ลวงรัก 14 ท้อง
วันต่อมา
“มึงแน่ใจแล้วใช่ไหม…”
“ครับนาย แน่ยิ่งกว่าแน่”
“อืม ออกไปได้ละ”
เสียงงุบงิบของคนคุยกันดังเข้ามาในโสตประสาท ทำให้ฉันค่อยๆ ได้สติกลับมา ขยับเปลือกตาช้าๆ แล้วเปิดขึ้นเมื่อปรับโฟกัสได้
กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องก็เห็นคุณธนินยืนอยู่ข้างๆ เตียง ใบหน้าเขาเรียบเฉยและเย็นชา แววตาไร้ความรู้สึกทว่าแฝงไปด้วยอารมณ์บางอย่างที่ยากจะคาดเดา
“ฟื้นแล้วเหรอ” ริมฝีปากหยักขยับเอ่ยถาม น้ำเสียงทุ้มต่ำและห้าวห้วน หากไม่ได้คิดไปเองก็รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังไม่พอใจอะไรฉันอยู่
“ค่ะ…” เอ่ยตอบเขาถึงรู้ว่าน้ำเสียงของตัวเองแหบพร่าเอามากๆ แถมยังรู้สึกเจ็บคอ
ร่างกายฉันมันกำลังฟ้องถึงการดูแลตัวเองที่ไม่ได้เรื่องอยู่สินะ
“ดื่มน้ำหน่อยไหม เหมือนคุณจะต้องการนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
คุณธนินหยุดมองฉันครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมเดินไปรินน้ำเทใส่แล้วนำกลับมายื่นให้ฉัน
ฉันยื่นมือไปรับพร้อมคำของคุณ ทว่า…
เพล้ง!
แก้วน้ำในมือของคุณธนินดันหล่นแตกลงบนพื้น ทั้งเศษแก้วและหยดน้ำกระจายกันไปคนละทิศทาง หัวใจฉันหล่นวูบด้วยความตื่นตกใจ
“ขอโทษที หลุดมือ” ถึงจะไม่ได้คาดหวังคำขอโทษแต่คุณธนินก็พูดมันออกมา แต่สีหน้าเขาดูเหมือนไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด
“ไม่เป็นไรค่ะ…”
ครืด~ ครืด~
ระหว่างนั้นมือถือของเขาก็แผดเสียงร้อง ร่างสูงหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดรับสาย
“ว่าไง อืมได้” ฉันไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกับใคร ได้ยินเพียงเสียงพูดของคุณธนินเท่านั้น
ไม่นานนักเขาก็วางสายแล้วเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงไว้เหมือนเดิม นัยน์ตาสีนิลเลื่อนกลับมามองฉันอีกครั้ง
“ผมมีธุระ คุณเก็บกวาดเศษแก้วพวกนี้ด้วยแล้วกัน” กล่าวจบมือหนาก็เลื่อนขึ้นติดกระดุมเสื้อสูท ทำท่าจะหันหลังเดินออกไป
“เดี๋ยวค่ะ” ฉันเรียกรั้งเพราะมีบางอย่างอยากถามเขา “หมอว่ายังไงบ้างเหรอคะ สรุปฉันเป็นอะไร”
คุณธนินชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับมาตอบฉันด้วยถ้อยคำที่ฟังแล้วรู้สึกชาวาบไปทั่วใบหน้า
“ร่างกายคุณคุณยังไม่รู้เลย แล้วผมจะรู้ได้ยังไง?”
“คะ…คือฉันคิดว่า…”
“ผมพาคุณมาส่งโรงพยาบาลก็จริง แต่ไม่ได้อยู่เฝ้า ไว้รอหมอมาตรวจรอบเย็นค่อยถามเอาเองก็แล้วกัน”
“ค่ะ…”
หลังจากนั้นคุณธนินก็เดินออกจากห้องพักฟื้นฉันไปเลย
ฉันไม่ได้จะเรียกร้องหรือต้องการความสนใจจากเขาหรอกนะ แต่มันรู้สึกเหมือนว่าคุณธนินเย็นชาขึ้นกว่าเดิม
คือปกติเขาก็เย็นชาอยู่แล้วนั่นแหละ แต่มันจะมีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าเขามีความรู้สึกพิเศษนั้นให้ฉัน
เอ่อ ฉันหมายถึงพี่นกน่ะ ทว่าความรู้สึกเหล่านั้นในตอนนี้มันไม่หลงเหลืออยู่เลย ฉันเผลอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ หรือจะยังโกรธเรื่องที่ฉันวิ่งหนีเขาเมื่อวาน
เฮ้อ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
แล้วฉันจะมาใส่ใจทำไมกันว่าคุณธนินจะรู้สึกยังไง ในเมื่อการที่เขาเป็นห่างเหินและเฉยชาใส่มันเป็นเรื่องที่ดี โอกาสในการที่เขาจะจับได้ว่าฉันสลับตัวกับพี่นกก็มีน้อยลงด้วย
ฉันควรจะดีใจสินะ ควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ…
ถึงอย่างนั้นทว่าเอาเข้าจริงๆ กลับรู้สึกมวลในอกแบบแปลกๆ
จากนั้นฉันก็นอนเล่นมือถือรอคุณหมอเข้ามาตรวจอาการช่วงเย็น ประมานสี่โมงครึ่งก็ประตูก็ถูกเปิดเข้ามา
“ขอหมอวัดความดันหน่อยนะครับ” เป็นคุณหมอและคุณพยาบาลนี่เอง
“ค่ะ” ฉันเก็บมือถือดันตัวลุกขึ้นนั่งให้คุณหมอและพยาบาลตรวจนั่นวัดนี่ จนกระทั่งเสร็จ
“ไข้ไม่มีแล้ว ความดันปกติครับ”
“แปลว่าฉันออกจากโรงพยาบาลได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ยังครับ เพราะถึงแม้ร่างกายของคุณแม่จะแข็งแรงดีแล้ว แต่หมอก็ยังอยากให้แอดมิทอีกสักสองวันเพื่อความแน่ใจ อายุครรภ์ยังน้อยหมอไม่อยากให้เสี่ยง”
ฉันที่กำลังฟังคำพูดของหมออย่างเพลินๆ อยู่นั้นเป็นต้องถูกกระชากสติโยนทิ้งไปเมื่อได้ยินคำว่า อายุครรภ์ มันหมายความว่ายังไง คนที่ท้องคือพี่นกไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมคุณหมอถึงพูดแบบนั้นกันล่ะ
อยู่ๆ มันรู้สึกโหวงๆ ในอก หัวใจเต้นเร็วสลับช้าราวกับกำลังอ่อนแรงลงทุกที เสียงตุ้บๆ ดังก้องอยู่ในหูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ริมฝีปากสั่นระริกพยายามจะขยับถามถึงความจริงทั้งหมด
“มะ…หมายความว่ายังไงหมอ…ทะ…ที่ว่าอายุครรภ์ยังน้อย”
“แสดงว่าคุณแม่คงไม่รู้ตัวเลยสินะครับ”
“….” ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ถ้าอย่างนั้นหมอต้องขอบอกและขอแสดงความยินดีไปพร้อมๆ กันเลยนะครับ ตอนนี้คนไข้ตั้งครรภ์ได้เกือบๆ สองเดือนแล้วครับ”
“อะ…อะไรนะคะ…” มะ…ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหมที่ว่าฉันกำลังท้อง ถึงฉันจะเคยมีอะไรกับคุณธนินไป แต่ฉันก็กินยาคุมฉุกเฉินแล้วนะ แล้วมันผิดพลาดตรงไหนกัน
“ยังไงหมอขอตัวก่อนนะครับ พักผ่อนเยอะๆ อย่าเครียดมากจนเกินไป เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์”
“มะ…หมอคะ…ชะ…ช่วยตรวจอีกทีให้แน่ใจได้ไหมคะ ฉะ…ฉันท้องจริงๆ เหรอ”
“เชื่อหมอสิครับ คุณกำลังท้องจริงๆ ดูแลตัวเองให้ดีๆ นะครับ” จากนั้นคุณหมอและคุณพยาบาลก็เดินออกจากห้องนี้ไปทันที
เหลือเพียงฉันที่นั่งช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายความคิดมันตีกันไปหมด ภายในอกปั่นป่วนจนกระตุกสั่นไหว
ฉันมีอะไรกับคุณธนิน พี่นกก็มีอะไรกับคุณธนิน ตอนนี้ฉันท้อง พี่นกเองก็กำลังท้อง
ระ…เราสองคนพี่น้องกำลังท้องกับผู้ชายคนเดียวกันอย่างนั้นเหรอ…นะ…นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน…
