4.เจอกันครั้งแรก
ตอนที่4.เจอกันครั้งแรก
วันต่อมา....
@คอนโดหรูใจกลางเมือง
ตึก
ตึก
“รถพร้อมแล้วนะครับ” เสียงทุ้มของมือขวาคนสนิทดังขึ้น ทำให้ใบหน้าหล่อที่กำลังยืนผูกเนกไทอยู่หน้ากระจกบานใหญ่พยักขึ้นลงเล็กน้อย
“อืม”
“เจ้านายจะให้ผมจองตั๋วเครื่องบินไปเชียงรายเลยไหมครับ”
กองทัพเอ่ยถามคนตรงหน้าออกมาอีกครั้ง หลังจากที่มีการเปลี่ยนแผนการเล็กน้อย ทำให้เขาไม่มั่นใจว่าเจ้านายของตัวเองต้องการจะกลับเชียงรายวันไหน
“ยังก่อน ฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการ“ ปากหนาตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ
หลังจากที่ตกลงหมั้นกับลูกสาวของอาเปรมชัย มาเฟียหนุ่มจึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนเล็กน้อย จากเดิมทีที่เขาจะกลับไปที่‘ไร่สวนป่าเขา‘ ตั้งเเต่เมื่อวาน ร่างสูงก็จำต้องอยู่เพื่อทำความรู้จักกับลูกสาวของอีกคนอย่างไม่มีกำหนด
แต่ถึงแบบนั้นอาชาก็ไม่ได้คิดว่านั่นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร เขาไม่ได้รู้สึกคาดหวังหรือนึกถึงว่าที่คู่หมั้นของตัวเองมากเป็นพิเศษ เพราะฟังจากที่ผู้เป็นอาเล่ามา เขาคิดเพียงว่าปรีชญาอาจะเป็นเพียงผู้หญิงเอาแต่ใจคนหนึ่งที่ยังไม่อยากโต
แม้จะไม่ชอบที่จะต้องมาเสียเวลากับผู้หญิงที่ตัวเองไม่รู้จัก แต่อย่างน้อยๆผลตอบแทนที่เขาต้องการ มันก็น่าจะคุ้มค่าเพราะถ้าเปรมชัยช่วยเป็นตัวกลางในการพูดคุยธุรกิจกับนายกให้เขา เพียงแค่นั้นทุกอย่างมันก็จะดูง่ายขึ้นมาเป็นเท่าตัว นั่นหมายคใามว่าเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาติดต่อทางนั้นไปเอง ไม่ต้องเจ็บตัว(เรื่องเงิน) ไปมากกว่านี้ แม้จะต้องแลกไปกับเวลาสามเดือนก็ตาม
“ครับ ถ้างั้นผมลงไปรอด้านล่างนะครับ”
“อืม” ใบหน้าหล่อเข้มพยักตอบกลับอีกรอบ ลับหลังลูกน้องคนสนิทไปแล้ว ร่างสูงก็จัดการเอื้อมมือไปหยิบสูทตัวแพงขึ้นมาสวมใส่
มือหนายกน้ำหอมประจำตัวของตัวเองเข้ามาฉีดพรหมไปทั่ว พร้อมกับจัดการเช็คความเรียบร้อยบนร่างกายของตัวเอง เมื่อรู้สึกว่ามั่นใจแล้วอาชาก็ไม่รอช้าที่จะสาวเท้าออกไป เขาเองก็ถูกเชิญให้เข้าร่วมงานเปิดตัวพรรครักชาติไทยเช่นกัน เพราะมาเฟียหนุ่มเองก็ถือพอที่จะมีคอนเนคชั่นในด้านนี้อยู่บ้าง
อีกด้านของงานเปิดตัว....
“ลูกสาวคุณเปรมชัยเหรอคะ สวยมากเลยนะคะเนี้ย เป็นดารานางแบบได้เลย”
ใบหน้าสวยเผยยิ้มบางๆส่งไปให้เหล่าคุณหญิงคุณนายตรงหน้าที่ต่างพากันมุ่งความสนใจมากที่เธอ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ที่ปรีชญาได้มาออกงานแบบนี้ ดูเหมือนวันนี้จะเป็นการเปิดตัวพรรคการเมืองแบบที่มีแต่แวดวงคนรวยเท่านั้นที่ได้เข้างาน มันคือการเปิดตัวแบบยังไม่เป็นทางการ
“ฮ่าๆ ขอบคุณมากครับคุณโสมสิ” เจ้าสัวเปรมชัยหัวเราะตอบกลับอย่างยอมรับในคำชื่นชมนั้น
“สวยๆแบบนี้ต้องมีหนุ่มๆมาจีบเยอะแน่เลย แบบนี้ก็ต้องรีบแต่งแล้วสิคะเจ้าสัว หลานดิฉันจะคลอดเดือนหน้าแล้วนะคะ ประเดี๋ยวจะตามกันไม่ทัน”
ปรีชญาหุบยิ้มลงแทบไม่ทันเมื่อได้ยินประโยคถัดมา เธอกะเอาไว้แล้วเชียวว่าจะต้องมาได้ยินอะไรแบบนี้ นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หญิงสาวไม่อยากเข้าร่วมงานที่มีเหล่าคุณลุงคุณป้าพวกนี้อยู่ด้วย เพราะเธอไม่อยากตอบคำถามไร้สาระ
“:)“
”เอาก่อนเลยครับคุณหญิง ผมไม่รีบ ยินดีเรื่องหลานด้วยนะครับ“ เจ้าสัวเปรมใจตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นึกรู้เป็นอย่างยิ่งว่าตอนนี้ลูกสาวคงกำลังรู้สึกไม่ชอบใจคนพูดอยู่เต็มที
“ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ฉันรอแสดงความยินดีอยู่นะคะ”
ในระหว่างนั้น จู่ๆก็มีร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาอย่างพอดิบพอดี เพราะเขาเองก็เพิ่งเดินทางมาถึงที่นี่ไม่นานมากนัก
“สวัสดีครับคุณอา” เสียงทุ้มต่ำของอาชาเรียกร้องความสนใจต่อผู้คนอยู่ไม่น้อย รวมไปถึงปรีชญาที่ค่อยๆหันไปมองร่างสูงบึกบึนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ด้วยสีหน้าสงสัยใคร่รู้
ดวงตากลมเฉี่ยวชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเลื่อนสายตาไปปะทะเข้ากับใบหน้าคมเข้มดูดีที่สามารถดึงดูดความสนใจของเธอได้ แต่ทว่าปรีชญาก็ยังคงแสดงสีหน้าราบเรียบออกมา ราวกับไม่ได้สนใจในตัวของอีกฝ่ายมากนัก แต่ความหล่อที่มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าอีกคนเป็นลูกครึ่งนั้นก็ทำเอาหญิงสาวแอบรู้สึกสะดุดใจอยู่ไม่น้อย
“อ้าว อาชามาถึงแล้วเหรอ”
”อุ้ย ใครเหรอคะคุณเปรมชัย โสมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยค่ะ“ คุณหญิงโสมสิเมื่อเห็นร่างสูงดูดีเดินเข้ามาก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็นว่าอีกคนเป็นใคร
“คนนี้อาชาครับคุณโสม เป็นหลานชายผมเอง แล้วก็กำลังจะกลายมาเป็นคู่หมั้นของลูกสาวผมเร็วๆนี้ด้วยครับ” เปรมชัยยกยิ้มตอบกลับอีกคนด้วยความรู้สึกยินดีปรีดา โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้ลูกสาวของตัวเองกำลังงงเป็นไก่ตาแตก
เพราะหลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น ปรีชาญาก็ชะงักค้าง หันไปมองชายหนุ่มที่กำลังยืนมองหน้าเธออยู่ด้วยสายตาพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วน.....คนนี้น่ะหรือจะมาเป็นคู่หมั้นคนต่อไปของเธอ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะดูดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก เพราะถ้าให้เทียบกับทั้งสามคนที่ผ่านมา อาชาดูจะน่าเกรงขามมากที่สุด
แต่แล้วยังไง.....ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอะไร เพราะสุดท้าย หญิงสาวมั่นใจว่าอีกคนจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอยกเลิกงานหมั้นไปเอง เช่นเดียวกับทุกคนที่ผ่านๆมา
มันไม่ได้ยากสำหรับเธอเลยสักนิด
“จริงเหรอคะ ยินดีด้วยนะคะที่จะได้ลูกเขยหล่อขนาดนี้ ไว้แต่งเมื่อไหร่อย่าลืมเชิญฉันนะคะเจ้าสัว”
คุณหญิงโสมสิหัวเราะคิกคักอย่างรู้สึกชอบใจในความหล่อของร่างสูงที่ยืนยกยิ้มมาให้ อาชายิ้มรับคำชมนั้นบางๆ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมามากนัก ปล่อยให้ผู้ใหญ่พูดคุยกันไปก่อน จนกระทั่ง....โสมสิขอตัวออกไปจากบริเวณนี้
“อาชานี่ปริมลูกสาวอา ส่วนปริมนี่พี่อาชาที่พ่อบอก” เปรมชัยไม่รอช้าที่จะแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน
ซึ่งอาชาพอได้สังเกตุมองหน้าของหญิงสาวชัดๆ เขาก็รับรู้ได้ถึงสายตาของเธอที่มองเขาอยู่ด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ แค่เจอกันวันแรกเขาก็รับรู้ได้ถึงความแสบซ่าของอีกคน แค่มองตาเธอ....เขาก็พอจะรู้
“สวัสดีครับ“ อาชาเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายหญิงสาวก่อน เขาเอื้อมมือซ้ายไปหาอีกคนหวังทำความรู้จักตามสไตล์วัฒนธรรมตะวันตก
แต่ทว่าปรีชญาที่เห็นแบบนั้นกลับเมิน หญิงสาวเชิ่ดหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้ พร้อมกับกล่าวทักทายตามแบบฉบับของชาวไทย เธอตั้งใจทำให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้ยินดียินร้ายที่จะหมั้นกับเขา
”สวัสดีค่ะ“
”.....“ ใบหน้าหล่อค่อยๆชักมือกลับคืน ท่ามกลางสีหน้าเหนื่อยใจของเจ้าสัวเปรมชัยที่หันไปมองหน้าหลานชายอย่างต้องการขอโทษอยู่เนืองๆ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมลูกสาวของตัวเองได้จริงๆ
”อาชามาก็ดีเลย อาฝากอยู่เป็นเพื่อนน้องหน่อยนะ พอดีอาจะไปคุยกับหัวหน้าพรรคสักหน่อย“ เปรมชัยไม่รอช้าที่จะสร้างสถานการณ์ให้ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกัน โดยที่หญิงสาวก็รู้อยู่แก่ใจ
“ครับคุณอา” ปากหนาเอ่ยรับ
