุณหญิงนวลปรางพูดต่อพลางมองหน้าลูกสาวของท่านด้วยสายตาภาคภูมิใจ

“เก่งมากเลยจ๊ะ^_^”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยชมนามิ

“เดี๋ยวอีกไม่กี่วันเธอไปงานเลี้ยงฉลองรับปริญญาของนามิที่บ้านฉันนะ…”

“ได้เลยไม่มีปัญหา”

“นามิ…ชวนพี่ขุนศึกเขาด้วยสิลูก”คุณหญิงนวลปรางหันมาสะกิดไหล่นามิเป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันตักข้าวใส่จานของคุณหญิงนวลปรางพอดี

“ค่ะ…คุณแม่….”นามิรับคำคุณแม่ของเธอก่อนหันไปมองหน้าขุนศึกและยิ้มอย่างเขินอาย ท่าทีของเธอและของขุนศึกทำให้ฉันรู้ทันทีว่าทั้งสองก็ต่างพึงพอใจในตัวของกันและกัน

“พี่ขุนศึก…ไปร่วมงานเลี้ยงฉลองการเรียนจบของนามิด้วยนะคะ^//^”

“ครับ…พี่ไปแน่นอนอยู่แล้วครับ^^”

พรึบ

ตุ๊บ

“โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อหลังมือของฉันโดนข้าวสวยร้อนๆตกใส่อย่างเต็มๆทำให้ฉันมองหน้านามิอย่างไวเพราะเธอเป็นคนตักข้าวสวยใส่หลังมือของฉันเอง ฉันเผลอสะบัดมืออย่างแรงจนข้าวสวยตกสู่พื้นของคฤหาสน์หลังนี้

“อุ๊ย….นามิไม่ได้ตั้งใจนะคะ..”นามิว่าพลางมองหน้าฉันด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่ที่ฉันเห็นคือเธอจงใจใช้ช้อนตักข้าวในจานเธอใส่มือฉันนะ

“นามิต้องขอโทษ”นามิว่าต่อในขณะที่ฉันจ้องหน้าเธอนิ่งเพราะไม่เข้าใจกับการกระทำของเธอ

“ไปไหว้คนชั้นต่ำอย่างมันทำไม!”เสียงเหี้ยมที่กำลังบ่งบอกถึงความไม่พอใจของคุณหญิงนฤมิตรเอ่ยดังสะท้อนห้องอาหารแห่งนี้ในขณะที่นามิกำลังจะยกมือไหว้ฉันแต่เธอก็หยุดลงทันทีที่ได้ยินเสียงของคุณหญิงนฤมิตร คำพูดของท่านทำให้น้ำตาของฉันเอ่อคลอแต่ฉันจะมาร้องไห้ในที่นี้ไม่ได้ และฉันก็ไม่ได้แสดงละครเป็นนางเอกที่แสนดีและก็ไม่ได้เป็นตัวร้ายที่ใครแกล้งมาก็จะแกล้งกลับหรือตีหน้าซื่อเสแสร้งแกล้งทำเหมือนคนตรงหน้าฉัน

“ไม่เป็นไรค่ะ…ดิฉันไม่เจ็บเท่าไหร่…”ฉันตอบนามิไปพลางก้มศีรษะให้เธอและเดินถือโถข้าวออกมาจากเธอมุ่งหน้าไปยังที่นั่งของขุนศึก

พรึบ

“ขุนศึก!”เสียงแข็งกร้าวกระแทกอย่างไม่พอใจของคุณหญิงนฤมิตรเอ่ยอีกครั้งเมื่อขุนศึกกำลังจะยื่นมือของเขามาจับมือฉันที่โดนข้าวสวยร้อนๆลวกในขณะที่ฉันกำลังตักข้าวใส่จานข้าวของเขาอยู่ เมื่อฉันที่รู้ตัวก็รีบชักมือออกมาห่างจากขุนศึกทันทีและเดินกลับเอาโถข้าวไปวางลงบนโต๊ะและเดินกลับไปยืนประจำจุดที่ยืนเดิมของฉันเพื่อรอคำสั่งเรียกใช้จากเจ้านายอีกครั้ง

“เดี๋ยวพอทานข้าวเสร็จแล้ว….ลูกพาหนูนามิ…ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาบ้างสิจ๊ะ”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยขึ้น ทำให้ขุนศึกที่มองฉันอยู่ด้วยแววตาเป็นห่วงหันกลับไปมองหน้าคุณแม่ของเขาทันที

“จริงด้วยจ๊ะ….นามิน่ะ…บ่นว่าอยากเห็นผับเมืองไทยมากนะจ๊ะ^_^”คุณหญิงนวลปรางเองก็เปิดทางให้คุณหญิงนฤมิตรเต็มที่ โดยที่ฉันได้แต่ยืนมองหลังมือขาวที่เห็นเส้นเลือดของฉันกำลังเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆมันแสบร้อนไปทั่วทั้งบริเวณแผลแล้ว

“ได้ครับ….”ขุนศึกยิ้มละมุนให้คุณหญิงทั้งสองก่อนจะหันไปยิ้มให้นามิพร้อมกับตอบรับคำตกลง

“ขอบคุณค่ะ…พี่ขุนศึก^_^”นามิเองก็ยิ้มเอียงอายให้ขุนศึก และทั้งสี่คนก็เริ่มลงมือทานอาหารกันโดยตลอดการทานอาหารขุนศึกดูแลเทคเเคร์นามิดีมาก ทำให้ฉันแอบน้ำตาตกในตั้งหลายครั้ง บางทีฉันควรจะชินได้แล้วไม่ใช่เหรอไง

“ไปทายาก่อนเถอะลูก…เดี๋ยวทางนี้ป้าดูแลเอง^_^”

“ค่ะ…ป้าบัว”ฉันตอบรับคำป้าบัวที่ท่านเดินมาบอกฉันให้ไปหายาทาเพราะท่านคงจะเห็นว่าดวงตาของฉันแดงก่ำท่านคงจะคิดว่าฉันเจ็บแผลแต่เปล่าเลยฉันเจ็บหัวใจมากกว่า ฉันพยายามทำให้มันชินแล้วแต่มันก็ไม่ชินสักที

“หนูทำความสะอาดเสร็จแล้วคะป้า^_^”ใบข้าวเดินมาบอกป้าบัวในมือของเธอถือผ้าขี้ริ้วเพราะเธอเป็นคนทำความสะอาดข้าวสวยที่ฉันสะบัดลงพื้นเองน่ะ

“ขอบคุณนะ…”ฉันเอ่ยขอบคุณใบข้าวไปที่เธออาสาไปทำความสะอาดข้าวที่หกแทนฉัน

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ…แต่หนูเห็นนะคะ…ว่าคุณผู้หญิงคนนั้น…จงใจตักข้าวใส่มือคุณ”ใบข้าวเอ่ยบอกฉันพลางหันไปมองถลึงตาใส่นามิที่นั่งยิ้มเอียงอายอยู่

“หึ!”เสียงหึในลำคอของป้าบัวเอ่ยขึ้นพลางจ้องเขม่นไปที่ใบข้าวทำให้เธอเม้มปากหน้าสลดลงทันที

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…คุณเขาไม่ได้ตั้งใจ…งั้นหนูขอไปหายามาทาแผลก่อนนะคะ”

“จ้า…”ป้าบัวพยักหน้าพร้อมตอบรับรู้ ฉันก็ยิ้มบางๆให้ท่านและเดินก้มศีรษะออกมาจากห้องอาหารแห่งนั้น โดยมุ่งหน้าไปยังห้องครัวเพื่อหายามาทาแผลที่โดนของร้อนลวก

พรึบ

ซ่าาาาาาาาา

ฉันเปิดน้ำที่ซิงค์ล้างจานล้างมือตัวเองข้างที่โดนข้าวสวยลวกมันค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเมื่อได้สัมผัสกับความเย็น

พรึบ

ฉันเดินไปหยิบผ้าสะอาดออกมาจากตู้เก็บผ้าและเช็ดไปตามหลังมือที่เปียกน้ำก่อนจะหันมองไปรอบๆเพื่อหากล่องปฐมพยาบาลยาแต่ก็ไม่พบ

“สงสัยอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแน่เลย…”ฉันพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้ ก่อนจะหันไปยัดผ้าที่ฉันใช้แล้วใส่ลงไปในถังขยะที่ทางป้าบัวเตรียมไว้ เพื่อความสะอาดน่ะ ฉันเดินเอามือยกขึ้นมาและเป่าลมรดลงไปบนหลังมือของฉันที่โดนข้าวสวยลวกเพื่อให้มันคลายความปวดแสบปวดร้อนลงได้บ้าง

“อ่ะ….อยู่ที่ห้องนี้จริงๆด้วย^_^”ฉันพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงห้องนั่งเล่นและพบกับกล่องปฐมพยาบาลที่เป็นตู้กระจกใสถูกติดตั้งไว้บนกำแพง ฉันไม่รอช้าเดินไปเปิดตู้เพื่อหยิบยาทันที

พรึบ

“อ่ะ”

“หึ….”เสียงหัวเราะนุ่มๆของผู้ชายที่ดังอยู่ที่ด้านหลังฉันทำให้ฉันที่กำลังตกใจรีบหันหน้าไปมองเขาทันที

“คุณจอมพล!”ฉันเอ่ยเรียกชื่อของผู้ชายตรงหน้าฉันอย่างตกใจผิดกับเขาที่อมยิ้มให้ฉันอยู่ก่อนจะชูหลอดยาสีขาวให้ฉันดู

“เขย่งจนร่างจะลอยอยู่แล้ว^_^”คำพูดนุ่มถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อตรงหน้าฉัน

“สวัสดีค่ะ…”

“หึ…”คุณจอมพลหัวเราะออกมาพลางส่ายศีรษะออกมาเมื่อฉันยกมือไหว้เขา คุณจอมพลก็คือพี่ชายของขุนศึก แต่เขาไม่ได้เป็นลูกของคุณหญิงนฤมิตรหรอกนะ เขาเป็นลูกติดของสามีคุณหญิงนฤมิตรที่เกิดจากภรรยาน้อยที่ไม่เป็นตัวเป็นตนของท่านน่ะ

“ไหว้พี่ทำไม…ไม่ได้อยู่ที่บริษัทแหละ”

“ก็…”

“ไม่ต้องตอบพี่แหละ…จะเอาหลอดยานี้ใช่ป่ะ?”คุณจอมพลว่าพลางชูยาหลอดสีขาวที่ฉันพยายามเขย่งปลายเท้าเพื่อหยิบมันที่อยู่ด้านในสุดของตู้ยานี้แหละ

“ใช่ค่ะ^_^”ฉันตอบคุณจอมพลไป เขาก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะมองหน้าฉันเพื่อจะถามว่าเอาไปให้ใคร

“พอดีจะเอามาทาแผลที่โดนของร้อนลวกนะคะ”ฉันบอกคุณจอมพลพลางยื่นมือข้างซ้ายของฉันที่โดนข้าวสวยลวกให้คุณจอมพลดู

“อ้อ…งั้นมานี้…”

“เดี๋ยวพี่ทาให้^_^”เขาบอกฉันก่อนจะจับมือข้างที่ไม่เป็นแผลของฉันออกไปจากนอกห้องนั่งเล่นแห่งนี้ คุณจอมพลเป็นรองประธานบริษัทของขุนศึกน่ะ เขาก็เหมือนเป็นเจ้านายของฉันด้วยอีกคนและเป็นอีกคนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับขุนศึกว่าเราสองคนเป็นมากกว่าเพื่อนและเจ้านายกับลูกน้อง

พรึบ

“เธอทาเองไม่ถนัดหรอก…”

“เดี๋ยวพี่ทาให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ…เอริทาเองได้ค่ะ..”ฉันพยายามปฏิเสธคุณจอมพลที่ตอนนี้เขาจับมือฉันเดินออกมาด้านนอกบ้านแล้วโดยพาฉันมานั่งอยู่ที่ม้านั่งข้างๆกับทางเข้าประตูด้านหน้าของคฤหาสน์

“กะก็ได้ค่ะ…”ฉันต้องจำใจยอมรับข้อเสนอของคุณจอมพลเมื่อเจอเข้ากับสายตาดุๆของเขา ฉันจึงยอมนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆคุณจอมพลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อีกตัว

พรึบ

“ไปทำอีท่าไหนเนี่ย?”

“ปกติเราก็ไม่ได้เป็นคนซุ่มซ่ามอะไรหนิ?”คุณจอมพลเอ่ยขึ้นพลางจ้องมองหน้าฉันอย่างสงสัยในขณะที่เขาค่อยๆบรรจงใช้ปลายนิ้วชี้เกี่ยเนื้อครีมไปตามบริเวณแผลที่โดนข้าวสวยร้อนๆลวกของฉันอย่างเบามือและอ่อนโยน

“เอ่ออคือ..”ฉันอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะตอบอะไรคุณจอมพลไปดีหรือไม่รู้ว่าจะบอกเขาว่ายังไง จะบอกว่าฉันโดนแขกของคุณหญิงนฤมิตรจงใจตักข้าวสวยร้อนๆเทใส่มือฉันก็ไม่ใช่เรื่อง มีหวังจะทำให้คุณจอมพลเกลียดฉันไปอีกคนเป็นแน่

พรึบ

“พี่ขุนศึกคะ…”

“ครับ”ขุนศึกขานรับเสียงหวานนั้นทันทีทำให้ฉันหันไปมองด้านหลังของฉันก็พบว่า ขุนศึกยืนอยู่ด้านหลังของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ในมือของเขาแวบหนึ่งฉันเหมือนเห็นกล่องยาสีขาวแต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง เขาคงจะถืออะไรสักอย่างก็ได้

“อ้าว….ขุน…เพิ่งกลับมาไม่ใช่เหรอ..จะไปไหนอีกอ่ะ?”คุณจอมพลหันไปเอ่ยถามขุนศึกน้องชายพ่อเดียวกับเขาด้วยความสงสัย

“จะพาน้องนามิไปเที่ยว!”ขุนศึกตอบคุณจอมพลเสียงเข้มก่อนจะหันไปยิ้มให้นามิ

“เราไปกันเถอะครับ…”

“ค่ะ”

พรึบ

“ท่านประธานคะ!!!”

“พรุ่งนี้มีประชุมกับบอร์ดผู้บริหารตอนเก้าโมงเช้านะคะ!!”ฉันตะโกนย้ำเตือนให้ขุนศึกรับรู้ เขาไม่ได้หันมามองหน้าฉันหรือตอบรับคำอะไรกับโอบไหล่ของนามิและเดินไปที่รถแลมโบกินี่ของเขาเลย โดยมีฉันนั่งมองภาพเดิมๆซ้ำๆเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“เธอทนได้ยังไงกัน…เอริ?”เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงจากคนด้านหลังฉันทำให้ฉันหันไปมองเขาทั้งน้ำตา

“นั่นสิคะ…เอริ…ทนได้ยังไงกัน…”ฉันยิ้มทั้งน้ำตาเอ่ยตอบคุณจอมพลไป เขาก็มองหน้าฉันด้วยแววตาสงสารและเห็นใจฉัน ที่ขุนศึกไม่เคยแคร์ความรู้สึกของฉันเลยสักนิด….ทั้งๆที่เขาก็บอกว่ารักฉันแทบจะทุกวันแต่การกระทำของเขามันบอกว่าเขารักฉันเหรอ เขารักฉันจริงๆเหรอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel