#พี่หลามคนจริง EP.3 วายร้าย (3) จบตอน
ผมโมโหมาก ตั้งแต่เริ่มแดกยันจ่ายเงิน
จนตอนนี้ผมขับรถมาส่งนิ้งที่หน้ามหาลัยก็ยังหงุดหงิดไม่หาย นี่ถ้าไอ้เด็กเสิร์ฟนั่นมันทำมากกว่านั้นนะผมจะไม่ทำอะไรมันหรอก เชื่อดิ แต่จะพังร้านแม่งเลย
คะนิ้งยังมีท่าทางงุนงงไม่หาย ตอนที่เธอลงจากรถแล้วส่งหมวกกันน็อคให้ผม ผมพยายามแล้วที่จะไม่หงุดหงิดใส่เธอ แต่ก็เผลอกระชากหมวกกันน็อคมาอย่างรุนแรงนิดหน่อย นิ้งเซไปนิดๆ แล้วผมก็คว้าเอวเธอไว้อย่างเพิ่งรู้สึกตัว
“เฮ้ย ขอโทษ” เธอทำหน้าเหวอ ส่วนผมก็ได้แต่ขยี้หัวแรงๆ ในขณะที่จะผละมือออกเมื่อเธอทรงตัวได้แล้วร่างเล็กก็ดันมือผมออก “เราโทรไปหาส้มหวานอะไรนั่นของเธอแล้วนะ เดี๋ยวเพื่อนเธอจะตามมาทีหลัง”
ใช่ เพราะโทรศัพท์ของคะนิ้งแบตหมดผมก็เลยอาสาจะโทรหาเพื่อนเธอให้ ถึงแม้ตอนแรกเธอจะมีท่าทีไม่เต็มใจ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางเลือกเลยให้ผมโทรให้อยู่ดี
ถึงผมจะหงุดหงิด แต่เธอก็คือที่หนึ่งในใจผมนะรู้ตัวไว้ซะด้วย
“อะ... โอเค” เธอพยักหน้า “งั้นหนูไปแล้วนะคะ ขอบคุณที่เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวค่ะ”
เธอพูดขอบคุณเสร็จก็พร้อมจะหมุนตัวหนีเข้ารั้วมหาลัย แล้ววินาทีนั้นผมก็เห็นว่าผู้ชายที่เดินเข้าออกประตูหน้ามหาลัยเอาแต่มองตัวเล็กๆ ที่สมส่วนของคะนิ้งแบบไม่วางตา ก็เธอสวยแถมยังน่ารัก ความหงุดหงิดของผมก็เลยยิ่งเพิ่มขึ้นไปแบบทวีคูณ
“เดี๋ยว” และพอคิดได้แบบนั้นผมก็คว้าแขนเธอให้คะนิ้งหันมาเผชิญหน้าด้วย เธอเบิกตากว้าง ในขณะที่ผมจะกุมมือเธอไว้แน่น “เราเข้าไปรอด้วยได้มั้ยวะ?”
“หะ... หา”
“เราไม่อยากให้เธอนั่งคนเดียว ผู้ชายไม่น่าไว้ใจเยอะแยะ” ผมตัดสินใจที่จะพูดออกมาด้วยเจตนาตรงๆ ในขณะที่เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้คะนิ้งที่แทบผงะหนี “พูดง่ายๆ คือเราหวงเธอ”
“...!”
“เราไม่อยากให้ใครจีบเธอทั้งนั้นอ่ะ แค่มองก็ไม่ชอบ”
“...”
“ให้เราไปเฝ้าเธอได้มั้ยวะ เดี๋ยวเย็นนี้เราไปส่งที่หอ สัญญาว่าจะไม่ทำอะไร”
“...”
“สาบานเลยก็ได้”
ผมก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ เธอแค่นั้นว่ะ เอาจริงๆ
[จบพาร์ท : ฉลามดุ]
สุดท้ายฉันก็เลยต้องจำใจให้ฉลามดุมานั่งรอส้มหวานด้วยกัน
ถึงแม้ว่าฉันจะแอบกลัวๆ อยู่บ้าง แต่ฉันเป็นคนไว้ใจคนง่าย ดูแล้วฉลามดุก็แค่ใจร้อนแต่เขาก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร ฉันก็เลยพอจะคลายความกลัวลงได้บ้างนิดหน่อย
แต่... แต่ฉันก็ยังไม่ได้ชอบเขาหรอกนะ
“นิ้งนี่เนื้อหอมว่ะ” ฉันสะดุ้งเมื่อนั่งอยู่ด้วยกันดีๆ ฉลามดุก็โพล่งขึ้นมา นานแล้วที่เขาจอดรถแล้วเดินลากฉันเข้ามานั่งด้วยกันที่ม้าหินอ่อนหน้ามหาลัย มีแต่คนมองมาทางนี้ทั้งนั้น เขาก็เลยพูดมันขึ้นมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดแบบนี้
“นะ... เนื้อหอม?” ว่าแต่... เขาพูดอะไรอ่ะ เนื้อหอมเหรอ ฉันเนื้อหอมตรงไหน? “ไม่เห็นเนื้อหอมเลย”
“นี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอ” เขาหันมาทำสีหน้าไม่พอใจใส่ฉัน แล้วอยู่ๆ ก็ชี้ไปรอบๆ จนคนที่มองเราอยู่ต้องชะงัก “ก็เห็นอยู่ว่าพวกผู้ชายมองแต่เธอ”
“...”
“เราหงุดหงิดจะตายอยู่แล้วเนี่ย” เขาเลื่อนมือข้างนั้นมากอดอก ฉันก็เลยอึดอัดจนไม่รู้จะพูดอะไร ก็เขาอาจจะแค่มองมาทางนี้เฉยๆ ก็ได้นี่นา ก็ฉลามดุน่ะสะดุดตาคนจะตาย ดูเขาเถื่อนๆ แบบนี้แต่เขาก็หน้าตาดีนะ “เธอช่วยน่ารักน้อยลงหน่อยได้ปะ”
“...”
“ช่วยทำตัวให้น่ารักน้อยลงหน่อย คนมอง ไม่ชอบ”
ละ... แล้วจะให้ฉันทำยังไง นี่เขาพูดอะไรเนี่ย
“... ไม่เข้าใจที่คุณพูดเลย”
“ก็เธอน่ารักไง ไม่รู้เหรอ... คนอื่นเขาก็มองเธอไง มองแบบที่เรามองอ่ะ เราไม่ชอบ โคตรไม่ชอบ” ฉันทำสีหน้าตกใจเมื่อเขาพูดยืดยาวใส่ แล้วสีหน้าของฉลามดุก็ดูจะฉุนจัดเอามากๆ “บอกแล้วไงว่าเราหวง ไม่ได้เป็นอะไรก็หวง เข้าใจยัง”
อะ โอ้ย
“ขะ... เข้าใจก็ได้” ฉันแทบจะเบะหน้าอยู่ตรงนั้นเพราะพูดอะไรไม่ออก เขาพูดตรงเกินไปแล้วนะ ฉันทำตัวไม่ถูกอีกแล้วเพราะคำพูดของเขาเนี่ย “เค้าอาจจะมองเฉยๆ ก็ได้นะ ก็คุณ...”
“อะไร”
“ก็คุณ... ก็ไม่ได้แย่ ผู้หญิงก็มองคุณเหมือนกัน... นะ” ท้ายประโยคเสียงฉันเบาลงเพราะจู่ๆ ฉลามดุก็คว้าหมับเข้าที่ต้นแขน แล้วดึงให้เข้ามาใกล้ๆ จนใบหน้าของเขาอยู่ใกล้ปลายจมูกของฉันมาก แล้วร่างสูงก็เริ่มกระซิบ
“หึงเหรอ” ฉันเบิกตากว้างสุดๆ ในขณะที่จะมองไปทางอื่นอย่างเลิ่กลั่ก คนอื่นเค้ามองมาที่เรากันหมดแล้วนะ
“มะ... ไม่ได้หึง”
“แล้วพูดทำไมว่าผู้หญิงมองเยอะ” ฉันทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อเขาถามออกมาตรงๆ อย่างไม่คิดจะปล่อยคำถามทิ้งง่ายๆ ฉันอ้าปากจะตอบ แต่ต่อมาก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทางที่นั่งของเราทั้งคู่จนฉันต้องเม้มปากเข้าหากันอย่างตกใจ
เธอเป็นผู้หญิงที่ดูสวยน่ารักมากคนหนึ่ง ฉันจำได้ลางๆ ว่าเธอเป็นดาวคณะนิเทศน์ แต่เธอไม่ได้สนิทกับฉันนี่ เราแทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ
“ดีจ้ะ” เธอมองฉลามดุสลับกับฉันแล้วคลี่ยิ้ม
“เอ่อ... ค่ะ” ฉันทำหน้าตื่นเมื่อเธอหันมาทักทายอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่ร่างบางจะหันไปอีกฝั่ง เหมือนเธอไม่ได้จงใจจะทักฉันตั้งแต่แรกแล้ว
“ชื่อไรเหรอ” แล้วพูดกับผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉัน วินาทีนั้นเขาคลายมือออก ส่วนฉันก็ดันตัวเองออกไปแล้วนั่งหันหน้าไปอีกทาง ไม่รู้ว่าเขาทำสีหน้าแบบไหน แต่ที่รู้ๆ ก็คือฉลามดุไม่ยอมตอบผู้หญิงคนนั้นกลับไปเลยจนเธอต้องถามย้ำ “นี่ นายอ่ะชื่อไร”
“ฉลามดุ” ฉันได้ยินเสียงเขาตอบสั้นๆ แล้วอยู่ดีๆ ก็รู้สึกแย่ขึ้นมา
ความจริงเขาจีบฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงยอมตอบง่ายๆ เลยล่ะ หรือว่าที่เขาจีบฉันอยู่ฉลามดุจะไม่ได้จริงจังกันนะ
แต่ไม่รู้จะคิดเห็นแก่ได้แบบนั้นไปทำไม ยังไงสถานะเราก็เป็นแค่คนรู้จัก อีกอย่างฉันก็กลัวเขามาก ถ้าเขาจะไปคบกับใครคุยกับใคร มันก็ดีไม่ใช่เหรอ
“มีไลน์มั้ย เบอร์ก็ได้ เราชอบลุคนายอ่ะ” ฉันถึงกับเหวอเมื่อเธอพูดออกมาได้ตรงมาก ไม่คิดว่าจะพูดตรงขนาดนี้ แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าดาวคณะจะชอบผู้ชายประมาณนี้ จนต้องหันกลับไปมองเธอที่ตอนนี้ก็หันมาจ้องหน้าฉันอยู่เหมือนกัน
ฉันหันไปมองคนตัวสูงข้างตัว แล้วก็เห็นว่าเขากำลังเลิกคิ้ว
“ชอบเหรอ?” เขาทวน “ชอบตรงไหน หน้า? หรือที่สัก?”
“ทุกอย่าง” เธอหันมาตอบเขาในทันที ส่วนฉันก็ตั้งท่าจะลุกหนีออกไปเพราะรู้สึกว่าตัวเองจะค่อนข้างเป็นส่วนเกินในบทสนทนานี้ไปแล้ว
หมับ
แต่ว่า
ฉลามดุกลับคว้าเอวของฉันไว้แล้วดึงให้นั่งลงข้างๆ เขาไหล่ชิดไหล่อย่างทันท่วงที ในขณะที่จะกอดเอวฉันเอาไว้แนบอกท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมา หรือแม้แต่ผู้หญิงที่ยืนขอเบอร์เขาอยู่ตรงหน้าด้วย
แล้วร่างสูงก็ทำให้ฉันแทบลืมหายใจด้วยประโยคนี้
“แต่เรามีแฟนแล้ว แฟนเราขี้หึงมากด้วย ขอโทษนะ”
