FIRST LOVE เผลอรักหมดใจผู้ชายแบดบอย

84.0K · จบแล้ว
อยู่ในตะเกียงแก้ว
31
บท
9.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"เธอต้องจูบให้เป็น" " จูบให้อีกฝ่ายรู้สึก" " และนี่แหละคือบทเรียนสำคัญในวันนี้” “ฉัน…… [ทำตัวไม่ถูกเลย]” ฉันไม่กล้าสบสายตาคู่นั้น และรู้สึกแปลก ถึงแปลกมากที่สุด “ ฉันแค่จูบเธอเพื่อสอนเท่านั้น หรือว่าเธอคิดอะไรกับฉัน?” “ป่าวซะหน่อยแต่นั่นมันเป็นจูบแรกของฉันนะ"

นิยายรักโรแมนติกประธานรักหวานๆรักวัยรุ่นเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกนักศึกษาเด็กเรียน18+

Ep.1 Santa Cruz & Mira【1】

Wednesday,December 25

Christmas Day 2019

Mirarun Story

ย้อนกลับมาที่คืนวันคริสต์มาสของนศ.แพทย์มิรารันคนนี้สักหน่อย

ณ ห้องประชุมใหญ่ของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง

“ช่วงเทศกาลแบบนี้ หมออาวุโสที่ใกล้จะเกษียณอายุทั้งยังมีวันหยุดสะสมกันมานานก็มักจะได้สิทธิ์ลาหยุดเพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง หลังจากที่พวกท่านเสียสละแรงกายและเวลาทุ่มเทกับงานรักษาผู้ป่วยมาเนิ่นนาน” เสียงประกาศดังออกจากไมค์ในงานประชุมรวมกับการเลี้ยงสังสรรค์ส่งท้ายปีของทางโรงพยาบาล

“ผมจึงขอให้เป็นหน้าที่ของหมอรุ่นใหม่ไฟแรงและว่าที่หมอทุกคนที่จะต้องคอยดูแลคนไข้หรือคนเจ็บจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี” พี่หมอคนหนึ่งเริ่มกล่าวพูดเปิดงานคริสต์มาสฉบับเนิร์ด ๆ

“และโรงพยาบาลของเราต้องขอบคุณทางมหาวิทยาลัยมาก ๆ ที่ส่งน้อง ๆ นักศึกษาแพทย์มาฝึกงานที่นี่” พี่หมอท่านนั้นหันมายิ้มต้อนรับเราอย่างใจดี

“พี่หมอกันต์นี่หล่อจัง ยิ้มทีกูแทบละลาย แกปล่อยพี่เขาหลุดมือไปได้ไงวะ ยายมิรา” ยายวีโอเลตยืนเบียดไหล่ฉันอย่างหยอกล้อ

ใครจะรู้ว่าพี่หมอกันต์คนนี้น่ะ ก็คือรุ่นพี่ของฉันที่โรงเรียนเก่านั่นเอง จริง ๆ เราเคยคุย ๆ กันนะ แต่ห่าง ๆ ไปในตอนที่พี่เขาเข้าเรียนแพทย์ได้ ถึงจะมีกลับมาคุยกันบ้าง... แต่เหมือนมันต่อไม่ติดแล้วละ

ในระหว่างที่ฉันกำลังยืนรอรับชุดกาวน์สำหรับฝึกงานอยู่

“ไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ สงสัยกินของในงานเลี้ยงเยอะไปนิส” ยายวีโอก็ชิ่งโยนใบรับชุดให้ฉัน ก่อนจะรีบเดินอย่างลน ๆ

“ยายวีโอเอ๊ยย ตะกละตะกลามจริง” ฉันบ่น ๆ ไล่หลัง

จากนั้นจึงต่อคิวหยิบชุดกาวน์ให้ตัวเองและเพื่อน

“ได้ชุดแล้วไปรอที่แผนกฉุกเฉินเลยนะเด็ก ๆ คืนนี้วันคริสต์มาสคนเจ็บอาจจะเยอะหน่อย อย่าตกใจกันนะ พวกเราก็คงได้ทำแผลกันประปราย ถ้าเคสหนัก ๆ ก็มีพี่หมอกันต์กับหมอคนอื่น ๆ คุมอยู่แล้ว” พี่พยาบาลคนหนึ่งพูดอย่างยิ้มแย้มและพาฉันเดิน

ระหว่างนั้นภายในห้องฉุกเฉินก็มีหมอประมาณ 3 คนกำลังนั่งประชุมกันอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือพี่กันต์นั่นเอง

ส่วนฉันก็นั่งรออยู่ที่โต๊ะของใครสักคน ตามที่พี่พยาบาลให้นั่งรอนั่นแหละ

เนื่องจากนักศึกษาแพทย์จะถูกแบ่งออกไปดูงานตามแต่ละแผนกที่อาจารย์เลือกให้

ฉันนั่งเล่นโทรศัพท์และไลน์ตามยายวีโอให้รีบมา เพราะอยู่คนเดียวก็เปลี่ยว ๆ เหมือนกันแฮะ...

ฉันนั่งไปเรื่อย ๆ รอเวลาพี่หมอ ๆ ทั้งหลายประชุม เอาจริง ๆ เราเพิ่งเรียนมาแค่ 1 ปี ยังรักษาอะไรไม่ได้หรอก คงได้แค่ทำแผลและช่วยพี่ ๆ พยาบาลไป...

23:59 นาฬิกา

ฟุ่บบ มีคนมานั่งประจำที่เดิมของเขา ซึ่งโต๊ะที่ฉันนั่งก็คือ...

“Merry Christmas นะมิรารัน” พี่กันต์ยิ้ม ๆ และยื่นกล่องของขวัญใบจิ๋วให้ มันถูกห่ออย่างเรียบ ๆ มีริบบิ้นสีชมพูคาดเอาไว้

“พี่กันต์” ฉันเงยหน้าจากโทรศัพท์เล็กน้อย... อย่างงง ๆ

ขณะที่ฉันรับกล่องนั้นโดยพยายามจะไม่ยิ้มออกมาเพราะดีใจที่ได้มัน...

ตุบบบ ฟั่บบบบ!!!! ประตูห้องฉุกเฉินเปิดขึ้นอย่างแรง จนหมอทุกคนต้องหันไปดูที่ต้นเสียง หรือคนเจ็บคนแรกในคืนนี้นั่นเอง

“ไม่ต้องเข็น ยังเดินไหว” ผู้ชายคนนั้นบอกเสียงแข็งกับบุรุษพยาบาลที่กำลังเข็นรถตรงเข้าไปหาเขา อีกฝ่ายมีเลือดออกที่แขนและหางคิ้ว ก่อนเดินเข้ามาในห้องฉุกเฉินราวกับไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย

“คุณ... ครูซ” พี่หมอคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปรับหน้าอย่างเร่งรีบ

เขาหันมาสบตาฉันเพียงชั่วครู่และเมินหน้าไปทางอื่น ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ทำแผลหน้าพี่หมออีกคนในห้องฉุกเฉินนี้

ฉันก็ละสายตาจากการมองคนเจ็บมามองพี่หมอกันต์แทน

“ขอบคุณนะคะ” แล้วกล่าวขอบคุณพี่หมอไปทันที

แต่ยังไม่ทันที่จะได้คิดไปไกล หรือเข้าข้างตัวเองใด ๆ

พี่กันต์ก็หยิบกล่องของขวัญขึ้นมาอีกชิ้นเหมือนกับที่ฉันเพิ่งรับมาเลย

“พี่ฝากให้เพื่อนเราด้วยนะ ถือว่าเป็นของขวัญขอบคุณที่สละเวลามาช่วยพวกพี่ ๆ”

“เดี๋ยวพี่ไปดูคนไข้ก่อนนะ” แล้วพี่กันต์ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานของเขา เพื่อเดินตรวจคนไข้ตามเตียงต่าง ๆ จริง ๆ ในห้องนี้มีผู้ป่วยฉุกเฉินอยู่ไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็มาจากการเมาและขับทั้งนั้น

ไม่นานยายวีโอก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมสวมชุดกาวน์ทับชุดนักศึกษาแบบเดียวกับฉัน

“พี่กันต์ฝากให้ไว้ให้อะ” ฉันยื่นกล่องของขวัญนั้นให้ยายวีโอเลตทันที

“ออ ถึงว่าละเห็นพวกพี่พยาบาลถือกันเต็มเลย” ยายวีโอก็รับไว้และเก็บใส่กระเป๋าเสื้อไป

พี่กันต์นี่ใจดีกับทุกคนเลยจริง ๆ แฮะ ฉันแอบมองตามและคิดเพียงในใจอย่างนอยด์ ๆ

พอมองไปเรื่อย สายตามันดันสะดุดเข้ากับคนเจ็บล่าสุดซึ่งนั่งเงียบ ๆ กดโทรศัพท์และปล่อยให้หมอทำแผลไปแบบชิว ๆ ทั้งที่เลือดอาบตัวมาซะขนาดนั้น

“คนหรือเปล่าเนี่ย เหมือนเขาไม่เจ็บอะไรเลย” ฉันแอบมองและนินทาหมอนั่นในใจ

“แกนินทาคนหล่อ ๆ นั่น ใช่ปะ” ยายวีโอเลตก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ฉันและพูดขึ้น

ฉันส่ายหน้าอย่างไม่ยอมรับ

“น้อง... น้องคนหนึ่งในสองคนอะ พาคุณครูซไปเข้าอุโมงค์เอกซเรย์และเอาผลกลับมาให้พี่ที่นี่ที ขอแบบด่วนเลยนะ” พี่หมอใส่แว่นหน้าตี๋เอ่ยเรียก

ฉันกับยายวีโอก็หันมองหน้ากันอย่างงง ๆ

“ใครอีกคนมาช่วยกดแผลห้ามเลือดตรงนี้ให้พี่ทีครับ” อีกด้านพี่กันต์ก็พูดขึ้นและหันมามองทางฉัน

“งั้นเดี๋ยวฉันพาคนหล่อนั่นไปเอกซเรย์เองส่วน… แกก็… ไปตามหาหัวใจนะ” ยายวีโอเลตกระซิบ ๆ และผลักฉันไปทางพี่กันต์ ก่อนที่นางจะเดินไปหาพี่หมอแว่นที่ดูเครียด ๆ คนนั้น

ฉันจึงเดินไปช่วยงานพี่กันต์ทันที

“กดเลือดเอาไว้ก่อน เดี๋ยวพี่จะเย็บแผลคนไข้” พี่กันต์ส่งถุงมือหมอให้ฉันสวมใส่ และบอกวิธีโดยการเอามือของเขากดทับมือฉันอีกที

“กดแบบนี้ค้างไว้นะ” เขาพูดขึ้นเบา ๆ ก่อนจะหันหน้าไปเตรียมอุปกรณ์

“แค่ทำแผลก็พอหมอ ฉันรีบ!” เสียงของคนไข้จอมเยอะนั่นพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยอยากจะให้หมอรักษาสักเท่าไหร่

“หมอขอรอดูผลเอกซเรย์ก่อนนะครับ เพราะดูจากอาการบาดเจ็บและแรงกระแทกที่ได้รับมา มันก็น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย อาจจะมีช้ำด้านในหรือเป็นปัญหาตรงกระดูกบริเวณแขนที่คุณครูซรู้สึกเจ็บ” พี่หมอหน้าตี๋แทบจะพูดวิงวอนให้รักษา

“แค่มาทำแผลเองหมอ จะยุ่งยากทำไม” คนเจ็บถอนหายใจอย่างรำคาญ ๆ เหมือนเขาเบื่อเต็มทน

ถ้าเป็นฉันนะ ไม่อยากรักษาก็ไม่ง้อหรอก ฉันคิดภายในใจ

“พาคุณครูซไปอุโมงค์เอกซเรย์เลย ฝากดูแลดี ๆ ด้วยนะ และรีบพากลับมาหาพี่ เดี๋ยวจะรีบขึ้นไปเคลียร์ห้องวีไอพีให้ก่อน” ไม่นานก็เห็นพี่หมอหันไปพูดกับยายวีโอเลตอย่างซีเรียส ๆ…

“คนนั้นคือครูซ หลานชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลที่มีเครืออยู่ทั่วประเทศไทยอะ เขาไม่ค่อยยอมให้ใครรักษาง่าย ๆ และเป็นคนใจร้อน ไม่ชอบรออะไรนาน ๆ” พี่กันต์พูดขึ้นเบา ๆ เมื่อเห็นว่าฉันกำลังแอบมองชายคนนั้นด้วยความสงสัย

“แบบนี้เราต้องรักษาด้วยเหรอคะ” ฉันแค่บ่นขึ้นเบา ๆ

“คนไข้น่ะมีหลายรูปแบบเลยนะ อาชีพหมอคือการรักษาผู้ป่วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นคนแบบไหน เราก็ต้องพยายามรักษาเขาให้ได้ มันคือจรรยาบรรณนะมิรา” เขาไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงดุดันอะไร เหมือนแค่รุ่นพี่สอนรุ่นน้องเพียงเท่านั้น

“ค่อย ๆ เรียนรู้ไป ไม่ต้องรีบ” ก่อนจะยิ้มให้ เมื่อเห็นว่าฉันนิ่งไป

“ค่ะ” ฉันก็พยักหน้ารับ

“ปล่อยมือได้แล้วละ” พี่กันต์จับมือของฉันออกจากแผลบริเวณต้นขาของชายร่างท้วมคนหนึ่งที่พึ่งถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลขย้ำมาหมาด ๆ ดูเอาการอยู่เหมือนกัน

อีกฝ่ายถูกกัดมาแบบไม่ตั้งใจ เกิดจากการเล่นกับมันและน้องหมาน่าจะกัดพลาดเลยโดนเข้าที่ขาเจ้าของตัวเอง แต่เขาไม่ได้โวยวายหรือโกรธอะไรมาก เพียงแค่ขับรถมาเย็บแผลและฉีดยาตามปกติ ฉันแอบอ่านที่พี่กันต์เขียนเอาไว้ในประวัติของคนป่วยน่ะ

หลังจากนั้นพี่กันต์ก็ตั้งใจเย็บแผลให้คนเจ็บอย่างตั้งใจมาก ๆ โดยมีฉันยืนให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ

“กรรไกรหน่อย” เสียงทุ้มพูดขึ้น ซึ่งฉันก็รีบยื่นให้ทันที

“เสร็จแล้วนะครับ เดี๋ยวรอฉีดยากันพิษสุนัขบ้า วันนี้ก็สามารถกลับบ้านได้เลย” ก่อนบอกกับชายคนนั้นไป

“ขอบคุณนะครับหมอ” อีกฝ่ายก้มหัวให้พี่กันต์และฉัน

“แต่ต้องล้างแผลและฉีดยาจนครบ 5 เข็มนะครับ” พี่กันต์อธิบายต่อ ซึ่งคนไข้ก็พยักหน้าตาม

หลังจากรักษารายนี้เสร็จ เราก็เหมือนจะค่อย ๆ เคลียร์คนไข้ในห้องฉุกเฉินไปได้บ้าง แต่ก็มีคนเข้าออกเรื่อย ๆ จริง ๆ นั่นแหละ

“ทำไมเราไม่ฉีดยาผู้ชายคนนั้น 14 เข็มล่ะคะ พี่กันต์” ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ

“สงสัยตำราเรียนของมิรายังไม่เปลี่ยนแน่ ๆ เลย… จริง ๆ วัคซีนฉีด 14 เข็มรอบสะดือยกเลิกมาสักพักแล้ว เพราะทำจากสมองสัตว์และมีผลข้างเคียงเยอะกว่า” เขาเริ่มอธิบายอย่างละเอียดให้ฉันฟังตามหลักวิชาการ

“ดีแล้วที่มิรามาฝึกงานที่นี่ จะได้รับความรู้ที่ใช้ได้จริงเอาไปเปรียบเทียบกับตำราเรียน อันไหนควรประยุกต์ใช้ อันไหนควรปรับเปลี่ยน” พี่กันต์ถอดเครื่องช่วยฟังเสียงหัวใจออกจากลำคอและสอดเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อกาวน์ของเขาแทน

“ตอนนี้ไปนั่งพักได้แล้ว เดี๋ยวจะหักโหมเกินไปในวันแรกนะครับ” จากนั้นจึงยิ้มให้ฉันบาง ๆ ด้วยท่าทีใจดี

“หมอกันต์คะ ได้เวลาตรวจอาการคนไข้ชั้น 6 ของคุณหมอประเวศแล้วค่ะ” พยาบาลสาวคนหนึ่งเดินถือแฟ้มเอกสารของคนไข้สี่ห้าแฟ้มมาหาพี่กันต์ คงเป็นเพราะหมอบางท่านลาหยุด งานเลยมาตกที่เขาแน่ ๆ เลย… ฉันทำได้แค่มองตามอย่างช่วยเหลืออะไรไม่ได้มาก

“งั้นฝากเราช่วยพี่ ๆ ดูแลทางนี้ด้วยนะ เดี๋ยวพี่มา…” พี่กันต์หันมาพูดกับฉัน ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับพยาบาลคนนั้น แล้วห้องฉุกเฉินก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

และฉันได้แต่ภาวนาให้ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มในวันนี้เลย เพราะสภาพหมอและพยาบาลแต่ละคนคือเหนื่อยมาก

“นี่ขนาดยังไม่ถึงวันปีใหม่จริง ๆ นะเนี่ย” พี่หมอผู้ชายอีกคนในห้องถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยใจ

แต่ตอนนี้คนที่ยังนั่งไม่ติดเก้าอี้ก็คือพี่หมอตี๋ใส่แว่นซึ่งจัดเตรียมห้องพิเศษและรอผลตรวจเอกซเรย์จากยายวีโอที่ยังไม่มาสักที

เมื่อไม่มีอะไรยุ่ง ๆ ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัปเดตข่าวของทางบ้านสักหน่อย

ป่านนี้คงสวีตกันเป็นคู่ ๆ ไปแล้วแน่ ๆ พวกพี่ ๆ ฉัน

IG : Mirarun_. (Private instagram)

Liked by Pariss_xox and 29 others

Mirarun_ Merry Christmas 2019 ?????

Vio.1999 back to real life girl ??⚕️??⚕️ ??

Lipdar_xox we miz u girl ?

Pariss_xox xmas my lil sis ?? cheer up ✌?

Kyle_pr. ??

ฉันเปิดโทรศัพท์เมื่อมีแจ้งเตือนขึ้นมาในอินสตาแกรมที่ฉันเพิ่งจะอัปเดตรูปของเมื่อวาน ลงในวันคริสต์มาสแทน เพราะตั้งแต่กลับมากรุงเทพก็แทบไม่มีเวลาทำอะไรเลย

Instagram

Follow Requests

Kunn_yct Confirm. Delete

ฉันหยุดอยู่ที่แจ้งเตือนว่ามีคนต้องการจะฟอลโล่ไอจี และคนนั้นก็คือ… พี่กันต์…

Kunn_yct started following you…

Kann_yct

230 likes

Kunn_yct A day in life of a doctor ?

View all 50 comments

December 25 ,2014

ภาพสุดท้ายและภาพเดียวในไอจีของพี่กันต์ คือรูปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะส่องอะไรเพิ่มเติม

Line ***

Line ***

ทำให้ฉันต้องเปิดเข้าไปดูข้อความไลน์ที่เด้งขึ้นไม่หยุดจากยายวีโอเลต

Violett : แก… คนเจ็บหล่อ ๆ ที่มากับฉันอะ

พออ่านไลน์ก็รู้สึกงง ๆ

Violett : หาย!!!!!!!

Mira. : ฮะะะ

Violett : ไม่รู้หายไปได้ไง ออกจากห้องเอกซเรย์มาก็ไม่เจอแล้วอะ

Mira : ที่นี่ก็ไม่มีนะ

Violett : พี่หมอแว่นหน้าตี๋นั่นด่าตายแน่เลย เขาบอกย้ำกับฉันว่าให้ดูคนนี้ดี ๆ

อ่านจบจึงเหลือบไปมองทางพี่หมอตี๋ใส่แว่นที่กำลังนั่งดูนาฬิกาเป็นพัก ๆ ด้วยใบหน้าที่เริ่มเครียด

Mira : งั้นเดี๋ยวฉันช่วยออกตามหานะ เจ็บขนาดนั้นคงไปไหนไม่ได้หรอกมั้ง

Violett : โอ๊ยอยากจะร้องไห้ ดูแลคนไข้คนแรกในชีวิตก็ดันหายซะงั้นอะ อาชีพหมอที่แสนริบหรี่ของวีโอ

Mira : ไม่เอาน่า ๆ ช่วยกันหาก่อน ๆ อย่าเพิ่งเครียด

ฉันก็รีบเดินเนียน ๆ ออกจากห้องฉุกเฉินทันที เพื่อตามหาตัวคนไข้ที่หายไปของยายวีโอเลต

แต่แล้วฉันก็สะดุดตาเข้ากับรถสุดหรูที่เหมือนของพี่เขยตัวเอง อย่างPorsche black เปิดประทุน จอดอยู่ติดกับห้องฉุกเฉินอย่างไม่แคร์กฎโรงพยาบาลใด ๆ นี่ไม่มียามคนไหนห้ามเลยรึยังไงนะ ทว่ายังไม่ทันจะได้คิดพิจารณาอะไร