ตอนที่4 ง่ายไป
“โอ้ย!” ความรู้สึกปวดร้าวทั่วร่างกายวิ่งพล่านไปทั่วทันทีที่รางบางขยับตัว ทำให้เธอเลือกจะนอนนิ่งๆ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากและได้เห็นห้องที่ไม่คุ้นเคย ห้องที่ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ
เมื่อสติกลับมาครบเรื่องราวเมื่อคืนก็ไหลเข้าหัวของหญิงสาวอีกครั้ง เธอที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งเอายาบางอย่างกรอกปาก
และหลังจากนั้น...
“ฮึก!” น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ผู้ชายคนนั้นเขาเลวที่สุด เขาทำร้ายคนที่ไร้ทางสู้ได้อย่างเลือดเย็น และยังใช้วิธีสกปรกอย่างมาก เธอเกลียดเขา
แกร็ก! เสียงประตูที่ดังขึ้นทำให้ขนมพายหันไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะเห็นร่างสูงของผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามา
วินาทีที่เขาหันมาสบตากับเธอรอยยิ้มร้ายก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา มันทั้งน่ากลัวและน่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน
“คิดว่าเธอจะตายไปแล้ว” คามินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันทั้งที่เขาทำร้ายเธอมาก่อน
“คุณทำแบบนี้กับฉันทำไม” ขนมพายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงติดสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
มันทั้งโกรธ ทั้งกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง สิ่งที่เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
เขาไม่ตอบแต่เดินมานั่งขอบเตียงใกล้ๆ กับขนมพาย ทำให้เธอพยายามขยับตัวเพื่อออกห่างจากเขาทันที แต่มือหนาของเขาก็ยื่นมาบีบสองข้างแก้มของขนมพายได้ก่อน ทำให้ร่างกายที่ช้าอยู่เป็นทุนเดิมไม่สามารถขยับห่างจากตัวเขาได้
“ปละ...ปล่อย” เธอพยายามดึงมือหนาออกจากปากของตัวเอง แต่เขากลับยิ่งบีบมันแน่นขึ้นจนต้องเบ้หน้าด้วยความปวดร้าว
“จะบอกฉันไหม ว่าใครส่งเธอมา” คามินหรี่ตามองขนมพายแล้วถามขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที
“ฉันบอกคุณไปแล้ว ว่าฉันแค่มาหลบคนที่จะทำร้ายฉัน อึก! ไม่ได้มีใครส่งมาทั้งนั้น”
“แล้วเธอไปหลบอยู่ใต้โต๊ะทำไม”
“ก็ฉันได้ยินเสียงเปิดประตู ฉะ...ฉันก็แค่กลัวเลยไปหลบ” เพราะเธอไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร เธอก็เลยหลบเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและรอโอกาสดีๆ ออกไปก็แค่นั้น
“เธอคิดว่าจะทำยังไงให้ฉันเชื่อเธอ” คามินเอ่ยถามขึ้น นั่นยิ่งทำให้ร่างบางหวาดหวั่นอย่างมาก
“ฉะ...ฉันไม่รู้” ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเขาถึงจะเชื่อเธอเหมือนกัน
“เธอรู้ไหมว่าคนที่มันเข้ามาหาความลับที่นี่ มันไม่เคยได้กลับออกไปครบสามสิบสอง”
“ฮึก!” ขนมพายสะอื้นขึ้นด้วยความกลัว
ทั้งคำพูดและสายตาของเขา เธอไม่รู้หรอกว่าที่เขาพูดแค่ต้องการขู่หรือว่าทำจริง แต่ด้วยบุคลิกของเขามันก็น่ากลัวจนเขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
“เชียงใหม่ช่วงนี้อากาศเป็นยังไง เธอลองถามพ่อแม่ของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ” คำพูดพร้อมรอยยิ้มร้ายๆ ของคามินเอ่ยออกมา
และนั่นก็ทำให้ขนมพายชะงักนิ่งไปทันที เพราะสิ่งที่เขาพูดมันบ่งบอกได้อย่างดีกว่าเขารู้เรื่องของเธอ แล้ว เชียงใหม่จังหวัดที่แม่ของเธออยู่กับพ่อเลี้ยง สวนส้มคืออาชีพที่ท่านทั้งสองกำลังทำกันอยู่
“คุ...คุณคิดจะทำอะไร” ขนมพายเอ่ยถามน้ำเสียงติดขัดด้วยความกลัว ความกังวลสะกิดใจเธอทันที ถ้าเขาทำร้ายแม่หรือพ่อเลี้ยงเธออย่างที่เขากำลังพูดอยู่ล่ะก็...
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไร...”
“แต่ถ้าเธอคิดจะเล่นแง่กับฉัน ฉันก็ไม่รับประกันความปลอดภัยของพ่อแม่เธอเหมือนกัน”
“คุณอย่าทำอะไรพ่อแม่ฉันเลยนะคะ ฮึก! ฉันบอกคุณไปแล้ว ว่าฉันไม่รู้เรื่องที่คุณพูด ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้คุณเชื่อแล้ว ฮืออ”
“ถ้าเธอพูดความจริงฉันอาจจะเชื่อเธอ แต่นี่...จุ๊ๆๆ ” ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยออกมาก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างคนโรคจิต
“ถ้าคุณเก่งและมีอำนาจขนาดนั้น กะ...ก็สืบหาความจริงไปเลยสิคะ...”
“แต่ระหว่างที่ยังไม่ได้ความจริง คุ...คุณไม่มีสิทธิ์ทำร้ายฉันหรือว่าคนอื่น” ถึงมันอาจจะดูโง่ที่เอ่ยต่อรองออกไป แต่ในเมื่อเขายังหาคำตอบไม่ได้เขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรใคร เพราะถ้าเขารู้ความจริง เขาจะชดใช้สิ่งที่เขาทำได้ยังไง
“เธอเป็นใครฉันถึงต้องฟัง” คามินเลิกคิ้วถามอย่างไม่ใส่ใจ
“มันไม่ยุติธรรม” เธอรู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ไปต่อรองกับเขา แต่สิ่งที่เขาทำกับเธอเมื่อคืนก็ไม่ยุติธรรมมากพอแล้ว ถ้าเขายังจะทำอะไรมากกว่านั้นมันก็เกินกว่าเหตุไปแล้ว
“หึ! ความยุติธรรมคืออะไรเหรอสาวน้อย ฉันรู้จักแต่คำว่าพอใจ” ผู้ชายตรงหน้าพูดขึ้นอย่างไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงทำเลวได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ฮืออ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันกลัวแล้วจริงๆ ” ขนมพายยกมือไหว้ขอคามินออกมาอย่างไร้หนทางด้วยความกลัว ทั้งกลัวว่าเขาจะทำร้ายเธอ และกลัวว่าเขาจะยุ่งกับครอบครัวของเธอ
“สรุปจะยอมตายเพื่อเจ้านาย?” คามินเลิกคิ้วถามขึ้นอีกครั้ง
“ฮืออ ฉันไม่มีเจ้านาย ไม่มีใครส่งฉันมาจริงๆ ฉันไม่รู้จะทำยังไงให้คุณเชื่อฉันแล้ว ฮือออ” เธอได้แต่ส่ายหัวร้องไห้ขึ้นอย่างจนปัญญา
ไม่ว่าจะพูดยังไงเขาก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด แล้วเขาจะถามเธอทำไม ทำไมไม่ไปสืบเอาเองเลยจะได้รู้ว่าอะไรจริงอะไรโกหก
“ชู่วว อย่าร้อง” น้ำเสียงเยือกเย็นพร้อมกับนิ้วเรียวแต่มีความหยาบกร้านเล็กน้อย ยกขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้กับขนมพายอย่างอ่อนโยน นั่นยิ่งทำให้เธอน้ำตาไหลออกมามากกว่าเดิม เพราะการกระทำที่สวนทางกับตัวตนของเขามันทำให้เธอทั้งกลัวและอยากพาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฮืออ สิ่งที่ฉันได้ยินฉันจะไม่ไปบอกใคร ฮึก ฉันไม่ได้ตั้งใจมาเพราะใครส่งฉันมาจริงๆ ” เธอพยายามขอร้องเขาอย่างสุดความสามารถ
“อยากออกไปแล้วเหรอ” คามินถามขนมพายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าตอนแรก
“อื้อ” เธอรีบพยักหน้าตอบทันที
และ...
“เสียใจด้วยนะ มันง่ายไปสำหรับฉัน”
