บท
ตั้งค่า

Key & Primrose - 3 เพื่อนใหม่

“ยังไงมึง? เล่ามาเดี๋ยวนี้นะ”

ประโยคคำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยของมะตูมรีบถามสาวสวยสุดฮอตที่สวยจนเป็นเรื่องอย่างไผ่หลิวอย่างทันควัน หลังจากที่เห็นสีหน้าท่าทางของเพื่อนกับหนุ่มหล่อโต๊ะข้างๆ ส่วนไผ่หลิวเองที่กำลังทำท่าราวกับคนหนีเจ้าหนี้อยู่ก็เอาแต่หลบสายตาไม่หยุด

“แกจำไม่ได้จริงๆ หรอ คนนั้นก็นทีไง” เธอพูดออกมาเหมือนคนกระซิบจนเสียงเพลงในผับแทบจะกลบเสียงเธอหายไป

“นที?” มะตูมทวนประโยคแล้วนั่งทำหน้านึก ทว่าหลังจากที่ฉันได้ยินชื่อนั้นความทรงจำอะไรบางอย่างที่เลือนรางไปแล้วก็เหมือนจะค่อยๆ ผุดขึ้นมาทีละหน่อย

“นทีคนที่อยู่คณะวิศวะคอม มหาลัยเดียวกับเราอะหรอ?”

“อื้อ” ไผ่หลิวพยักหน้าหงึกๆ

“อ๋อออ” ฉันลากเสียงยาวออกมาทันทีพร้อมกับรู้สึกตื่นเต้นที่จู่ๆ ก็ได้มาเจอคนในมหาลัยเดียวกันแถมอีกฝ่ายยังดูสนใจไผ่หลิวของฉันซะด้วย

“กรี๊ดด สวยได้เรื่องจริงๆ” มะตูมเองก็สมทบประโยคตามด้วยความตื่นเต้นดีใจ ผิดกับสาวร่างเล็กตรงข้ามฉันที่กำลังแสดงท่าทางค่อนข้างกระอักกระอ่วน

ก็แหม นทีออกตัวแรงเว่อร์ตั้งแต่วันปฐมนิเทศขนาดนั้น…

ย้อนกลับไปวันปฐมนิเทศ

“ยัยโรสส”

เสียงทักทายดังขึ้นตั้งแต่ที่ฉันยังไม่ทันได้ก้าวขาเข้าไปในตึกคณะ ฉันหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับไปมองที่ต้นเสียง

คำเรียกสรรพนามที่คุ้นหูก็ไม่ได้มาจากใครที่ไหน นั่นก็คือมะตูมเพื่อนของฉันเอง

อีกฝ่ายดี๊ด๊าสวมชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยมแถมยังยิ้มร่าหน้าตาสดใสมาหาฉัน ในขณะที่ฉันก็ยิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายเช่นกัน

“มะตูมม กำลังจะเข้าไปรอตรงโต๊ะหน้าห้องประชุมเลย” ฉันเรียกชื่ออีกฝ่ายก่อนจะไล่สายตาเพื่อกวาดมองผู้ชายตรงหน้า มะตูมเป็นคนไทยแท้ๆ จริงจะว่าก็ไม่เชิงเพราะถึงแม้จะเกิดที่ไทยแต่มะตูมก็ดันเป็นเสี้ยวจีนกับเกาหลี นั่นจึงทำให้ผิวของอีกฝ่ายขาวผ่องออร่า ยิ่งโดนแดดอีกฝ่ายนี่เหมือนกำลังส่องแสงจนฉันแสบตาเลย

“ใจตรงกันไปป่ะ ฉันก็กำลังจะไปแถวนั้นพอดี” มะตูมตอบกลับ ก่อนอีกฝ่ายจะไล่สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า

“เอ๊ะ มีอะไรแปลกๆ หรอ ทำไมมองงั้นอะ?” ฉันเริ่มรู้สึกกังวล เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใส่ชุดนักศึกษา ถึงแม้ว่าก่อนออกจากบ้านจะส่องกระจกตรวจความเรียบร้อยไปเป็นสิบๆ รอบก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้คลายความรู้สึกกังวลและตื่นเต้นลงไปได้เลย

“บ้า แปลกยังไง น่ารัก มากกกก”

มะตูมตอบกลับทั้งยังเน้นที่คำว่ามากเสียงยาวแถมรีบคว้ามือถือขึ้นมาถ่ายรูปฉันอีก ส่วนฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดกล้องของมะตูมด้วยความเขินอาย

“โอ๊ยจะถ่ายทำไมเล่า ฉันเขินนะแก” ฉันบอก แต่มะตูมเหมือนจะกำลังสนุกที่ได้แกล้งฉันอยู่

“เอ่อ… ขอโทษนะตัวเอง จุดไปรายงานตัวอยู่ตรงไหนหรอคะ?”

ยังไม่ทันไร จู่ๆ ก็มีเสียงเล็กๆ แทรกเข้ามา มะตูมหันกลับไปหาคนมาใหม่ที่มาถามทาง ทิ้งความสนใจจากฉันไปครู่หนึ่งเพื่อให้ได้หยุดพักจากการแกล้งของมะตูม

อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ผิวขาวหุ่นดี มากไปกว่านั้น หน้าตาก็ยังจัดได้ว่าสวยมาก ผิวหน้าของเธอใสกิ๊กเหมือนกับว่าทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีสิวมาก่อนอย่างนั้นแหละ

สวยมากจนแม้แต่ฉันเองที่เป็นผู้หญิงยังนึกอิจฉาเล็กๆ

“แล้วเตงอยู่คณะไหนล่ะ?” มะตูมตอบกลับด้วยความเฟรนลี่ ส่งผลให้อีกฝ่ายที่ตอนแรกมีอาการเกร็งๆ นั้นเริ่มจะวางตัวตามสบาย

“เค้าอยู่บริหารค่ะ” ผู้หญิงตรงหน้าบอกมา

“อ้าว อยู่คณะเดียวกันเลย งั้นเราไปรายงานตัวพร้อมกันเลยมั้ยล่ะ?” มะตูมออกปากชวนทันที ส่วนฉันที่มีนิสัยขี้อายก็ได้แต่ส่งยิ้มตาปริบๆ ก่อนจะถามชื่ออีกฝ่ายออกไปตามประสาคนที่ลองเอ่ยชวนคุยดูบ้าง

“เราชื่อพริมโรสนะคะ เธอชื่ออะไรหรอ?”

“เค้าชื่อไผ่หลิว แล้วนายอะ?”

ไผ่หลิวตอบกลับก่อนจะหันไปถามคำถามกับมะตูมที่ยืนข้างๆ ฉันอีกที

“ชื่อมะตูมจ้า” ส่วนมะตูมเองก็แนะนำตัวอย่างเป็นมิตร ก่อนที่เราทั้งสามจะเริ่มเดินไปยังจุดรายงานตัวที่หน้าห้องประชุม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel