Key & Primrose -6 ส่งคนเมา
Key & Primrose -6 ส่งคนเมา
ในที่สุดคืนวันนั้นพวกเราทั้งหกคนก็ได้เป็นเพื่อนกันไปโดยปริยาย ถึงแม้ว่าฉันอาจจะไม่ได้มีการพูดคุยกับคีย์เท่าไหร่แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะว่าอย่างน้อยๆ ฉันก็ยังเข้ากับนทีและฟาโรห์ได้อยู่ดี
"แน่ใจนะว่ากลับไหว?"
นทีเป็นคนถามก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกันตรงหน้าผับ สภาพของแต่ละคนดูไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ แต่ที่หนักที่สุดก็คงต้องนกให้มะตูมไปแล้วล่ะตอนนี้ รายนั้นเล่นซดเหล้าเป็นน้ำเปล่า แถมยิ่งดื่มเยอะก็ยิ่งพูดลื่นไหลจนเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
"ไหวๆ" ฉันตอบกลับก่อนจะหันไปมองมะตูมที่ตอนนี้กำลังถูกฟาโรห์และคีย์หิ้วปีกทั้งซ้ายขวา
"เอ่อ… งั้นให้ไอ้คีย์ไปส่งดีกว่า อย่างน้อยก็จะได้ทีคนช่วยแบก" อีกฝ่ายพูดเสียงอ่อยลงเล็กน้อยเพราะสภาพของมะตูมนั้นดูไม่จืดจริงๆ
"อืออ หวายจ้าคนหล่อ ไม่ต้อง เอิ๊ก! ห่วง.."
ห่วงพวกฉันน่ะสิ
ฉันนึกในใจก่อนจะรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาเล็กๆ แต่ก็ยังดีที่อย่างน้อยๆ ก็ยังมีฟาโรห์กับคีย์มาช่วยเป็นฝ่ายกู้ภัยในการเก็บกู้คนเมาอีกแรง
"งั้นเรากลับก่อนนะ ขับรถดีๆ ล่ะ" ไผ่หลิวหันมาบอกฉัน เพราะตกลงกันว่าจะให้นทีไปส่ง ส่วนฉันและมะตูมจะกลับรถของคีย์ ตอนแรกฉันกับไผ่หลิวก็ดื่มไปเหมือนกัน แต่พอเห็นมะตูมเมาแล้วพวกฉันก็ถึงกับสร่างจนไม่กล้าดื่มต่ออีกเลย
"อื้อ บ๊ายบายนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ พริมโรสด้วยนะ" นทีหันมาบอกกับฉัน ส่วนฉันก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นการตอบรับ
"อื้อ ขับรถกลับกันดีๆ ล่ะ ถึงแล้วโทรบอกด้วยนะไผ่หลิว"
"โอเคจ้า" ไผ่หลิวตอบกลับ
"อ้อ ถึงแล้วทักมาบอกในกลุ่มก็ได้นะ" นทีย้ำอีกครั้ง
"โอเค" ฉันตอบกลับ ก่อนที่พวกเราทั้งสี่คนจะช่วยกันเอามะตูมขึ้นรถของคีย์
ฉันเป็นคนนั่งข้างหน้าข้างคนขับเพื่อบอกทาง ส่วนมะตูมกับฟาโรห์นั่งข้างหลัง เมื่อรถออกตัวไปได้สักพักคนที่เงียบมาตลอดงานก็เพิ่งจะอ้าปากพูดคำแรกได้
"ช่วยตั้งจีพีเอสหน่อย" น้ำเสียงเรียบๆ กล่าวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศในรถที่นิ่งสงบ โดยมีมะตูมกับฟาโรห์นั่งหลับหัวหนุนกันอยู่ด้านหลัง คำพูดของอีกฝ่ายมันดูเหมือนจะเป็นคำสั่งมากกว่าในความรู้สึกของฉัน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยอมเอามือถือขึ้นมาก่อนจะกดตั้งเปิดจีพีเอสแล้วยื่นให้อีกฝ่ายทันที
"แค่กดในจอก็พอ"
คีย์พูดสั้นๆ ก่อนจะรับมันแล้วกดตั้งจีพีเอสที่จอดรถของตัวเอง ไม่นานเขาก็ส่งมือถือกลับมา
อ้อ… ลืมไปเลยว่ารถรุ่นนี้เขามีหน้าจอจีพีเอสในตัว
"อ่อ.. แหะๆ" ฉันยิ้มให้แห้งๆ เป็นการกลบเกลื่อน เพราะขึ้นรถเขาครั้งแรกก็ดันเผลอทำตัวเอ๋อเหรอใส่ซะแล้ว
เขาแค่หันเสี้ยวหน้ามองฉันแวบหนึ่งก่อนที่คีย์จะควงพวงมาลัยรถเพื่อถอยรถออกจากซองอย่างชำนาญ ฉันชอบมองคนขับรถมากนั่นจึงทำให้สายตาของฉันเผลอไปมองทุกการกระทำของอีกฝ่ายโดยที่ไม่รู้ตัว
คีย์เป็นคนที่นิ่งมาก ไม่ค่อยแสดงสีหน้า หรือบางทีที่แสดงสีหน้าเขาก็มักจะทำเหมือนส่งๆ ไป เช่นการยิ้ม โดยเฉพาะตอนที่เขาพูด เพราะอีกฝ่ายพูดทั้งสั้นทั้งห้วนนั่นเลยทำให้ฉันอดรู้สึกกลัวอีกฝ่ายจนเกร็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
หรือว่าบางทีคีย์ก็อาจจะไม่ชอบหน้าฉันเหมือนกันก็ได้
ฉันรู้สึกอึดอัดจนต้องเบนสายตาไปมองอย่างอื่นในระหว่างทาง และตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คือการมองวิวด้านนอกโดยปล่อยให้ความเงียบกลบกลืนพวกเราไป ในรถมันเงียบมากจริงๆ เงียบจนได้ยินเสียงของแอร์และเครื่องยนต์ได้เลย เพราะทั้งฉันและคีย์เราต่างไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว
ผ่านไปสักพักความอึดอัดก็สิ้นสุดลง เมื่อเขารถขับมาจอดที่ชั้นจอดรถใต้คอนโดของฉันได้สำเร็จ ฉันจึงได้โอกาสรีบเอี้ยวหันกลับไปเพื่อปลุกให้มะตูมตื่นแทบจะทันทีที่รถจอดสนิท
"แก ตื่นได้แล้ว ถึงแล้ว" ฉันสะกิดขาของเพื่อนตัวดียิก
ตื่นทีเถอะ ฉันอึดอัดจะตายอยู่แล้วเนี่ยยัยมะตูม
คีย์เองที่พอจอดรถเข้าซองเสร็จก็หันไปมองมะตูมกับฟาโรห์เหมือนกัน แต่สิ่งที่เขาทำก็คือการนั่งดูฉันพยายามปลุกมะตูมด้วยสายตาแสนเฉยเมย
นั่นมันยิ่งจะทำให้ฉันรู้สึกไม่เป็นตัวเองจนเผลอหลุดปากบ่นออกมา
"แก จะนอนก็ช่วยดูสถานการณ์ทีเถอะ ฉันอยากขึ้นห้องจะตายแล้วเนี่ย"
"อืออ" มะตูมงัวเงียตื่นขึ้นมา เพราะว่าฉันเริ่มจะออกแรงในการสะกิดมากขึ้นจนหัวเพื่อนเขย่าไปมา ฟาโรห์เองก็ตื่นขึ้นมาเหมือนกันแล้วก็ยังทำหน้ามึนๆ มาให้อีกด้วย ดูเหมือนว่าในตอนนี้คนที่ยังมีสติมากที่สุดคงจะเหลือแค่ฉันกับคีย์สินะ
เยี่ยมไปเลย ฉันนึกประชดในใจ
"งั้นเดี๋ยวช่วยแบกขึ้นห้องให้ก็ได้" จู่ๆ อีกฝ่ายก็พูดออกมาเสียงเรียบอีกครั้งจนฉันถึงกับทำตัวไม่ถูก
เพราะสิ่งที่ฉันพยายามจะทำก็คือการปลุกมะตูมให้ตื่นเพื่อที่จะได้แยกย้ายจากคีย์ให้ได้ไวที่สุด แต่ไหงกลายเป็นว่าฉันจะต้องให้เขามาช่วยแบกมะตูมขึ้นห้องไปซะได้ล่ะเนี่ย
"เอ่อ.. งั้นก็ขอบใจนะ" ฉันบอกออกไปอย่างไร้ทางเลือก ชายหนุ่มตรงหน้าฉันก็แค่มองมาหน้านิ่งๆ แล้วพยักหน้าสองทีเร็วๆ ก่อนจะหันกลับไปเปิดแอร์แล้วลดกระจกไว้ ปล่อยให้ฟาโรห์ที่ไร้สติหลับต่อไป ส่วนฉันกับคีย์ก็มาช่วยกันแบกมะตูมขึ้นห้อง
จริงๆ เป็นคีย์เองมากกว่าที่แบก ส่วนฉันนั้นเป็นฝ่ายช่วยประคอง คีย์เป็นผู้ชายร่างสูงตัวหนาเพราะมีกล้ามเนื้อ แค่มะตูมคนเดียวไม่ได้ทำให้คีย์รู้สึกลำบากเลยแม้แต่น้อย เขาแบกมะตูมขึ้นมาในคอนโดได้โดยที่ไม่ได้แสดงอาการเหนื่อยอะไร แล้วก็ยังหน้านิ่งได้จนถึงตอนนี้ด้วย ผิดกับฉันที่แค่เดินแป๊บเดียวก็แอบรู้สึกเหนื่อยแล้ว
ไม่นานก็มาถึงหน้าห้องของฉัน คีย์การ์ดถูกแตะอย่างรวดเร็วก่อนที่ฉันจะเปิดประตูให้ แล้วพวกฉันก็ช่วยกันพามะตูมไปนอนที่โชฟา ฉันรีบเข้าไปเอาน้ำกับผ้ามาแล้วยื่นให้อีกฝ่ายทันที
คีย์กวาดสายตามองรอบห้องฉันเสี้ยวหนึ่งก็หันหน้ากลับมาสบตากับฉัน ทำเอาจังหวะนั้นฉันรู้สึกเหมือนจะตัวแข็งขึ้นมาได้เลย
"ไม่ล่ะ ฟาโรห์มันยังหลับอยู่ในรถ งั้นกลับแล้วนะ"
คีย์พูดสั้นๆ ส่วนฉันเองก็แทบจะพยักหน้าตกลงทันที
"โอเค งั้นเดี๋ยวเดินลงไปแตะคีย์การ์ดออกให้นะ" ฉันบอก แล้วคีย์ก็แค่เพียงพยักหน้ารับกลับมาเหมือนเดิมก่อนที่พวกเราจะพากันเดินออกจากห้องไป
