#พี่หลามคนจริง EP.5 ภูมิแพ้ (เธอ) (1)
“เป็นไงบ้าง”
“เป็นไงที่ว่าหมายถึงอะไรเหรอ” ฉันทำไม่รู้ไม่ชี้เมื่อทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องส้มหวานก็หันมาถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น ถึงจะพอรู้ว่าเธออยากจะถามอะไร แต่ฉันก็ไม่อยากบอกนี่นาว่าเมื่อกี้ลงไปหาเขามา แถมโดนเขาแกล้งด้วย ยังเขินๆ อยู่เลย
“พี่หลามไง” ส้มเรียกชื่อเขาขึ้นมาตรงๆ พลางฉีกยิ้มกว้างอย่างล้อเลียน “นึกว่าจะขึ้นมาด้วยกันซะอีก”
“บ้าเหรอ นิ้งเป็นผู้หญิงนะส้ม” ฉันหน้าแดงแล้วเดินไปตีแขนส้มที่นอนเล่นโน๊ตบุ้คแชทกับใครสักคนเบาๆ อย่างขัดเขิน ใครจะกล้าพาเขาขึ้นห้องกันล่ะ เขาเป็นผู้ชายนะ น่าเกลียดแย่เลย “ส้มนี่พูดอะไรก็ไม่รู้”
“แต่เมื่อกี้ก็แอบลงไปคุยกันใช่มั้ยล่ะ” ส้มหวานหัวเราะคิกคัก แล้วเลื่อนโน๊ตบุ้คให้ฉันอ่านข้อความที่แชทกัน “ก็เมื่อกี้เพื่อนส้มอยู่ข้างล่าง มันบอกว่าเห็นนิ้งกับพี่หลามยืนสวีทกันข้างล่างตั้งนาน แถมพี่หลามยังถลึงตามองพวกมันด้วย”
“...!”
“พี่หลามนี่โคตรขี้หวงเลยว่ามะ” ฉันหน้าแดงสุดๆ ก็ตอนที่เห็นข้อความที่ดูล้อเลียนสุดๆ ของเพื่อนเธอ แถมยังมีรูปภาพส่งมาด้วย มันเป็นรูปตอนที่ฉันนั่งตักของฉลามดุบนรถมอเตอร์ไซค์ ตอนที่นั่งฉันไม่รู้หรอกว่ามันดูเป็นไง แต่ตอนนี้รู้แล้ว ฮือ “มันบอกว่าตอนแรกจ้องนิ้งมากไปหน่อยเพราะคุ้นๆ หน้าว่าเป็นเพื่อนส้ม แต่ก็โดนสายตาพี่หลามทำเอาไม่กล้ามองต่อเลย”
“... เขาก็มองแบบนั้นกับทุกคนนั่นแหละ”
“นิ้งจ๋า พี่หลามเขาชัดเจนกับเธอขนาดนี้แล้วนะ มีแต่นิ้งนั่นแหละที่เอาแต่กลัวพี่เขาอยู่ได้” ฉันชะงักไปแล้วทำหน้ามุ่ยเมื่อมันเป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็ฉันยังไม่เคยมีแฟนนี่นา ฉันไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย แล้วก็คุยกับเขาแค่ไม่กี่วันเองด้วย “ถ้ายังไม่พร้อมก็เปิดใจลองคุยๆ กันไปก่อนก็ได้นี่”
“แต่นิ้ง” ฉันก้มหน้างุด ไม่ค่อยอยากจะยอมรับนักหรอกค่ะ ว่าฉันน่ะอ่อนประสบการณ์เรื่องความรักสุดๆ เลย “นิ้งไม่เคยมีคนคุยอ่ะ”
“ก็พี่หลามนี่ไง” ฉันแทบจะเอาหมอนมาตีแก้มส้มเลย ย้อนเป็นฉลามดุตลอดเลยนะ “ลองคุยดู ส้มว่าพี่หลามเหมาะกับนิ้ง เขาดูพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อนิ้งเลยนะ”
“ก็ไหนส้มบอกว่าแรกๆ ที่มาจีบผู้ชายก็ทำแบบนี้กันทุกคนนี่” ฉันเถียงอีก
“ก็ใช่นะ แต่ส้มแค่รู้สึกว่าพี่หลามดูทุ่มเทไม่เหมือนคนอื่น” ส้มหวานผู้เชี่ยวชาญเรื่องรักๆ พูดอย่างงั้นพร้อมกับทำสีหน้ามั่นใจ ถึงจะไม่มั่นใจแต่ก็เริ่มเอนเอียงนิดๆ เพราะส้มเองก็ค่อนข้างเป็นที่ปรึกษาในกลุ่มเรื่องความรัก “งั้นเอางี้ ถ้านิ้งอยากมั่นใจจริงๆ พรุ่งนี้ก็ลองอ้อนอะไรจากพี่หลามดูสิ”
“อ้อนเหรอ?” ฉันทวน ก่อนที่ต่อมาจะก้มหน้างุด “... ไม่เอาอ่ะ”
“ก็ต้องลองดูนา จะได้รู้ไปเลยว่าเขาพร้อมจะทำทุกอย่างตามที่นิ้งขอรึเปล่า” ฉันคิดตามคำพูดของเธอ แล้วก็พึมพำออกมา
“พรุ่งนี้เขาก็บอกว่าจะเอารถเพื่อนมารับนิ้งกับส้มไปส่งที่มหาลัยด้วยนะ...”
“รถ! มารับด้วย” ส้มหวานทำสายตาแวววาว ก่อนที่ต่อมาจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “งั้นส้มจะแกล้งหลับ จากนั้นนิ้งก็อ้อนขออะไรจากเขาก็ได้เลยนะ”
“เอ่อ... มันไม่ดีเลยนะส้ม”
“ดีจะตาย โอเค เอาแผนนี้แหละ!” คนตัวเล็กไม่ยอมฟังความเห็นของฉันเลยสักนิด เธอปิดโน๊ตบุ้คแล้วล้มตัวลงนอนพร้อมกับห่มผ้าอย่างรวดเร็ว ส่วนฉันก็เคลื่อนตัวเข้าไปในผ้าห่มตามเธอ แล้วร่างบางก็กระซิบกระซาบ “ขออะไรหนักๆ หน่อยนะ ให้พี่แกไปไม่เป็นเลย”
“ก็ได้จ้ะ” ฉันเองก็ปฏิเสธส้มหวานไม่เคยได้เลย แล้วก็ไม่ได้อยากปฏิเสธด้วย จะว่ายังไงดีนะ... ว่าลึกๆ แล้วฉันเองก็สนใจเขา แล้วก็นึกอยากแกล้งอีกฝ่ายดูบ้างเหมือนกัน
นี่ฉันกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
เช้าวันต่อมา
ฉันรีบตื่นมาอาบน้ำแล้วนั่งรอที่ห้องรับแขกด้านล่างตั้งแต่แปดโมงตรง
แต่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลยนะ ก็แค่อยากรีบไปเรียนเร็วๆ เท่านั้นเอง
“พี่หลามมายังอ่ะ” ส้มเองก็พอๆ กัน เธอบอกว่าตื่นเต้น อยากเห็นคนท่าทางเถื่อนๆ โดนคนซื่อๆ อย่างฉันแกล้งบ้างเพราะไม่เคยเห็น จากนั้นก็ดึงฉันให้ลุกขึ้นแล้วดันให้ฉันไปอาบน้ำก่อน ผลก็เลยปรากฎว่าเราลงมานั่งรอฉลามดุตั้งแต่แปดโมงตรง
“นิ้งไม่เห็นเลย”
“โทรหาพี่หลามเร็วนิ้ง” ฉันอ้าปากค้าง มองส้มที่ส่งโทรศัพท์ที่ฉันฝากไว้กับเธอเมื่อเช้าให้แล้วก็จนใจต้องกดหาเบอร์เขาที่จำได้ เพราะเบอร์โทรศัพท์เขาเป็นเบอร์ติดกัน มันจำง่ายดีค่ะ แล้วโทรออกด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก
ฉันได้ยินเสียงรอสายอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่โทรศัพท์จะถูกรับอย่างรวดเร็ว แต่พอฉันอ้าปากจะพูด ก็ได้ยินเสียงเหมือนโทรศัพท์ตกพื้นคล้ายๆ กับว่าปลายสายเผลอไปปัดมันตก ก่อนที่เสียงของฉลามดุจะดังขึ้นมา
[... ไงนิ้ง] เสียงของเขาดูงัวเงียมากเลย เหมือนเพิ่งตื่น ฉันก็เลยอึกอักที่จะตอบเขากลับไป
“ยะ... ยังไม่ตื่นเหรอ”
[อ่า... ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว] เขาพูดซ้ำกันสองครั้ง เสียงแหบมากเลย ให้ตายสิ อยู่ดีๆ ฉันก็รู้สึกเขินขึ้นมา เพราะแอบคิดว่าเสียงของเขาตอนเพิ่งตื่นมันน่ารักดี [มีอะไรเหรอ โทรมาแต่เช้า]
“แทนตัวเองว่านิ้งสิ” ฉันได้ยินส้มหวานป้องปากกระซิบ แล้วก็กลืนน้ำลายเอื้อกก่อนที่จะทำตามที่เธอบอก
“นิ้ง... นิ้งรอนานแล้ว”
เขาเงียบไปทันทีที่ฉันพูดจบประโยคนั้น แล้วฉันก็หน้าแดงขึ้นมาเมื่อไม่ชินที่จะต้องพูดอะไรแบบนี้ [... ว่าไงนะนิ้ง]
“นิ้งรอฉลามนานแล้วนะ”
[...]
“นึกว่าจะตื่นแล้ว รีบมาหาได้มั้ยคะ”
[... ได้ดิ] เสียงของเขานิ่งมากหลังจากเงียบไปนานพอดู ฉันไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงกันแน่ จนกระทั่งฉลามดุพูดขึ้นมาอีก คราวนี้เสียงของเขาดูไม่งัวเงียเหมือนเดิมแล้ว [เดี๋ยวจะรีบออกไป]
“อะ... อื้อ”
[ห้ามหนีไปไหนนะ]
“อื้อ”
[ถ้าหนีเราจะไปตามถึงหน้ามหาลัยเลย]
“อะ... อื้อ! รีบมาเลยนะ” เขาพูดอะไรของเขาเนี่ย รู้มั้ยว่าฉันไปไม่เป็นนะ ฉันจะต้องเป็นฝ่ายแกล้งเขาไม่ใช่เหรอ “ถ้าไม่รีบมานิ้งก็จะไม่รอแล้ว”
[...]
“จะไม่รอจริงๆ นะ”
[รู้แล้วครับผม! จะรีบออกไปเดี๋ยวนี้ เลิกทำเสียงแบบนั้น] ฉันแทบเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูแทบไม่ทันเมื่อทันทีที่ทำเสียงที่ (พยายาม) อ้อนๆ ใส่เขา ฉลามดุก็ตะโกนกลับมาด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง
หรือว่าเขาจะไม่ชอบที่ฉันทำเสียงแบบนี้นะ มันดูไม่จริงใจใช่รึเปล่า
“ทะ... ทำไมอ่ะ ไม่ชอบเหรอ” เสียงของฉันแกว่งไปอย่างไม่มั่นใจ แล้วก็รู้สึกแย่นิดๆ ด้วย จนเขาตอบกลับมานั่นแหละ
[ชอบดิ]
“...”
[แล้วก็อยากให้เธอพูดแบบนี้แค่กับเราคนเดียวด้วย] ฉันหน้าร้อนขึ้นมาจนต้องเอามือมาปิดหน้าไว้ ไม่อยากให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาตรงนี้เห็นเลยว่าฉันหน้าแดงขนาดไหน [แต่ได้ยินแล้วไม่โอเคไง รู้ปะ... เรากลัวว่าเราจะไม่ทำแค่ไปส่งเธอเฉยๆ]
“หะ... หา?”
[เรากลัวจะเผลอหน้ามืด ก็แบบว่า... ฮะๆ] และพอได้ฟังเขาแบบนั้นฉันก็อ้าปากค้างออกมาทันที เลือดบนใบหน้าสูบฉีดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายต้องเลือกที่จะพูดตัดบทกับเขาด้วยเสียงติดอ่าง
“วะ... วางแล้วนะ รีบมานะ”
[ได้ เจอกัน]
ติ๊ด
ฮือ
“เฮ้ย นิ้ง!” ส้มหวานร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อทันทีที่วางสายฉันก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาพร้อมกับเอามือมาปิดหน้าทันที ฉันทนฟังคำพูดพวกนั้นจากเขาไม่ไหวจริงๆ หน้าฉันมันร้อนจนชาไปหมดเลย
ฉันไม่ชินจริงๆ นะ ฉันไม่ชินมากๆ เลย
“พี่หลามบอกว่าไงบ้าง ทำไมอยู่ๆ ถึงทำท่าเหมือนคนหมดแรงอย่างงั้นล่ะ” ส้มถามขึ้นมาอย่างสงสัย แล้วฉันก็ได้แต่มองหน้าเธอด้วยสีหน้างอแงเหมือนจะร้องไห้
“เขา... เขาแกล้งนิ้งอีกแล้วอ่ะ”
คนนิสัยไม่ดี!
