LOVE HURTS รักเจ็บลึก

250.0K · จบแล้ว
อยู่ในตะเกียงแก้ว
85
บท
12.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"ได้โปรดอย่าทำร้ายฉัน มากไปกว่านี้เลย"  Lucas /  ลูคัส    “เธอกำลังจะทำให้ฉันเสียลูกค้ารายใหญ่ไป!” “ลูกค้าคนนั้นเขาลวนลามฉันนะคะ” “แล้วไง?” “ฉันเคยบอกไปแล้วนิ ว่าต้องการคนที่ทำงานได้ทุกอย่าง!” “คุณหมายถึงให้ฉันไปนอนกับเขาเหรอคะ?” “แล้วเธอทำได้ไหมล่ะ?" LaLyyn /  ลาลิลณ์.   ​“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่สามารถแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้” ….. ……. “เมื่อไหร่คุณจะพอสักที...” “ฉัน..ยังเจ็บไม่พอรึไง?”  

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันประธานเลขาดราม่าคนรับใช้มาเฟียโรแมนติกพาลูกกหนี25+

Ep.1 - อนาคตที่ดับสูญ –

________________________

@ห้องทะเบียนมหาลัย

"การทุจริตสอบคัดเลือกนั้นไม่สามารถเอาผิดทางอาญาได้ก็จริง"เสียงของชายวัยกลางคนลุกขึ้นพูด เสียงดังฟังชัดเจน

"แต่ทางผมจะดำเนินการเอาผิดตามระเบียบของมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติของเรา! " คณบดีทุบโต๊ะและมองตรงมาที่ฉันอย่างเอาเรื่อง

"หนูขอโทษค่ะ หนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วจริงๆ "ฉันยกมือไหว้พวกเขาท่วมหัวอย่างหน้าซีดตัวสั่น เพราะนี่เป็นความผิดครั้งแรกในชีวิตของฉันเลยจริงๆ

"การเข้าสอบแทนผู้อื่น ถือว่าเข้าข่ายขบวนการทุจริตอย่างชัดเจน" เสียงของกรรมการคุมสอบคนหนึ่งเอ่ยเสียงดังและหยิบกระดาษข้อสอบที่ถูกกาหัวข้อสอบทุกแผ่น ส่งให้กรรมการท่านอื่นๆ ได้พิจารณาต่อ

ส่วนฉันทำได้แค่เพียงนั่งก้มหน้าอย่างยอมรับความผิดที่ตัวเองก่ออย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ไม่มีแม้แต่คำที่จะใช้อธิบายใดๆ

"การกระทำของคุณ มันเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ "กรรมการอีกคนก็ผสมโรงพูดขึ้นอย่างใส่อารมณ์

ฉันทำได้แค่ปาดน้ำตาตัวเองอย่างไม่อาจจะห้ามมันได้เลย พร้อมๆกับก้มหน้าอย่างยอมจำนนต่อความผิดที่ตัวเองได้ลงมือกระทำไป ฉันยังคงต้องนั่งรับฟังคำตัดสินต่อไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีไปที่ไหนได้

"นางสาวพลอยลาลิลณ์ เป็นนักเรียนทุนจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังระดับประเทศ"

"เกรดเฉลี่ยสูงที่สุดในชั้นเรียนมาตลอด6ปีการศึกษา"อาจารย์อีกคนหนึ่งเอาประวัติของฉันมากลางต่อหน้าเหล่ากรรมการ และคณบดีของทางมหาลัย

"แถมเธอยังเป็นนักเรียนทุนที่ยื่นขอทุนจากทางมหาลัยของเราและได้รับทุนเรียนต่อเต็มจำนวน ตลอด4ปีการศึกษาในระดับปริญญาตรี"

"นางสาว พลอยลาลิลณ์สอบได้คะแนนเต็มทุกวิชา และจัดอันดับว่าเป็นผู้ที่สอบได้ลำดับที่1 จากผู้สมัครสอบชิงทุนทั้งหมด500คน"เสียงคนมากมายถกเถียงกันไปมาเรื่องของฉัน

ฉันยังคงนั่งสวมชุดนักเรียน ของอลิเซียมือยังคงกำดินสอและยางลบของตัวเองเอาไว้แน่น

"แต่ทุจริตก็คือทุจริต"

"จะเก่งมากแค่ไหน ถ้าโกงเราก็ขอไม่ต้อนรับเช่นกัน"สิ้นคำขาดของคณบดี คณะอาจารย์และกรรมการทุกคนในห้องก็คล้อยตามกันและมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำ ตำหนิมากมาย บางคนส่ายหน้า บางคนถอนหายใจออก

"เสียดายอนาคตของเด็กมันนะ"เสียงอาจารย์บางคนบ่นๆ ขึ้นและเริ่มถกเถียงกันดังขึ้นเรื่อยๆ

"จริงๆ คนเก่งๆ แบบนี้เราน่าจะลองให้โอกาสเธอนะ"อาจาร์ยใจดีท่านหนึ่งลุกขึ้นยกมือเพื่อช่วยฉัน

"มันก็ไม่แน่หรอกนะคะบางทีที่สอบชิงทุนเข้ามาได้"

"ก็อาจจะเพราะใช้กลยุทธ์ หรือวิธีการโกงอย่างอื่นก็เป็นได้"กรรมการผู้หญิงคนนั้นก็หันมา ฉันอย่างวิพากษ์วิจารณ์ทันทีที่เห็นว่าคณบดีเลือกที่จะไม่เอาฉันเอาไว้อีกแล้ว

ฉันทำได้แค่ส่ายหน้าตอบปฏิเสธไปอย่างไม่มีเสียงจะเอื้อนเอ่ยใดๆ

"ทุจริตถือเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่ว่าตัวนักเรียนคนนี้จะเก่งสักแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วเธอก็คือนักเรียนที่ใช้ความเก่งความฉลาดในทางฉ้อโกง"คณบดียืนกรานเสียงแข็ง

จนอาจารย์ใจดีท่านนั้นต้องยอมนั่งลงตามเดิม

"เด็กคนนี้ควรได้รับบทลงโทษตามกฏของทางมหาลัยเรา"คณบดีทุบโต๊ะเบาๆ อย่างได้ข้อสรุป

"เพื่อที่จะไม่มีใครกล้าทำแบบนี้อีกในอนาคต! "

จากการถกเถียงกันอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม

"ในนามของตัวแทนมหาลัย"

"ผมขอตัดสิทธิ์ที่จะรับคุณเข้าศึกษาต่อในมหาลัยอันทรงเกียรติของเรา และคุณจะไม่มีโอกาสได้ทำข้อสอบ หรือสอบสัมภาษณ์ใดๆ ต่ออีกทั้งสิ้น"

"ทุกสิ่งทุกอย่างถือว่าเป็นโมฆะ และชื่อของคุณจะขึ้นอยู่ในแบล็คลิสของมหาลัยเราอย่างไม่อาจเลี่ยงได้"คำตัดสินสุดท้ายของคณบดีคนนั้นทำเอาฉันนั่งก้มหน้าน้ำตาไหลพรากอย่างไม่มีคำพรรณนาใดๆ จะเอ่ยขอร้องหรือวิงวอนต่อพวกครูบาอาจารย์มหาลัยเหล่านั้น

"เราไม่ขอรับคนที่ทุจริตแบบคุณเข้ามาเป็นนิสิต! "

"เชิญออกไปได้"และนั้นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ฉันจะถูกเชิญให้ออกจากห้องทะเบียนของมหาลัย ชื่อดัง

หลังจากที่ถูกจับได้ว่า ฉันปลอมเป็นอลิเซียเพื่อที่จะเข้าทำข้อสอบเข้ามหาลัยแทนเธอด้วยความจำเป็น

.....

.......

ทันทีที่เดินออกมาจากห้อง ฉันก็เจอกับพี่ลูคัส พี่ชายอลิเซียที่ดักรออยู่ฉันรีบปาดน้ำตาที่ยังไม่ทันจะแห้งสนิทของตัวเองแบบลวกๆ

เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของฉันและก้มมองที่ป้ายชื่อบนชุดนักเรียนของฉันด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง

"เธอรับเงินค่าจ้างฉันไปแล้ว”

"แต่เธอทำงานไม่สำเร็จ!! "เขาพูดขึ้นเสียงเรียบ

"..."ฉันพยักหน้าตอบไปทั้งน้ำตา

ฟุ๊บ!! ลูคัสเอื้อมมือเข้ามากระชากเอาป้ายชื่อของอลิเซียจากชุดนักเรียนที่ฉันใส่อยู่

"..เฮ่อ...." ฉันแอบตกใจเล็กน้อยเมื่อเขากระชากป้ายชื่อนั้นออกจากอกด้านซ้ายของฉันแบบที่ฉันเองก็ ไม่ทันได้ตั้งตัว

"ฉันขอโทษค่ะ คือฉันไม่เคยทำมาก่อนจริงๆ" ฉันยกมือขอโทษไปทันทีอย่างไร้ข้อแก้ตัว

"เธอมันขี้ขลาดตาขาวไง ไอ้อาจารย์พวกนั้นถึงจับได้! "เขาพูดราวกับเห็นทุกอย่าง

"และเพราะฉันทุจริตในครั้งนี้ ฉันเองก็ถูกตัดทุนและก็ ไม่มีสิทธิ์ได้เข้าเรียนที่นี้อีกแล้วเพราะเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ"ฉันเงยหน้าพูดบอกเขาไปทั้งน้ำตา

ตอนนี้ฉันเหมือนมืดแปดด้านและไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำยังไงต่อจากนี้ดี

"แล้วไง? "

"ถ้าทำไม่ได้ แล้วรับปากจะทำงานนี้ทำไม? " เขาพูดต่ออย่างไม่ได้ใส่ใจและยังตอกย้ำความผิดพลาดของฉัน

จนฉันแทบล้มทั้งยืนตรงนั้น..ฉันร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจจะกลั้นเอาไว้

"และถ้าจะโทษว่าเป็นความผิดที่ฉันจ้างให้เธอไปสอบแทนยัยอลิเซีย"

"อย่าลืมสิว่า เธอเป็นตกลงรับงานนี้เอง"

"การที่เธอโง่และถูกจับได้" พี่ลูคัสตอบกลับมาอย่างเลือดเย็น

"มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันยังถามหาเงินคืน? " พี่ลูคัสอย่างจ้องมองตรงมาที่ฉันและชี้หน้าอย่างคาดโทษ

"แต่ฉันก็จะพอรู้ ว่าคนร้อนเงินอย่างเธอ"

"ตอนนี้คงไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวจะคืนให้ฉัน! " เขาพูดอย่างดูถูกฉันทุกอย่าง

ซึ่งฉันทำได้เพียงแค่ก้มหน้ารับมัน..

"หวังว่าเธอจะเลิกติดต่ออะไรกับน้องสาวฉันอีกตลอดไปนะ"

"ทำไม? " ฉันถามไปเบาๆ อย่างไม่เข้าใจความหมายที่คนตรงหน้าต้องการจะสื่อถึง

"ฉันไม่เคยไม่หวังดีกับอลิเซียเลยนะคะ" ฉันปาดน้ำตาและพูดออกไปอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมฉันถึงต้องเลิกคบเลิกติดต่อกับอลิเซีย

"งั้นเหรอ? " คนตรงหน้าขยับใบหน้ามาใกล้ จนฉันต้องก้าวถอยหลังเพื่อตั้งหลัก

"การที่เธอหลอกเอาเงินค่าติวเตอร์จากน้องสาวฉันไปทุกเดือนๆ"

"ทั้งที่ยัยอลิเซียไม่เคยไปติวหนังสือ"

"ไม่เคยไปนอนค้างกับเธอเลยสักครั้งเดียว"

"แต่ยัยตัวแสบนั้นหนีไปนอนบ้านผู้ชายแทนโดนอ้างชื่อของเธอ"

"และพวกเธอก็มาเล่นละครตบตาฉันราวกับฉันเป็นคนโง่เชื่อพวกเธอทุกอย่าง"

"คนแบบเธอเนี้ยเขาเรียกว่าหวังดี จริงใจ หรือพวกชอบฉวยโอกาสกันแน่? "คนตรงหน้าเดินเข้ามาประชิดตัวของฉันและจ้องฉันเขม่นอย่างน่ากลัว

"ฉัน..~ไม่ได้คิดแบบนั้น..." ฉันทำได้แค่อ้ำๆ อึ้งๆ อย่างหาคำตอบให้เขาไม่ได้เลย

"จริงๆ ฉันไม่สนใจจะเอาเรื่องเธอหรอกนะ"

"เพราะฉันรู้ว่าไม่มีใครห้ามปามยัยอลิซน้องฉันได้" เขาพูดอย่างถอนหายใจออกมา

"แต่ว่าเธอเองก็มีส่วนที่ทำให้ยัยอลิเซียเสียผู้เสียคนแบบทุกวันนี้ด้วยเหมือนกัน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆ และมองฉันอย่างคาดโทษ

"เพราะฉะนั้น ฉันหวังว่าเธอจะไม่เจอกันอีก" ทันทีที่พูดจบคนตัวสูงก็หันหลังและเดินไปขึ้นรถ ก่อนจะขับผ่านฉันไปด้วยความเร็วและเสียงเครื่องยนต์ที่ดังคำรามของเขา

บรื้น....!!

ฉันกำกระโปรงนักเรียนของตัวเองเอาไว้แน่น ไม่ให้มันพัดปลิวไปตามแรงลมนั้น ฉันมองรถสุดหรูเปิดประทุนนั่นขับออกไปจากมหาลัยแห่งนี้ มันเหมือนกับโอกาสในชีวิตของฉันในตอนนี้ ที่จากฉันไปไกลลิบสุดสายตา