Bad Love พันธะรัก

135.0K · จบแล้ว
บีน่าเลดี้
49
บท
36.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"อื้อ! พี่คิม จะทำอะไรหนู" "ก็ถ้าหนูยังแกล้งหลับต่อ พี่จะถอดเสื้อผ้าปลุกหนูน่ะสิ" “หนูตื่นแล้ว พี่คิมทำหนูเปียกหมดเลย ทำไมไม่เป่าผมให้แห้งล่ะคะ" พริกหวานยู่ปากต่อว่าเขาอย่างน่ารัก กลบเกลื่อนที่ถูกเขาจับได้ว่าแกล้งหลับ ทำไมเขาถึงได้รู้ทันเธอไปซะทุกเรื่อง “ไม่เนียนเลยเด็กน้อย” เขาหัวเราะออกมา ก่อนจะโน้มตัวไปคร่อมร่างบางที่นอนราบอยู่ “พี่คิม อย่าแกล้งหนู” พริกหวานเอามือดันหน้าท้องแกร่งไว้ ก็เขานุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนบางๆ พันไว้ที่เอวสอบโชว์หน้าท้องซิกซ์แพ็ก อีกทั้งสัดส่วนของเขาดูกล้ามเนื้อแน่นสุขภาพดี ยิ่งมีน้ำเม็ดเล็กเกาะตามผิวกาย ยิ่งทำให้รูปร่างของเขาสัดส่วนสวยงามราวกับรูปปั้น "อึบ!" เธอกระดึ๊บตัวไปเหมือนตัวหนอนให้พ้นวงแขนแกร่ง จากนั้นเธอก็หยัดตัวนั่งชิดมุมโซฟา "ให้หนูเช็ดผมให้ไหมคะ" พริกหวานอาสา ที่เห็นเขาเอาแต่เสยผม ไม่ยอมเอาผ้าเช็ดผมให้แห้งสักที "เอาสิ" ว่าจบเขาหยัดตัวขึ้น พริกหวานมองงงๆ ว่าเขาจะลุกทำไม แต่แล้วเธอก็ร้องโวยวายเสียงหลง เมื่อเขาจะปลดผ้าเช็ดตัวออกจากเอวสอบ "พะ...พี่คิมทำอะไรคะ" พริกหวานถามเสียงสั่น เธอรีบยกมือใบหน้าแต่กางนิ้วออกกว้างตรงบริเวณดวงตา เมื่อเห็นเขาจะปลดผ้าออกจากเอวสอบ "อ้าว ก็ไหนหนูบอกว่าจะเช็ดผมให้พี่ไม่ใช่เหรอ" เขาทำท่าจะปลดปมผ้าออกจากเอวสอบด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ "ยะ…อย่าถอดนะคะ หนูหัวใจจะวาย จริงๆ นะ" พริกหวานขยับตัวรีบเอามือไปจับมือสากไว้ด้วยมือที่สั่นระริก -------------------------------- คำเตือน! นิยายเรื่องนี้มีฉาก NC เรท 18+ และพฤติกรรมไม่ค่อยเหมาะสม เหมาะสำหรับบุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป [ตัวละคร สถานที่ ในนิยายเรื่องนี้ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงจินตนาการที่แต่งขึ้นของนักเขียนเพียงเท่านั้น ผู้แต่งไม่ได้มีเจตนายุยงส่งเสริมให้ลอกเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตัวละครในเรื่องนี้แต่อย่างใด กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน] *ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 *ห้ามคัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง เนื้อหาโดยเด็ดขาด

นิยายรักรักหวานๆรักแรกพบเศรษฐีโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นฟินๆ

Chapter 1

รถมินิคูเปอร์สีชมพูขับเคลื่อนมาจอด บริเวณโรงเหล้าเถื่อนย่านชานเมืองในเวลาสี่ทุ่มครึ่ง แค่ชื่อคลับก็รู้แล้วว่าที่นี่ค่อนข้างเทาๆ แต่ทว่าเด็กมหา’ลัยกลับนิยมมาเที่ยวกัน

“แฮปปี้นิวเยียร์อีกครั้งค่ะเพื่อนสาว” เจ้าของรถคันหรูใบหน้าสวยจิ้มลิ้มน่ารักระบายยิ้มหวานทะเล้นอวยพรเพื่อนสาวคนสนิทที่ยืนสวยๆ รอเธออยู่โซนหน้าโรงเหล้า

“คืนนี้หล่อนต้องได้เกิดแน่ยัยพริกหวาน แต่งตัวได้ยั่วน้ำลายเสือจริงจริ๊ง” โมนาสาวสองสุดแซ่บทั้งประชดทั้งชมพริกหวาน ที่สวยแซ่บคูณสิบด้วยชุดเกาะอกสีดำผูกโบด้านหน้าโชว์หน้าท้องขาวแบนราบอวดเอวคอดกิ่วใส่แมตช์คู่กับกางเกงยีนขาสั้นโชว์เรียวขาสวย ลุคนี้ส่งให้พริกหวานดูเย้ายวนตาเป็นอย่างมาก

“แกก็ไม่เบาเลยนะ แม่สาวอกสะบึ้ม” พริกหวานยกมือไปบีบนมโมนาอย่างมันเขี้ยว ที่ใส่เสื้อแหวกเต้าโชว์นมที่พึ่งไปอัปไซซ์มหึมา

โมนามีชื่อเดิมว่านโม แต่พอเข้ามหา’ลัยก็เลยเปลี่ยนชื่อเป็นโมนา เป็นสาวแซ่บ หุ่นสูงราวกับนางแบบ หน้าตาสายฝอ

“โอ๊ย ยัยพริกหวาน เดี๋ยวนมฉันแตก ฉันไปอัปไซซ์มาให้ผู้ชายจับ ไม่ได้ให้หล่อนกับยัยวิกกี้บีบเล่นเหมือนลูกโป่ง” โมนาสะดีดสะดิ้งตามจริตของเธอ เพราะเพื่อนสาวทั้งสองมักชอบเข้ามาจับมาบีบมาขยำนมของเธออยู่เรื่อย

“แรดมาก คืนนี้หวังว่าหล่อนคงไม่ทิ้งฉันกับยัยหวานไปกับผู้หรอกนะ” วิกกี้สาวหมวยสุดแซ่บหรี่ตามองโมนาอย่างจับผิด เวลามาเที่ยวคลับเที่ยวบาร์ด้วยกันทีไร โมนามักชิ่งหนีไปกับผู้ทุกที ประมาณว่ามาสามกลับสอง อีกคนแรดไปกับผู้ชาย

“ไม่ขอตอบเรื่องของอนาคตนะคะสาว” โมนาพูดแบบจีบปากจีบคอ

“ไม่ขอตอบเท่ากับว่าไปกับผู้แน่ๆ” วิกกี้ตอบแทนพร้อมเบะปากมองบน

“ทายได้แม่นนะเนี่ย โอ๊ยๆ ยัยหวาน บีบนมฉันอีกแล้วนะ” โมนาร้องเสียงหลงแบบโอเวอร์แอคติ้ง เมื่อพริกหวานยกมือไปบีบขยำนม

“หวงนมไว้ให้ผู้เหรอ? ทีหลังถ้ายัยโมนาใช้ให้เรานวดนมให้มัน เราต้องเมินแล้วนะยัยกี้ จับนิดจับหน่อยทำเป็นร้องเสียงหลงโอดโอย ทีผู้ชายจับล่ะร้องกระเส่าเชียว” พริกหวานพูดประชดโมนาอย่างหมั่นไส้

“ดีลค่ะ” วิกกี้ยกมือไปแท็กกับพริกหวานแกล้งโมนาอย่างนึกสนุก

“เลิกนอยด์ที่ฉันไม่ให้บีบนม แล้วเข้าไปข้างในกันเถอะ ฉันอยากเป็นแมวเมี้ยวๆให้เสือล่าแล้ว” โมนาโอบไหล่มนเพื่อนสาวตัวเล็กเข้าไปในคลับ

“อยากกลับแล้วอะ” พอเข้ามาในคลับ วิกกี้ชะงักหยุดเดิน เมื่อเห็นนักร้องบนเวทีเป็นบุคคลที่เธอไม่ชอบเลยสักนิด ถ้าเธอรู้มาก่อนว่าเขามาร้องเพลงที่นี่ เธอจะไม่มาเที่ยวที่นี่เลย เธอทำกรรมอะไรไว้นะ ทำไมยิ่งเกลียดยิ่งเจอไอ้เลวนี่

“พรหมลิขิตแล้วแหละ” โมนาแซววิกกี้ เมื่อนักร้องในค่ำคืนนี้เป็นดินแดน ผู้ชายที่วิกกี้เจอกันทีไรมักมีปากเสียงกันทุกที อีกทั้งช่วงนี้ยังคอยมาวอแววิกกี้อยู่บ่อยๆ สงสัยว่าแก๊งของเธอ วิกกี้คงขายออกเป็นคนแรก

“พรมเช็ดตีนน่ะสิ” วิกกี้สวนตอบทันที ใครจะอยากเป็นพรหมลิขิตกับไอ้นักร้องเสียงหลงกันล่ะ

“ท่าทางของหล่อนเนี่ยนะ เหมือนเมียโกรธผัวที่ไม่ทำการบ้านอย่างนั้นแหละ” โมนาหรี่ตามองวิกกี้อย่างจับผิด

“ตบปากตามอายุเดี๋ยวนี้เลยนะ ต่อให้เหลือผู้ชายคนเดียวบนโลก ฉันก็ไม่มีวันเอาไอ้นักร้องเสียงหลงเป็นผัว!” วิกกี้พูดอย่างหงุดหงิด

“ไม่เคยได้ยินสำนวนสุภาษิตที่ว่า เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้นเหรอ"

"สำนวนนี้ใช้ไม่ได้กับคนอย่างฉัน"

"โอเคจ้ะเพื่อนร๊ากกกก งั้นพักเรื่องผู้ชายไว้ก่อน แล้วเดินไปนั่งโต๊ะกันเถอะ ฉันเมื่อยขาแล้วเนี่ย” โมนาจะฉุดดึงพริกหวานและวิกกี้ไปนั่งที่โต๊ะ แต่ทว่าพริกหวานกลับยื้อตัวเอาไว้

“หยุดอีกละนังชะนี คืนนี้เราจะเดินถึงโต๊ะกันไหม กูจะได้แดกเหล้าไหมคะสาว” คราวนี้เป็นพริกหวานที่ยืนชะงักนิ่งอยู่กับที่ อีกทั้งยังหลบหลังโมนาเหมือนแอบใครในนี้อย่างนั้นแหละ

“เรากลับกันดีไหม” พริกหวานขยับตัวไปปรึกษาวิกกี้ เมื่อเห็นคิมหันต์กับเลขาของเขานั่งอยู่โซนวีไอพี

ส่วนใหญ่พริกหวานมักเห็นคิมหันต์เที่ยวที่คลับครอบครัวของเธอ ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ เธอไม่อยากเจอหน้าเขาเลย

“พวกหล่อนเป็นไรกันเนี่ย ไปนั่งโต๊ะได้แล้ว” โมนาที่ทนความอ้อยอิ่งของเพื่อนสาวไม่ไหว จึงฉุดดึงทั้งสองไปนั่งที่โต๊ะทันที

“เป็นอะไรยัยพริกหวานนนน...” โมนาถามเสียงยาวกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของพริกหวาน ที่ทำเหมือนคนแอบผัวมาเที่ยว แล้วโป๊ะแตกเจอผัวที่นี่

“เปล่าๆ” พริกหวานส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ทว่ากลับทำตัวเล็กตัวน้อยจนแทบจะมุดไปใต้โต๊ะ เพื่อหลบใครสักคนที่นี่

“เลิกทำเหมือนคนหนีผัวมาเที่ยวสักทีเถอะ มาๆ ชนแก้ว!" พอเข้าที่เข้าทาง โมนาส่งเหล้าที่ชงแล้วยื่นให้พริกหวานและวิกกี้

กริ๊ง! เสียงแก้วสีใสดังกระทบกัน จากนั้นสามสาวสุดแซ่บก็ยกน้ำสีอำพันขึ้นดื่ม พอแอลกอฮอล์สูบฉีดเข้าเส้นเลือด ทำให้พริกหวานและวิกกี้ดูผ่อนคลายความกังวลใจ

“ดินแดนเสียงดีมาก” โมนาชมนักร้องบนเวทีที่ร้องเพลงอกหักได้ซึ้งกินใจ

“เสียงหมาหอนหรือเปล่ายัยโมนา” วิกกี้สวนกลับทันทีที่โมนาพูดอะไรไม่เข้าหูสักนิด

“อาการหนักแล้วยัยวิกกี้ หล่อนเกลียดดินแดนขนาดนั้นเลยเหรอ”

“เกลียดขี้หน้ามันมาก” วิกกี้สะบัดหน้าตอบ

“มาถึงนานหรือยัง?” เสียงหนึ่งแทรกขึ้น ทำให้ทั้งสามหันมาสนใจร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรที่เข้ามานั่งข้างพริกหวาน ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่ว่างอยู่พอดี โดยโต๊ะที่พวกเธอจองไว้เป็นโต๊ะกลมสี่ที่นั่ง

“พึ่งมาถึง” พริกหวานเอามือเท้าคาง เอียงหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม

"เมายังเนี่ย" ปืนเอาลูบหัวพริกหวานเบาๆ

"พึ่งดื่มเอง จะเมาได้ไงค่าาาา" พริกหวานตอบปืนด้วยน้ำเสียงยียวน

“อะแฮ่มๆ ยังไงคะสองคนนี้” โมนามองพริกหวานและปืนสลับกันด้วยรอยยิ้มกว้าง ที่เห็นปืนยื่นหน้าไปใกล้ๆพริกหวานเกินกว่าสถานะคนคุย

“คนนี้แฟนพี่ครับ” ปืนหันไปส่งยิ้มละมุนให้พริกหวาน แต่ทว่าแววตาเขามันดูเจ้าเล่ห์นัก

“กรี๊ดดดด! อื้อ” พริกหวานลุกขึ้นปิดปากโมนาที่กรีดร้องเสียงดัง ถึงจะมีเสียงเพลงกลบเสียงกรี๊ดโมนา แต่ทว่าท่าทางกระดี๊กระด๊าของโมนา กลับทำให้หลายคนหันมาสนใจที่โต๊ะของเธอ

“อย่าเวอร์ได้ไหม” พริกหวานดุโมนาเข้าให้

“ก็ดีใจที่แกมีแฟน” โมนาพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจที่พริกหวานมีแฟนซะที พริกหวานน่ะมีคนมีจีบเยอะมาก แต่ทว่าพริกหวานกลับไม่ได้สนใจใครเลย ปืนเป็นคนแรกที่โมนาเห็นตั้งแต่เข้ามาขอไลน์ แล้วได้ไปต่อ จนกระทั่งคบกัน

“ดีใจด้วยนะคะพี่ปืน ที่ชนะใจยัยหวานได้ซะที” วิกกี้ถึงจะมีเรื่องขุ่นมัวกับนักร้องบนเวที แต่ก็อดแซวปืนไม่ได้ ที่จีบพริกหวานน่าจะประมาณสามเดือน โดยที่พริกหวานไม่ยอมไปไหนด้วยเลย

“ขอบคุณครับ งั้นคืนนี้เต็มที่เลยนะสาวๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

“หูย แต่งค่ะ ชอบมากผู้ชายนิสัยรวย” โมนายื่นมือซ้ายกระดิกนิ้วนางให้ปืนด้วยสีหน้าหยอกเย้า

แปะ!

“แฟนเพื่อน อย่ามโนให้มาก” วิกกี้ยกมือตีหลังมือโมนาด้วยความหมั่นไส้

“เซ็กซี่จังเลยครับคืนนี้” ปืนเอ่ยชมแฟนสาวด้วยแววตาหวานเยิ้ม ที่คืนนี้พริกหวานสวยเซ็กซี่ขยี้ใจกระตุ้นอารมณ์อย่างว่าของเขามาก

“เวอร์แล้วพี่ปืน” พริกหวานดันใบหน้าหล่อออกเบาๆ ที่เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เธออยู่เรื่อยๆ เหมือนอยากซุกไซ้ซอกคอ

“รักนะครับ”

“อะไรกันคะเนี่ย มาบอกรักกันอะไรตรงนี้ โมนาอิจฉาแล้วนะคะพี่ปืน” โมนากระดี๊กระด๊าที่แฟนหนุ่มของพริกหวานคลั่งรักแบบสุดๆ

“พี่ปืนๆ พี่เปรมเรียกแล้วครับ! ” เด็กหนุ่มชุดดำมาสะกิดเรียกปืน

“อะๆ เดี๋ยวกูไป”

“พี่เปรมให้พี่เข้าไปหาตอนนี้เลย พี่เวียร์มาถึงแล้ว”

“เออๆ ก็ได้วะ” ปืนหยัดตัวลุกขึ้น ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นก็เดินออกไปก่อน

“เดี๋ยวพี่มานะ” ปืนเอามือลูบหัวพริกหวานเบาๆ เมื่อพริกหวานพยักหน้าส่งยิ้มให้เขา ปืนก็เดินออกไปจากโต๊ะ

“โรงเหล้าที่นี่เป็นของพี่ปืนเหรอ” วิกกี้ที่มองตามปืน แล้วเห็นเขาเข้าไปในห้องของเจ้าของคลับ

“น่าจะใช่มั้ง”

“อ้าว แล้วที่หล่อนคุยกันกับเขา หล่อนไม่ได้ถามชีวประวัติเหรอ? บ้านอยู่ไหน ทำธุรกิจอะไรบ้าง มีพี่น้องกี่คน นี่คุยกันสามเดือนคุยเรื่องอะไรก่อน” วิกกี้เอ่ยถามยาวอย่างสงสัย นี่สรุปคนคุยจริงปะ

“ก็คุยเรื่องทั่วไป ไม่ได้ถามลึกถึงครอบครัวเขาขนาดนั้น รู้แค่เพียงว่าเขามีพี่ชายชื่อเปรม”

“เออฉันก็ลืมไปว่า รวยไม่รวยไม่สำคัญสำหรับหล่อนหรอก ในเมื่อพ่อหล่อนรวยมากอยู่แล้วหนิ เลี้ยงผู้ชายได้สบาย” วิกกี้พยักหน้าเหมือนคิดอะไรได้ว่า พริกหวานคงไม่สนใจเรื่องฐานะ เพราะพริกหวานนั้นรวยมาก ธุรกิจของครอบครัวมีทั้งบริษัทจิวเวลรีและสนามแข่งรถที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆของประเทศ แล้วไหนจะคลับหรูอีกตั้งหลายสาขา

“ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย พ่อฉันรวย ฉันไม่ได้รวยสักหน่อย นี่ก็ยังต้องขอเงินพ่อใช้อยู่เลย”

“อย่ามารับบทเป็นคนจนหน่อยเลยยัยพริกหวาน” ว่าจบวิกกี้ก็ลุกขึ้นจะเดินออกไปจากโต๊ะ

“แล้วนี่จะไปไหนอะ” พริกหวานจับมือวิกกี้เอาไว้ ที่จู่ๆวิกกี้ก็ลุกขึ้นจะเดินออกไปจากโต๊ะด้วยท่าทางรีบๆ

“ฉันจะเข้าห้องน้ำ”

"เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน"

"เฮ้ย! ไม่เป็นไร ฉันปวดหนักน่ะ" พูดจบวิกกี้ก็เดินออกไปเลย

“พริกหวาน~ เดี๋ยวฉันมานะ” โมนาเอ่ยบอกพริกหวานด้วยรอยยิ้มกริ่ม ก่อนที่โมนาจะชูแก้วไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงบาร์เทนเดอร์

“เอาอีกแล้ว ยัยโมนาทิ้งเพื่อนอีกแล้ว” พริกหวานบ่นพึมพำแล้วมองตามเพื่อนสาวหุ่นนางแบบที่เดินเข้าไปยืนเบียดตัวกับชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่ง

พอนั่งอยู่เพียงลำพัง พริกหวานก็แอบมองไปโซนวีไอพี แล้วก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอก ที่ไม่เห็นคิมหันต์นั่งอยู่ที่โต๊ะ คืนนี้รู้สึกเสียวสันหลังมาก กลัวว่าเรื่องที่มาเที่ยวที่นี่จะถึงหูคุณพ่อและพัตเตอร์ ทั้งคู่สั่งห้ามไม่ให้พริกหวานมาเที่ยวที่นี่ แต่คืนนี้ขอฝืนคำสั่งหนึ่งวัน เพราะอยากรู้ว่าที่นี่มันเป็นแบบไหน นักศึกษาถึงได้นิยมมาเที่ยวกันนัก

พริกหวานยกแก้วเหล้าขึ้นจิบแล้วโยกตัวเบาๆ ตามเสียงเพลง ตอนนี้เป็นนักร้องคนใหม่ขึ้นร้องบนเวที เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว จนกระทั่งยี่สิบนาทีผ่านไป โมนาและวิกกี้ก็ยังไม่กลับมาโต๊ะสักที โมนาน่ะไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไร แต่วิกกี้นี่สิเข้าห้องน้ำนานเกินผิดปกติ

“ยัยวิกกี้หายไปไหนนะ” เมื่อเดินมาตามวิกกี้ที่ห้องน้ำ กลับพบแต่คนไม่คุ้นหน้า พริกหวานยืนรอจนคนออกมาหมด แต่กลับไม่เจอวิกกี้ที่ห้องน้ำ

พริกหวานเดินหาวิกกี้ด้วยความเป็นห่วง ทำให้เผลอเดินผ่านไปที่เขตต้องห้ามโรงเหล้าเถื่อนโดยไม่รู้ตัว จึงได้เห็นชายวัยฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ราวสิบคน ยืนแบ่งพรรคพวกซ้ายขวา กำลังยื่นกระเป๋าที่เปิดอ้าออกกว้างจนเห็นแบงค์สีเทาปึกใหญ่มากมายแลกกับห่อสีน้ำตาลห่อใหญ่ เหมือนของกลางที่เห็นตามข่าวเวลาตำรวจจับพวกยาบ้า

ฝีเท้าเล็กถอยหลังหนีตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอด แต่ทว่ากลับร้องลั่นอย่างตื่นกลัว เมื่อโดนชายกำยำสูงใหญ่จับล็อกแขนของเธอไว้แน่น

“กรี๊ดดดด!! ปล่อยหนู!!” พริกหวานดีดดิ้นสุดแรงเมื่อโดนอุ้มไปกลางวงชายฉกรรจ์ที่กำลังซื้อขายของผิดกฎหมาย แต่ละคนหน้าถมึงตึงน่ากลัวมาก