บทที่9 BAD HUSBAND
หลังจากที่เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเพราะไม่มีร่างนุ่มๆ ของจันทร์เจ้าให้กอดอย่างเช่นทุกคืน มันเลยทำให้ผมรู้สึกเคว้งคว้างแปลกๆ พอไม่มีเธอนอนอยู่ข้างๆ ผมถึงได้มาหลับอีกทีเอาเกือบเช้าของอีกวันและตื่นมาอีกทีตอนเย็นๆ และวันนี้ผมมีเรื่องต้องเข้าไปที่คาสิโนด้วย เพราะวันนี้ผมมีเรื่องต้องไปคุยกับไอ้เค เรื่องของน้ำฟ้าแต่หลังจากที่ผมแต่งตัวเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องก็ไม่เห็นจันทร์เจ้ากลับมาจากที่ทำงานสักที เอาจริง ๆ นี่มันก็เย็นมากแล้วน่ะ
ผมจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อกดโทรหาเธอ แต่โทรไปเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมรับสายผมสักที จนผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา จึงเดินออกไปจากห้องตัวเอง แล้วไปยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้องของจันทร์เจ้า เผื่อเธอกลับมาแล้วแต่ไม่เข้าไปที่ห้องของผม ผมยืนเคาะประตูจนประตูมันจะพังอยู่แล้วก็ไม่เห็นจันทร์เจ้ามาเปิดประตูสักที ด้วยความโมโหผมจึงเตะประตูอย่างแรงเสียงดังปั่ง!!! เพื่อระบายความหงุดหงิดและความโมโหของตัวเองจากนั้นจึงเดินลงไปที่ชั้นจอดรถเพื่อที่จะได้ขับรถออกไปที่คาสิโน...
ผมเปิดประตูเข้ามานั่งในรถพร้อมกับเอี่ยวตัวคาดสายเบลล์แต่ระหว่างนั้นสายตาผมก็ดันไปเห็นกระเป๋าตังค์สีดำเรียบๆ ตกอยู่ตรงที่วางเท้าเบาะข้างคนขับจึงหยิบขึ้นมาดู ผมนึกในใจว่ามันคงไม่น่าจะใช่กระเป๋าตังค์เมียผมแน่นอน เพราะดูจากรูปทรงแล้วจันทร์เจ้าคงไม่ได้ชอบแบบนี้ เพราะฉะนั้นอีกคนที่นั่งรถผมเมื่อคืนก็คือน้ำฟ้า แน่นอนจะต้องเป็นของเธอเพราะนอกจากนั้นรถผมก็ไม่มีใครนั่งแล้วนอกจากเมียและเอ่อ...เด็กสาวคนนั้น (พูดถึงน้ำฟ้าแล้วทำไมต้องเลิ่กลั่กด้วยว่ะ) ผมจึงเก็บกระเป๋าตังค์ของเธอใส่ลงไปที่คอนโซลรถ จากนั้นก็บึ่งรถออกไปที่คาสิโนทันที...
@คาสิโนรามสูร
ผมเดินล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเท่ๆ เดินเข้าไปข้างในคาสิโนของตัวเองโดยใช้ทางเข้าที่มีเฉพาะแค่ผมเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้เพื่อเดินไปขึ้นลิฟต์ส่วนตัวแล้วขึ้นไปที่ห้องทำงานของผม วันนี้ผมค่อนข้างที่จะอารมณ์เสียไม่น้อยเนื่องจากเมื่อเช้าอย่างที่รู้ๆ คือ วันนี้ทั้งวันผมยังไม่ได้เจอหน้าเมียเลย และเธอก็ไม่รู้ไปไหนด้วยโทรไปก็ไม่ยอมรับสายผม
จนผมอยากเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย อีกเรื่องที่ทำให้ผมหงุดหงิดและโมโหไม่น้อยคือไอ้ไซน้องชายผมที่มันสร้างเรื่องให้กับผมจนได้ เพราะมันจันทร์เจ้าถึงดูไม่เชื่อใจผมเท่าไหร่ ไอ้เวรเนี่ยมันไม่เข็ดกับตีนผม
ติ๊ง. เสียงประตูลิฟต์ดังขึ้นพร้อมกับที่ประตูเปิดออกผมจึงเดินออกมาจากลิฟต์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเดินไปทางประตูห้องทำงาน
“ไปเรียกไอ้เคเข้ามาพบกูด้วย”
“ครับนาย”
ผมหันไปสั่งลูกน้องที่มันยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องทำงานของผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน แล้วหมุนเก้าอี้หันหลังพร้อมกับประสานมือขึ้นนั่งพิงเก้าอี้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมขณะที่สายตาจ้องไปที่รูปภาพแกะสลักเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่สีทองที่ติดอยู่บนผนังห้องอย่างใช้ความคิด ผมกำลังคิดว่าจะเอาเรื่องของน้ำฟ้ายังไงดี ครั้งแรกตอนที่เจอกับเธอผมยอมรับว่าเธอน่าสนใจเพราะความสวยและไร้เดียงสาที่ดูไม่พิษมีภัยของเธอ จนผมรู้สึกเห็นใจและสงสารเธอ ยิ่งผมได้เจอเธอเมื่อคืนและได้รู้ถึงสภาพความเป็นอยู่ของเธอ ผมยิ่งรู้สึกว่าปล่อยเธอไม่ได้ เธอน่าสงสารเกินไป...
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ผมมาแล้วครับนาย”
ผมได้ยินเสียงไอ้เคดังอยู่ข้างหลังจึงค่อยๆ หมุนเก้าอี้หันไปหามันที่ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานผม
“เด็กที่ชื่อน้ำฟ้า วันนี้มาทำงานรึเปล่า”
“ผู้จัดการบอกว่าเธอขอลาครับ เพราะไม่สบาย” หึ ก็แน่สิเมื่อคืนกลับไปสภาพขนาดนั้นถ้ามาทำงานดิแปลก
“แล้วคนอื่น ๆ เป็นไงบ้าง”
“คนอื่น ๆ ไม่มีปัญหาครับนาย”
“อืม...แล้วเมื่อคืนมึงให้น้ำฟ้าทำงานส่วนไหน ทำไมกูเจอเธอกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ แถมสภาพยอย่างกับโดนรุมโทรม”
“เอ๋อ... คือ เมื่อคืนเธอรับแขกแค่คนเดียวเองครับเป็นไฮโซหนุ่มจากฮ่องกง แต่ที่เธอกลับไปสภาพนั้นเพราะโดนเด็กใหม่ที่เข้ามาด้วยกันรุมทำร้ายครับนาย”
“โดนรุม? รุมทำไม” ผมขมวดคิ้วเป็นปมขึ้นมาทันทีที่ได้รับข่าวใหม่จากไอ้เคอย่างสงสัย
“เห็นผู้จัดการบอกว่า พวกเธออิจฉาคุณน้ำฟ้าที่นายเรียกไปพบที่ห้องครับ”
“ฉิบ!! วุ่นวายฉิบหาย มึงไปเรียกพวกที่รุมน้ำฟ้ามาดิ ตอนนี้เลย”
“ครับนาย” ผมสั่งไอ้เคให้ไปตามพวกเด็กใหม่ที่มีปัญหากันให้เข้ามาพบผม เพราะผมโคตรไม่ชอบเรื่องทะเลาะกันในคาสิโนของผมที่สุด มันน่ารำคาญ แล้วอีกอย่างในกฎบังคับก็มีให้อ่าน แม่งอ่านกันไม่ออกรึไงว่ะ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เข้ามา!” ผมที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังโต๊ะทำงานตะโกนออกไปอย่างหงุดหงิด หลังได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับที่มีหญิงสาวสามคนเดินเข้ามาด้วยท่าทางประหม่า
“คุณรามสูรสวัสดีค่ะ” เสียงหญิงสาวสามคนเอ่ยทักทายผมด้วยเสียงที่เบาหวิว คงกำลังรู้สึกประหม่ากับสีหน้าของผมตอนนี้ที่ยืนเท้าเอวทำหน้าครึ้มอยู่ตรงหน้าพวกเธอ
“เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น”
“เอ๋อ....”
“ฉันถามให้ตอบ ไม่ใช่ยืนเซ่อ!!!” ผมตะคอกออกไปเสียงดังจนพวกเธอสะดุ้งรีบก้มหน้าหลบสายตาผมอย่างหวาดกลัว ก็แน่สิตอนนี้ผมโคตรอารมณ์เสียฉิบหาย แม่งมีแต่เรื่อง
“พวกเธอไปแกล้งน้ำฟ้าทำไม” ผมถามคำถามที่อยากรู้ไปตรง ๆ จนพวกเธอค่อย ๆ เงยหน้ามาสบตาผมและเอ่ยพูดคำที่ผมโคตรไม่อยากได้ยินเวลาที่มีปัญหาขึ้นมา เพราะมันน่าเบื่อ
“พวกเราขอโทษค่ะคุณรามสูร”
“หึ เมื่อวานฉันให้อ่านกฎบังคับของทีนี่แล้ว อ่านไม่ออกหรือโง่ภาษาไทยที่ไม่รู้ว่าที่นี่ห้ามมีเรื่องทะเลาะกันห่ะ!!!”
“ออกไปให้หมด ฉันไล่ะพวกเธอออก!!”
“คะคุณรามสูรค่ะ ขอโอกาสให้พวกเราเถอะนะคะ” หนึ่งในสามคนที่ยืนอยู่มีหญิงสาวหนึ่งคนที่กล้าเอ่ยขอโอกาสกับผม ฮึ สำหรับผมถ้าไล่คือไล่ไม่มีโอกาสใด ๆ ทั้งนั้น
“ไม่มีโอกาสสำหรับพวกเธอ ออกไปซ่ะ อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ”
หลังจากที่สามคนนั้นเดินออกไปแล้ว ผมจึงเดินลงไปดูงานด้านล่างที่เป็นโซนของลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการด้วยสีหน้าที่ยังคงมีอารมณ์หงุดหงิดอยู่
ตุบ!!
"Sorry" ผมเอ่ยขอโทษไปกับผู้หญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตาออกหมวยๆ หน่อยก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นชาวต่างชาติโซนเอเชียที่เข้ามาใช้บริการที่คาสิโนผม จึงเอ่ยขอโทษเป็นภาษาสากลกลับไป
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก"
“เป็นคนไทย?” ผมเอ่ยถามเธอด้วยความสงสัยแต่ยังคงความนิ่งเหมือนเดิมพร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงมองเธอ
“ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกงนะคะ ก็เลยพูดไทยได้”
“อ๋อ ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกครึ่งผมจึงเตรียมจะเดินออกไปจากตรงนั้น
“เดี๋ยวสิคะ คุณ....” แต่เธอก็ดันเรียกผมสักก่อน ผมจึงตวัดสายตาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะรู้สึกเหมือนเธอกำลังจะอ่อยผมว่ะ แต่ผมไม่อยากยุ่งไง ก็เลยรีบแนะนำชื่อตัวเองออกไป
“รามสูร ครับ”
"คุณรามสูร? ใช่ที่เป็นเจ้าของที่นี่หรือเปล่าคะ ดีเลยค่ะคือตอนนี้ฉันหิวมากและอยากไปหาอะไรทาน พอดีตอนนี้ฉันหลงกับพี่ชายด้วยค่ะ" เธอตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มสดใสพร้อมกับยื่นมือของเธอมาจับแขนผมไว้อย่างถือวิสาสะ ผมจึงก้มลงไปมองที่แขนที่มีมือเธอจับอยู่อย่างไม่ค่อยชอบใจนัก จนเธอรู้ตัวว่าผมมองอยู่จึงรีบดึงมือออกไป
"ที่นี่จะมีศูนย์อาหารอยู่ที่ชั้น5 คุณลองขึ้นไปดูละกันนะครับ"
"เอ๋อ....คือ ฉันไม่เคยไปนะคะ คุณช่วยพาฉันไปหน่อยได้ไหมคะ" ผมแม่งเบื่อการเข้าหาของผู้หญิงแบบนี้มาก คือมองตาก็รู้แล้วไหมวะ ว่ากำลังอ่อยผมอยู่อะ ฉิบ แล้วไอ้พวกเด็กพนักงานแถวนี้แม่งก็ไม่รู้หายหัวไปไหนกันหมด
"ผมขอโทษด้วยนะครับ พอดีผมรีบไปทำธุระต่อ เดี๋ยวคุณลองเดินไปตามสัญลักษณ์ที่มีบอกอยู่ละกันนะครับ" พูดจบผมก็เดินออกไปทันทีโดยไม่หันไปมองเธอ
ไอริณ Talk
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อไอริณ เป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง มีพี่ชาย1คน ชื่อ ออสติน วันนี้ฉันมาเที่ยวที่คาสิโนกับพี่ชายแต่ตอนนี้ฉันหลงกับพี่ชายแล้วตอนนี้ฉันก็หิวมากด้วย ฉันกำลังสับสนและไปไม่ถูกเพราะที่นี่ยิ่งใหญ่หรูหราอลังการมาก เป็นคาสิโนที่ฉันคิดว่าดีที่สุดในประเทศแล้วล่ะ แต่ในขณะที่ฉันกำลังเดินหาทางไปศูนย์อาหาร อยู่ ๆ ก็ชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง
แวบแรกที่เห็นฉันแทบอึ้งเลยแหละคือเขาดูดีมากทั้งสูงหล่อดูภูมิฐานและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกันแต่ฉันชอบสายตานิ่งๆ ของเขาน่ะฉันรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่าค้นหาดีและดูดุแบบแบดๆ ด้วยอะสเปคฉันเลยล่ะแบบนั้น เราทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่สักพักจนฉันได้รู้ว่าเขาชื่อรามสูรเป็นเจ้าของที่นี่ ฉันแทบตกใจที่ได้เจอตัวจริงอย่างรามสูรที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักและอยากได้กันค่อนประเทศ
แต่ฉันแค่ได้ยินชื่อเขาไม่เคยเจอเขาตัวเป็นๆ สักทีจนมีโอกาสได้รู้จักเขาเมื่อกี้นี้ ฉันจึงแอบดีใจอยู่ลึกๆ ที่สำคัญเขายังโสด เหตุผลนี้แหละยิ่งทำให้เขาดูน่าเข้าหาอีกเท่าตัวและมีผู้หญิงต่อคิวอยากได้เขาไปครอบครอง แต่น่าเสียดายที่เขาติดธุระสักก่อนเลยไม่ทันได้แนะนำตัว ไม่อย่างนั้นอาจจะได้รู้จักลึกกว่านี้อีก.... ^^
