บทที่ 09 นายหญิงเดรโก
ณ คฤหาสน์เดรโก
หญิงสาวตาเบิกโพลงยังคงตื่นตาตื่นใจกับคฤหาสน์ใหญ่ราวกับวังที่เธอไม่คิดว่าจะได้เข้ามาเหยียบ คฤหาสน์สไตล์อิตาลีถูกห้อมล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดชุดดำใบหน้าถมึงทึงนับร้อยชีวิต ภายในตัวบ้านประดับประดาด้วยของตกแต่งสีทองอร่ามเฟอร์นิเจอร์หรูหราครบคันที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าบ้านทั้งหลังได้
"ต่อไปนี้ปลายฝนจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่" ดีแลนประกาศกร้าวต่อหน้าแม่บ้านและบอดี้การ์ดทุกคนในบ้านที่ถูกเรียกมารวมตัวกัน ทันทีที่เขาพูดจบทุกคนก็พร้อมใจกันโค้งคำนับทำความเคารพนายหญิงของบ้าน ในขณะที่ปลายฝนเริ่มทำตัวไม่ถูกเธอยิ้มหน้าแห้งแล้วโค้งคำนับเพื่อเป็นมารยาทตอบกลับไป
"ฉะ ฉันฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
"อีธานจัดการเธอด้วย" ว่าจบดีแลนก็เดินหายไปในห้องทำงานส่วนตัวของเขา ทิ้งให้ปลายฝนยืนงุนงงในดงคนมากมายที่กำลังมองที่เธอเป็นตาเดียว
"ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว นายหญิงเชิญทางนี้ครับ" อีธานผายมือไปยังชั้นสองของบ้าน พร้อมกับเดินนำหน้าเธอขึ้นไปยังห้องพักที่เธอจะต้องอยู่ตลอดระยะเวลาห้าเดือน
"พี่อีธานคะ อยู่กันสองคนเรียกฝนเหมือนเดิมก็ได้ค่ะ ความจริงพี่ก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว" ปลายฝนเอ่ยระหว่างที่กำลังเดินขึ้นห้อง ตั้งแต่เซ็นสัญญาอีธานก็แปลกไป ไม่เล่นไม่สนิทอย่างก่อนหน้า พร้อมกับสรรพนามที่เปลี่ยนไป
"ไม่ได้ครับ ถ้านายได้ยินผมตายแน่ครับ"
"เพื่อความเนียนเหรอคะ?" คนฉลาดอย่างปลายฝนรู้ดีว่าตอนนี้พวกเขาต้องให้การเธอมาเล่นละครเพื่อหลอกใครสักคน แต่ก็ไม่ได้ถามลึกไปถึงขั้นนั้นเพราะสุดท้ายเขาจะให้เธอหลอกใครเดี๋ยวเธอก็คงรู้เอง
"ถึงห้องของนายหญิงแล้วครับ มีอะไรเรียกใช้ผมได้ตลอดครับ ผมอยู่แถว ๆ นี้"
"ขอบคุณค่ะ" อีธานรีบเดินออกไปโดยไม่ได้ตอบคำถามของปลายฝน เธอมองตามแผ่นหลังของคนเดินไวตาปริบ คนที่นี่ทำตัวแปลกกันมาก ไม่พูดไม่จา ไม่ยิ้ม แล้วยังมีความลับเยอะแยะมากมาย สังคมคนกรุงเทพเป็นแบบนี้หรอกเหรอไม่เห็นจะจริงใจเหมือนคนต่างจังหวัดที่เธอรู้จักเลย
ปลายฝนทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่ม ห้องใหม่ที่อยู่ใหม่เทียบกับห้องพักเดิมของเธอแล้วสบายกว่าหลายเท่าตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความเหงาในใจของเธอลดลงได้เลย
เจ้าของใบหน้าหวานยิ้มอ่อน ๆ ในตอนที่จดจ้องรูปครอบครัวที่เป็นรูปเดียวที่เธอมีและติดตัวตลอดเวลา สามคนพรากจากกันโดยไม่หวนคืน ทิ้งไว้เพียงแต่เธอที่ต้องเผชิญกับโลกใบนี้ด้วยตัวคนเดียว ไม่มีความฝัน ความหวังจากใครที่คาดหวังกับเธอเลยสักคน
"คิดถึงมากนะคะ…" ปลายฝนกอดรูปครอบครัวแล้วหลับตาลง น้ำตาแห่งความอ้างว้างไหลเป็นทางคิดถึงมากแต่ก็ไม่สามารถเจอกันได้อีกต่อไป
อีกด้าน
ก็อก ๆ
"เข้ามา" เสียงทุ้มพูดจบมือขวาก็รีบเปิดประตูเข้าไป อีธานโค้งคำนับเสร็จก็รายงานเจ้านายอย่างที่ควรทำ
"ผมพาปลายฝนไปส่งที่ห้องแล้วครับ" ดีแลนเหลือบมองคนที่เพิ่งพูดจบ
"ขอโทษครับนาย ผมพานายหญิงไปส่งที่ห้องเรียบร้อยแล้วครับ"
"แล้วเรื่องที่กูให้สืบไปถึงไหนแล้ว"
"จากที่สายรายงานมานายหญิงไม่เคยข้องเกี่ยวกับคนของไรอันกรุ๊ป เธอมาจากต่างจังหวัดก่อนที่จะมาสมัครงานที่บริษัทเราแค่หนึ่งวันครับ"
"สืบต่อไปว่าอะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เธอแค้นไรอันขนาดนี้"
"ครับนาย"
"เอ่อ…นายครับ"
"มีอะไรก็พูดมา" อีธานรู้ดีว่าดีแลนไม่ชอบคนลังเล ตอนนี้ลูกน้องกำลังทำให้เขาเริ่มหงุดหงิดเพราะเอาแต่คิดว่าควรถามออกไปไหมในขณะที่เขานั้นเริ่มร้อนใจ
"ทำลายไรอันกรุ๊ปถ้าอาวุโสในเดรโกรู้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ครับ ผมแค่ไม่เข้าใจทำไมนายถึงต้องเลือกเธอ ทั้งที่มีคนเหมาะกับตำแหน่งนี้อีกมากมาย และเราไม่ต้องลำบากถึงขนาดนี้"
"เพราะกูมั่นใจว่าปลายฝนจะต่อกลอนกับเธอได้"
"แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ทำได้"
"เหมือนมึงจะมีปัญหากับการเลือกนายหญิงของกู" อีธานก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด เขาแค่หวังดีไม่อยากเพิ่มงานให้เจ้านาย ลำพังเท่าที่มีก็หนักหนาพอควรแล้ว หากยังต้องมาต่อสู้กับไรอันทั้งที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวตั้งแต่แรกมีแต่จะสร้างปัญหาให้เหนื่อยไปกว่าเดิม
"ผมขอโทษครับนาย"
"คำสั่งของกูถือเป็นที่สิ้นสุด ทำตามที่กูสั่งก็พอ"
"ครับนาย"
"มึงคงไม่ได้คิดอะไรกับเธอใช่ไหม?" คำถามของดีแลนทำให้อีธานยิ่งก้มหน้าหนักกว่าเดิม เขาเคยคิดแต่ในเมื่อตอนนี้คนที่เขาเริ่มคิดกลายเป็นนายหญิงของตระกูลแล้ว เขาพร้อมจะรีบตัดความรู้สึกนั้นจากใจในทันที
"ไม่ครับนาย" อีธานรีบตอบเจ้านาย แต่ใช่ว่าดีแลนจะดูไม่ออก
"รีบจัดการความรู้สึกของมึงซะ กูไว้ใจมึงที่สุดอีธาน"
"ครับนาย"
เช้าวันต่อมา
ก็อก ๆ
"นายหญิงตื่นได้แล้วค่ะ" ฉันค่อย ๆ เปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งมองคนที่เรียกในตอนเช้าตรู่ของอีกวัน เมื่อวานฉันหลับทั้งที่ยังกอดรูปครอบครัวเลยเหรอ เมื่อวานเล่นไม่ได้นอนมาทั้งคืนหลับเป็นตายเลยฉัน
"เมื่อคืนดิฉันเห็นนายหญิงพักผ่อนจึงไม่อยากกวน"
"ค่ะ" ฉันยิ้มแห้ง คงรู้กันทั้งบางแล้วว่าฉันเป็นคนสกปรกไม่ยอมอาบน้ำนอน
"ดิฉันเตรียมน้ำอุ่นให้แล้ว นายหญิงจะอาบน้ำเลยไหมคะ?"
"ค่ะ" พอฉันพูดจบแม่บ้านก็ย่างกรายมาหา ก่อนที่จะพยายามถอดเสื้อผ้าจนฉันตกใจรีบดึงเสื้อตัวเองแล้วเอี่ยวหลบ
"ทะ ทำไมอะไรคะ!?"
"อาบน้ำให้นายหญิงค่ะ"
"มะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอาบเองได้" มีการอาบน้ำให้ด้วยเหรอ แค่เตรียมน้ำอาบให้ฉันก็ว่ามันเล่นใหญ่มากเกินพอแล้ว
"ค่ะ นายใหญ่รอที่โต๊ะอาหารแล้ว อาบน้ำเสร็จฉันจะมาช่วยแต่งตัวนะคะ" ยังไม่ทันจะปฏิเสธแม่บ้านก็รีบเดินออกไปจนฉันคว้าได้แต่อากาศ แต่งตัวฉันก็ไม่อยากให้ทำ ทุกอย่างฉันทำเองได้ไม่ใช่เด็กแรกเกิดเสียหน่อย
ฉันโดนแม่บ้านจับช่วยแต่งตัวอย่างที่พูดไว้จริง ๆ ผู้หญิงสองสามคนตอนนี้กำลังช่วยฉันใส่เสื้อผ้าเช็ดผมให้ฉันยกใหญ่ ทั้งที่ฉันปฏิเสธไปหลายรอบแต่ก็ไม่มีใครฟังจนสุดท้ายฉันก็แต่งตัวเสร็จโดยไม่ต้องออกแรงเลยสักนิด
"ใส่เสื้อเดรสตัวนี้ไปทำงาน ไม่เว่อร์ไปเหรอคะ?" เมื่อเห็นตัวเองผ่านกระจกฉันแทบอยากหนีไปถอดแต่โดยเร็ว ชุดตัวนี้ดูไม่เป็นฉันเลยสักนิด แถมถ้าให้ฉันสวมชุดนี้ไปทำงานคงจะอึดอัดจนอยากจะถอดมันออกเสียตรงนั้น มันสวยนะแต่ไม่เหมาะกับการใส่ไปทำงานเป็นเลขา
"เสร็จแล้วค่ะ รีบไปเถอะค่ะ นายใหญ่รอนานแล้ว"
"แต่ฉัน…อะ อ๊ะ เดี๋ยวสิ…" ฉันยังไม่ทันจะได้เถียงแม่บ้านก็รีบลากฉันออกจากห้อง ตรงไปห้องอาหารที่มีคุณดีแลนนั่งอยู่ก่อนแล้วพอเขาหันมามองฉันเป็นจังหวะเดียวกันทำให้เราก็ได้สบตากันพอดี
เขาชะงักนิ่ง…
