บท
ตั้งค่า

ตอนที่10

19:00น.

ภัตตาคารอาหารชื่อดัง

เอริ ฐิติมน….

พรึบ

"ขุน!!"

"อย่างี่เง่าได้ป่ะ!!"ฉันโวยใส่หน้าขุนศึกเสียงดังหลังจากที่ฉันลากเขาออกมาจากห้องอาหารของภัตตาคารหรูหราระดับห้าดาวแห่งนี้แล้วและก็สะบัดร่างเขาอย่างแรง เขาก็มองหน้าฉันด้วยแววตาสั่นไหวและน้อยใจไปในตัว

"งี่เงาเหรอ?"ขุนศึกถามฉันเสียงแผ่วเบา

"ขุนงี่เงาเหรอ..ริ?"เขาถามฉันย้ำอีกครั้งพลางมองหน้าฉันอย่างตัดพ้อ เพราะปกติฉันไม่เคยว่าเขางี่เง่าเลยสักครั้ง

"ใช่...คุณรณชาติเขาเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัทเรานะ...ถ้าเกิดเขาไม่พอใจขึ้นมาแล้วขอถอนหุ้นออกไปจากบริษัทขุนจะว่ายังไง?"ฉันว่าเสียงดังเพื่อย้ำให้ขุนศึกรู้ว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน

"ก็ให้มันถอนไปดิ!"ขุนศึกขึ้นเสียงดังใส่ฉันอย่างไม่พอใจ

พรึบ

"ขุนศึก!"

"นี่ขุนคิดว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องเล่นๆเหรอ?"

"แต่ดูที่มันทำกับริดิ..."ขุนศึกแย้งฉันพลางชี้นิ้วกลับเข้าไปในห้องอาหารที่ฉันเพิ่งจะลากเขาออกมาเมื้อกี้นี้ด้วยท่าทางไม่พอ ฉันรู้ว่าคุณรณชาติคิดยังไงกับฉัน เขาเองก็เป็นนักธุรกิจที่ยังหนุ่มยังแน่นไฟแรงพอๆกับขุนศึกนี้แหละ

"ขุนเป็นแฟนริน่ะเว้ย!!"

"เห็นแฟนคุยอี๋อ๋อกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตา...จะให้ขุนทนได้ยังไง!"ขุนศึกว่าเสียงเข้มอย่างไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้ เพราะคุณรณชาติเทคแคร์ฉันจนออกนอกหน้าทำให้ขุนศึกไม่พอใจ

"แล้วทำไม...ริทนได้ล่ะ...?"ฉันมองหน้าเขาด้วยแววตาสั่นไหวน้ำตาเอ่อคลอน้ำเสียงที่ฉันเปล่งออกไปแผ่วเบา ทำให้ขุนศึกที่เห็นแววตาของฉันหยุดการกระทำที่ไร้เหตุผลของเขาลงทันที ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือฉันไปกุมไว้

"ริ...ขุนขอโทษ.."

"เรื่องไหนเหรอ?"ฉันถามเขาไปพลางพยายามยกยิ้มขึ้นให้เหมือนที่ฉันบอกเขาว่าฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเวลาที่เห็นเขาไปมีอะไรกับคนอื่น หรือควงคนโน้นคนนี้ออกงานสังคมทั้งๆที่ฉันก็ต้องยืนดูอยู่ข้างๆเขาที่ฉันเองก็ยืนอยู่ในจุดยืนของตัวเอง

"เรื่องที่ขุน...ทำกิริยาไม่ดีต่อหน้าคุณรณชาติกับริหรือเรื่องที่ขุนนอกใจนอกกายริ?"ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปอีกครั้งหลังจากที่เขาเงียบไปไม่ยอมตอบคำถามฉัน เขาก็มองหน้าฉันและไม่พูดอะไรออกมา เขาค่อยๆคลายมือที่จับฉันอยู่ก่อนหน้านี้ลงอย่างช้าๆจนมือของฉันหลุดจากการจับกุมของเขาไปในที่สุด

"หึ...."ฉันแสร้งหัวเราะออกไป เพราะยังไงฉันก็ไม่ได้คำตอบจากขุนศึกอยู่ดี ไม่รู้ทำไมฉันยังโง่ที่จะยังรักและคบกับเขาต่อไปทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้มีแค่ฉันเพียงคนเดียว

"ผู้หญิงพวกนั้น...ขุนไม่ได้คิดที่จะจริงจังอะไรด้วยเลยนะ..."

"ขุนก็แค่ใช้ชีวิตที่เกิดเป็นผู้ชายให้คุ้มใช่ไหม?”ฉันย้อนขุนศึกไปกับคำพูดประโยคแรกตอนที่เราเป็นแฟนกันและฉันจับได้ว่าเขาไปมีอะไรกับคนอื่นเขาก็พูดประโยคนี้กับฉัน

"เอริ...."

"ริว่าเรา...เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ...คุณรณชาติรอนานแล้ว...."ฉันว่าอย่างตัดบทและกำลังจะหันหลังให้ขุนศึกแต่ก็โดนเขาสวมกอดจากทางด้านหลังเข้าซะก่อน เนี่ยมันเป็นแบบนี้ไงล่ะทำให้ฉันโกรธและเลิกรักเขาไม่ได้สักที

“รอขุนนะ…เอริ…รอวันที่ขุน…จะมีแค่เอริคนเดียว…”

“เมื่อไหร่ล่ะ….เมื่อไหร่มันจะมีวันนั้น…”ฉันเอ่ยขึ้นพลางยิ้มเยาะขำกับโชคชะตาของตัวเองที่ชอบเล่นตลกกับชีวิตของฉันมาตั้งแต่ฉันเกิดจนตอนนี้ก็ยังไม่เลิกเล่นตลกกับฉันซะที

พรึบ

“เอริ!”ขุนศึกเอ่ยเรียกฉันเสียงดังแค่คราวนี้ฉันกลับไม่ได้หันไปมองหน้าเขาฉันเดินมุ่งหน้ากลับไปยังห้องอาหารที่มีคุณรณชาติรออยู่ทันทีที่แกะมือปลาหมึกของขุนศึกออกไปได้

พรึบ

“ขอโทษด้วยนะคะ…ที่ดิฉันเสียมารยาทลุกออกไปจากโต๊ะอาหารแบบนี้…”ฉันเอ่ยบอกคุณรณชาติไปพลางก้มศีรษะลงเพื่อทำการขอโทษเขา

“ไม่เป็นไรหรอกครับ….แล้วคุณขุนศึกไปไหนแล้ว…?”

“อ้อ…พอดีท่านประธานติดสายกับคุณหญิงนฤมิตรนะคะ…”ฉันเอ่ยบอกคุณรณชาติไปอย่างโกหกแต่ดูเหมือนเขาจะเชื่อฉันนะ

“งั้นเรา….ทานข้าวต่อดีกว่านะครับ…”

“ค่ะ…”

“อาหารที่นี้อร่อย…ผมชอบมากเลยนะครับ^_^”

“ค่ะ…”ฉันยิ้มบางๆรับคำไปตามมารยาทและเริ่มทานอาหารในจานของตัวเองอย่างเงียบๆจนสักพักขุนศึกก็เดินเข้ามา

พรึบ

“อ้าว…เชิญนั่งครับ…”คุณรณชาติผายมือให้ขุนศึกที่เขายืนคล้ำหัวฉันอยู่ให้เขานั่งลงข้างๆฉัน ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาเรามองสบตากันแต่ฉันก็เป็นฉันที่หลบสายตาเขา

“ขอบคุณครับ…”ขุนศึกเอ่ยขอบคุณคุณรณชาติไปอย่างเสียไม่ได้โดยเขานั่งที่เดิมนั่นคือข้างๆฉัน

“ผมน่ะ…อิจฉาคุณขุนศึกจังเลยนะครับ…ที่มีเลขาที่ทั้งเก่งและสวยแบบคุณเอริอยู่ข้างๆ….”

“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ…ริยังต้องเรียนรู้งานอีกมาก…”

“อืมครับ…แต่แค่นี้ก็เก่งแล้วนะครับ^_^”

“ค่ะ….ขอบคุณค่ะ..”ฉันยิ้มรับคำชมจากคุณรณชาติแล้วฉันก็รับรู้ได้รังสีอำมหิตของคนที่นั่งอยู่ข้างๆฉัน

พรึบ

“เป็นอะไรรึเปล่าครับ…?”คุณรณชาติเอ่ยถามขุนศึกไปอย่างสงสัยกับกิริยาที่ขุนศึกทำบนโต๊ะอาหารเป็นครั้งที่สองนั่นคือการวางแก้วน้ำที่เขาดื่มแล้วกระแทกกับโต๊ะกระจกจนเกิดเสียงดังจนฉันและคุณรณชาติตกใจ

“เปล่าครับ….พอดี…ผมแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย…”ขุนศึกตอบคุณรณชาติไป คุณรณชาติก็พยักหน้าเข้าใจและหันมายิ้มบางๆให้ฉันแทน เราสามคนนั่งทานอาหารเงียบๆจนเวลาล่วงเลยมาเกือบจะสองทุ่มฉันจึงเอ่ยลาคุณรณชาติเพราะว่าขุนศึกมีนัดกับคุณหญิงนฤมิตร

พรึบ

“ไว้โอกาสหน้า…เจอกันอีกนะครับ…”

“ค่ะ…ยินดีเสมอค่ะ…”ฉันยิ้มรับพลางยื่นมือไปจับจับมือคุณรณชาติเพื่อเป็นการอัมลากันและสัญญาไปในตัว

พรึบ

“ไว้เจอกันครับ…คุณขุนศึก…”

“ครับ..”ขุนศึกรับคำคุณรณชาติหน้าตานิ่งเฉย และพอคุณรณชาติเดินออกไปจากเราสองคนแล้วขุนศึกก็หันหลังเดินหนีฉันไปเลย ฉันก็ถอนหายใจออกมาและเดินตามแผ่นหลังกว้างของขุนศึกไปอย่างเงียบๆ

“งอนเหรอ?”ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปในขณะที่ฉันเปิดประตูรถแลมโบกินี่คันสีขาวของเขาขึ้นมานั่งที่ประจำคนขับได้แล้ว โดยมีขุนศึกนั่งอยู่ด้านข้างของคนขับ เขาไม่หันมาสบตากับฉัน ฉันที่เขาไม่ยอมตอบคำถามฉันก็ไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะทำหน้าที่ของตัวเองนั่นคือ ขับรถให้ขุนศึกเพื่อพาเขาไปยังคฤหาสน์ของเขา ตลอดระยะทางขุนศึกก็นั่งเล่นโทรศัพท์ของเขาไปเงียบๆโดยที่ฉันแอบชำเลืองหางตามองก็พบว่าเขาคุยแชทกับผู้หญิงในสต๊อกของเขา ทำให้ฉันรู้สึกหน่วงๆที่หัวใจ ใครๆก็ว่าฉันโง่ที่รู้ว่าแฟนตัวเองนอกกายนอกใจแต่ก็ยังทนคบอยู่แบบนี้…นั่นสิ…เพราะว่ารักยังทนอยู่อาจจะเป็นเพราะฉันคบเขามาตั้งแปดปีแล้วคงจะผูกพันกันไปมากคงจะลำบากถ้าวันหนึ่งข้างกายฉันไม่มีเขา….เพราะฉันจำชีวิตตอนแรกที่ไม่มีเขาไม่ได้แล้วล่ะ…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel